[รีวิว] JBL Flip 4 ลำโพงบลูทูธรุ่นใหม่ล่าสุด ให้เสียงเบสแน่น พร้อมฟีเจอร์สุดล้ำ รองรับการสั่งการด้วยเสียง บนบอดี้แบบกันน้ำ วางจำหน่ายแล้วในราคา 4,390 บาท

หน้าฝนแบบนี้ การจัดงานปาร์ตี้เล็ก ๆ นอกบ้านกับเพื่อนฝูงหรือครอบครัว คงจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเสียหน่อย เพราะนอกจากจะต้องดวงดี เลือกวันที่ฝนไม่ตกแล้ว คงจะไม่ใช่เรื่องดีถ้าหากอุปกรณ์เครื่องเสียงโดนฝน แต่ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Gadget ที่ทีมงาน techmoblog นำมารีวิวกันในวันนี้ กับ JBL Flip 4 ลำโพงไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด ที่นอกจากจะมีขนาดที่กะทัดรัด พกพาได้สะดวกแล้ว ยังมีคุณสมบัติด้านการกันน้ำในระดับ IPX7 หมดกังวลเรื่องน้ำที่จะทำให้ตัวเครื่องเสียหายไปได้เลย

นอกเหนือจากคุณสมบัติด้านการกันน้ำแล้ว JBL Flip 4 ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 4.2 หรือจะเชื่อมต่อด้วยการใช้งาน AUX ก็ได้เช่นเดียวกัน ในด้านการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนนั้น รองรับการเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 2 เครื่อง และมี Built-in Microphone รองรับการใช้งานโทรศัพท์สำหรับสนทนาเมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้าง

นอกจากนี้ JBL Flip 4 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh สามารถใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 12 ชั่วโมง แต่ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เพียงแค่ 3.5 ชั่วโมงเท่านั้น

มาดูกันดีกว่าว่า ลำโพงไร้สาย JBL Flip 4 รุ่นนี้ จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง กับบทความ รีวิว JBL Flip 4 โดยทีมงาน techmoblog ครับ

แกะกล่อง JBL Flip 4

สำหรับ JBL Flip 4 นั้น เป็นลำโพงไร้สายรุ่นที่ 4 ของตระกูล Flip ซึ่งยังคงดีไซน์เดียวกับรุ่นก่อนหน้า แต่มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่ดีกว่ามาก โดยตัวเครื่องมีขนาดอยู่ที่ 68 x 175 x 70 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่า ขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้สามารถพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างสะดวก อีกทั้งตัวลำโพงยังมีความแข็งแรงและแน่นหนา ส่วนขอบด้านข้างเป็นซิลิโคน ช่วยกันกระแทก

ด้านข้างตัวเครื่อง ประกอบด้วยปุ่มควบคุมการทำงาน ซึ่งประกอบด้วย ปุ่มเล่นเพลง, ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเชื่อมต่อ Bluetooth

ส่วนด้านหลังของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง, แถบแสดงระดับแบตเตอรี่, ปุ่ม JBL Connect+ และพอร์ตการเชื่อมต่อที่มีฝาปิดเป็นยาง ป้องกันไม่ให้น้ำเข้า

โดยพอร์ตการเชื่อมต่อนั้น ประกอบด้วย ช่องต่อ AUX และพอร์ต microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งภายในกล่อง จะมีสาย microUSB มาให้ด้วย

ด้านข้างซ้ายและขวาของตัวเครื่อง จะเป็นซัปวูฟเฟอร์ที่มาพร้อมเทคโนโลยี JBL Bass Radiator ให้เสียงเบสที่มีเนื้อสัมผัสแน่นและชัดเจน โดยจะเห็นว่า ขอบยางจะมีลักษณะเป็นรอยบาก ผิวเรียบไม่เท่ากัน นั่นเป็นเพราะว่า ในกรณีที่วางลำโพง JBL Flip 4 ในแนวตั้ง รอยบากเหล่านี้จะเป็นช่องว่างทำให้ไม่ปิดเสียงเบสนั่นเอง

เช่นเดียวกับ JBL Flip 3 รุ่นก่อนหน้า เมื่อ JBL Flip 4 นั้น มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านการกันน้ำ-กันฝุ่นตามมาตรฐาน IPX7 แต่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าตรงที่ นอกจากจะป้องกันน้ำกระเซ็น, น้ำฝน หรือน้ำสาดได้แล้ว ยังสามารถนำ JBL Flip 4 ไปแช่ในน้ำได้ ซึ่งรองรับที่ระดับน้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาที ฉะนั้น หมดกังวลในกรณีที่นำ JBL Flip 4 ไปใช้งานริมสระ และเผลอทำตกน้ำ รวมไปถึงการใช้งานทั่ว ๆ ไป อย่างเช่น เปียกฝน หรือใช้วันสงกรานต์

วิธีการเชื่อมต่อ JBL Flip 4 และทดสอบการใช้งาน

ก่อนจะเริ่มใช้งาน JBL Flip 4 นั้น จะต้องเชื่อมต่อตัวลำโพงกับสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อื่นเสียก่อน ด้วยการเปิดตัวเครื่องที่ปุ่ม Power ก็จะปรากฏไฟสีขาวเพื่อระบุว่า ตัวเครื่องได้ถูกเปิดใช้งานแล้ว พร้อมกับไฟแสดงสถานะของแบตเตอรี่ จากนั้น เชื่อมต่อ JBL Flip 4 กับสมาร์ทโฟนผ่านทาง Bluetooth ด้วยการเข้าไปที่ Settings > Bluetooth เพื่อทำการเชื่อมต่อ เมื่อเชื่อมต่อได้สำเร็จแล้ว ไฟตรงปุ่ม Power จะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า

อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า JBL Flip 4 มาพร้อมกับฟีเจอร์ JBL Connect+ สามารถเชื่อมต่อกับลำโพง Flip 4 หรือลำโพงรุ่นอื่น ๆ ได้แก่ JBL Pulse 2, JBL Pulse 3, JBL Charge 3, JBL Flip 3 และ JBL Xtream ได้มากกว่า 100 เครื่องพร้อมกัน ซึ่งจะต้องทำผ่านแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า JBL Connect ที่สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีทั้งบน iOS และ Android

โดยแอปพลิเคชัน JBL Connect นั้น สามารถตั้งค่าการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Stereo Mode กับการใช้ลำโพง 2 ตัวแยกเสียงเป็นด้านซ้ายหรือด้านขวา รวมถึงการรองรับการสั่งงานด้วยเสียง ผ่านทาง Google Now (Android) หรือ Siri (iOS) เพื่อสั่งให้เล่นเพลงที่ต้องการได้อีกด้วย

ในส่วนคุณภาพเสียงที่ได้จาก JBL Flip 4 รุ่นนี้ ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของลำโพง JBL นั่นก็คือ เสียงเบส ที่มีอิมแพคหนักแน่นและชัดเจน รวมไปถึงเสียงกลางที่มีความคมชัด นอกจากนี้ ยังสามารถแยกแยะเสียงเครื่องดนตรีได้อย่างดีเยี่ยม เสียงไม่ทับซ้อนกัน โดยรวมนั้นเหมาะสำหรับการฟังเพลงได้หลากหลายแนว ทั้ง Pop, Acoutic หรือจะเป็น R&B เน้นเสียงเบสก็ได้เช่นกัน

บทสรุปการใช้งาน

สำหรับ JBL Flip 4 นั้น ถือว่าเป็นลำโพงไร้สายรุ่นสานต่อ ที่มีการปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ JBL ในซีรี่ส์ Flip เหมือนเช่นเคย ส่วนแรกก็คือ ดีไซน์ตัวเครื่อง ที่ถูกออกแบบมาให้พกพาได้อย่างสะดวก ด้วยขนาดที่กะทัดรัด ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถจับถือด้วยมือข้างเดียวได้ ถัดมาก็คือ ฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ที่ครอบคลุมทั้งฟังก์ชันการเชื่อมต่อ โดยรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านทาง Bluetooth 4.2 หรือผ่านทางช่องต่อ AUX ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ 2 เครื่องพร้อมกัน และสามารถใช้เป็นลำโพงสำหรับการใช้งานด้านโทรศัพท์ได้ นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งานด้านการฟังเพลงยาวนานถึง 12 ชั่วโมง ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh ที่ใช้เวลาในการชาร์จเพียง 3.5 ชั่วโมงเท่านั้น

จุดขายของ JBL Flip 4 อีกด้าน นั่นก็คือ คุณสมบัติด้านการกันน้ำ-กันฝุ่น ตามมาตรฐาน IPX7 ที่นอกจากจะกันน้ำกระเซ็น หรือน้ำฝนได้แล้ว สิ่งที่เหนือกว่ารุ่นที่แล้ว นั่นก็คือ สามารถนำไปแช่น้ำได้ โดยอยู่ในน้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาที หมดกังวลถ้าหากนำไปใช้งานริมสระว่ายน้ำ, กลางสายฝน หรือช่วงเทศกาลสงกรานต์

ไม่เพียงเท่านั้น JBL Flip 4 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน JBL Connect+ สามารถเชื่อมต่อกับลำโพง JBL Flip 4 หรือรุ่นอื่น ๆ ที่รองรับได้มากกว่า 100 เครื่องพร้อมกัน ผ่านทางแอปพลิเคชัน JBL Connect ที่นอกจากจะสามารถตั้งค่าให้ลำโพง 2 ตัวแยกเสียงซ้ายและขวาแล้ว ยังรองรับการสั่งการด้วยเสียงผ่านทางผู้ช่วยส่วนตัวอย่าง Siri บน iOS หรือ Google Now บน Android ทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม

สำหรับราคาของ JBL Flip 4 รุ่นนี้ อยู่ที่ 4,390 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ, สีขาว, สีเขียว, สีน้ำเงิน, สีแดง และสีเทา สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mahajaklife.com

---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 11/07/2017

JBL Flip 4 ลำโพง JBL รีวิว JBL Flip 4