Samsung Galaxy S6 ลดแล้ว Samsung S6 ปรับราคาลง เหลือ 20,900 บาท ที่ร้าน Jaymart เท่านั้น

หลังจากที่ทาง techmoblog  อัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับมือถือ iphone รุ่นเก่าเริ่มลดกระหน่ำต้อนรับการมาเยือนของ iphone 6s   ล่าสุด ทางฝั่ง Samsung ก็เริ่มลดราคามือถือของทางฝั่งตัวเองบ้างแล้ว   ล่าสุด Samsung Galaxy S6   มือถือเรือธงของ ซัมซุง ก็ได้ปรับลดราคาลงจาก 23,900 บาท เหลือ 20,900 บาท  ซึ่งลดไปถึง 3,000 บาทโดยลดราคาเฉพาะที่ร้าน J-mart เท่านั้นนนะครับ ส่วน Samsung Galaxy S6 edge ปรับ จากราคาปกติ 27,900 บาท เหลือ 23,900 บาทเท่านั้น งานนี้ ใครอยากได้ ต้องรีบไปจับจองกันโดยด่วน สินค้าน่าจะมีจำนวนจำกัดที่ร้าน Jaymart เท่านั้นนะครับ


 

6 ฟีเจอร์ที่คุณอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับ Samsung Galaxy S6

วางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy S6 สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง ที่ปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ด้วยตัวเครื่องแบบโลหะ และบางเฉียบกว่าเดิม น่าใช้มากยิ่งขึ้น นอกเหนือไปจากการออกแบบที่ดูสวยหรูขึ้นแล้ว Samsung Galaxy S6 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย ที่ทำให้ผู้ใช้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น มาดูกันว่า มีอะไรกันบ้าง

1. Quick Launch

สำหรับฟีเจอร์ Quick Launch นั้น น่าจะเคยพอได้ยินกันมาบ้างแล้ว กับการเปิดแอปพลิเคชันกล้องอย่างรวดเร็วในหน้า Lock Screen ด้วยการใช้เวลาเพียง 0.7 วินาทีเท่านั้น ด้วยการกดปุ่ม Home 2 ครั้ง ทำให้ไม่พลาดทุกช็อตสำคัญ และไม่ต้องค้นหาแอปฯ กล้องให้เสียเวลาอีกต่อไป

2. รับสายอัตโนมัติ เมื่อเชื่อมต่อผ่านหูฟังแบบ Bluetooth

สำหรับใครที่ใช้หูฟังแบบ Bluetooth เพื่อรับสายขณะขับรถ คงจะชื่นชอบฟีเจอร์นี้กันอย่างแน่นอน เมื่อบน Samsung Galaxy S6 นั้น จะมีฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า Automatic answering ในการตอบรับสายเรียกเข้าอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องกดปุ่มเพื่อกดรับสายก่อนแต่อย่างใด โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าการใช้งานได้ Settings > Call Settings แต่อย่าลืมว่า จะต้องเชื่อมต่อหูฟัง Bluetooth ไว้ทุกครั้งด้วย

3. Manual zoom

ปกติแล้ว เว็บเพจส่วนใหญ่ จะมีการตั้งค่าให้เป็นแบบ Mobile View เมื่อใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่ บางเว็บไซต์ จะมีการล็อคฟังก์ชัน ไม่ให้ผู้ใช้ทำการซูมหน้าเพจ ซึ่งเบราว์เซอร์บน Samsung Galaxy S6 นั้น มีการแก้ปัญหาดังกล่าว กับฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า Manual zoom ซึ่งสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Settings > Internet Settings และเปิดใช้งาน Manual zoom

4. Mini apps

เช่นเดียวกับ มือถือซัมซุง รุ่นอื่นๆ เมื่อ Samsung Galaxy S6 ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ Mini apps ด้วยเช่นกัน โดยผู้ใช้สามารถย่อขนาดแอปฯ ให้เล็กลงได้ ด้วยการลากมุมบนขวา ให้เหลือขนาดแอปฯ ตามที่ต้องการ และสามารถเปิดแอปฯ อื่นขึ้นมาในหน้าจอเดียวกันได้

5. ความลับของ S View Cover

สำหรับเคสแบบ S View Cover นั้น กรอบเล็กๆ ด้านหน้า นอกจากจะใช้ดูเวลาแล้ว ยังสามารถทำอะไรได้หลายๆ อย่าง เช่น เปิดแอปฯ กล้องแล้วถ่ายรูปได้, รับโทรศัพท์ได้, ตั้งค่าการใช้งานต่างๆ, ควบคุมเครื่องเล่นเพลง หรือแม้แต่จะดูรูปภาพในคลังภาพ ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยที่ผู้ใช้ ไม่จำเป็นต้องเปิดฝาพับของเคสแต่อย่างใด

6. สามารถเลือกวอลเปเปอร์ ให้กับ S View Cover ได้ด้วย

วอลเปเปอร์ ใครว่าจะตั้งค่าได้เฉพาะหน้า Lock Screen และ Home Screen เมื่อบน Samsung Galaxy S6 สามารถตั้งค่าภาพวอลเปเปอร์ บนหน้าจอของ S View Cover ได้ด้วย โดยให้เข้าไปที่ Wallpaper แล้วเลือก S View window แทน เพียงแค่นี้ ก็ได้ภาพวอลเปเปอร์สวยๆ บน S View Cover แล้ว

สำหรับใครที่ใช้ Samsung Galaxy S6 อยู่ ลองนำฟีเจอร์ดังกล่าวข้างต้น ไปปรับใช้งานกันดูนะครับ - phonearena.com

Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge เวอร์ชัน Iron Man มาแน่ เดือนหน้า

เรียกได้ว่า ใครที่เป็นแฟนคลับของทั้ง ซัมซุง และ Marvel คงได้เฮกันไปตามๆ กัน เมื่อล่าสุด มีรายงานว่า ซัมซุง จับมือกับ Marvel ร่วมกันผลิต Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge เวอร์ชัน Iron Man แล้ว เข้ากับกระแสของภาพยนตร์ Avengers: Age of Ultron ที่กำลังเข้าฉายในตอนนี้พอดิบพอดี

โดยทาง Lee Young Hee ผู้บริหารฝ่ายการตลาด เผยว่า Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge เวอร์ชัน Iron Man นั้น จะมาพร้อมกับตัวเครื่องสีแดง แต่ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ กำลังหารือร่วมกับทาง Marvel อยู่ในตอนนี้ ซึ่งกำหนดการเปิดตัว เวอร์ชัน Iron Man คาดว่า น่าจะเป็นช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ หรือไม่ก็ต้นเดือนมิถุนายน

ส่วน Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge เวอร์ชัน Iron Man จะมีฟีเจอร์อะไรบ้าง ต้องติดตามกันต่อไป - sammobile.com

รีวิว Samsung Galaxy S6

เปิดให้ผู้ที่สนใจได้จับจองกันอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา สำหรับ Samsung Galaxy S6 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ถือว่า มีกระแสตอบรับที่ดีกว่ารุ่นที่ผ่านๆ มาเลยก็ว่าได้ โดยจุดขายหลักๆ ของ Samsung Galaxy S6 นี้ นอกจากจะมาพร้อมตัวเครื่องสเปคแรง ซึ่งเป็นแบบฉบับของ มือถือเรือธง แล้ว ในเรื่องของดีไซน์ ก็นำมาปัดฝุ่นใหม่ตั้งแต่หัวจรดท้าย ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Dual-Glass Design พร้อมกระจกแบบ Corning Gorilla Glass 4 ที่ด้านหน้า และด้านหลังของตัวเครื่อง ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีดีไซน์สวยและพรีเมียมที่สุดเท่าที่สมาร์ทโฟนในตระกูล Galaxy S เคยมีมาอีกด้วย

สำหรับคุณสมบัติของ Samsung Galaxy S6 นั้น ประกอบไปด้วย หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.1 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล, ชิปเซ็ต Exynos 7420 แบบ Octa-Core Processor (64-bit) ซึ่งประกอบด้วย หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Cortex-A57 ความเร็ว 2.1 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 32 GB, 64 GB และ 128 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้าง F/1.9, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้าง F/1.9 และระบบกันภาพสั่น (OIS) อีกทั้ง ยังรันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop) ตั้งแต่แกะกล่องอีกด้วย นอกจากนี้ Samsung Galaxy S6 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์และลูกเล่นการใช้งานอีกมากมาย ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาสัมผัสไปพร้อมๆ กันกับ รีวิว Samsung Galaxy S6 โดยทีมงาน techmoblog ครับ

• จอแสดงผลกว้าง 5.1 นิ้ว แบบ Quad HD Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (577 ppi)
• ชิปเซ็ต Exynos 7420 แบบ Octa-Core Processor (64-bit) ประกอบไปด้วย หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Cortex-A57 Processor ความเร็ว 2.1 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 Processor ความเร็ว 1.5 GHz
• หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T760 GPU
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
• หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 32 GB, 64 GB และ 128 GB
• แบตเตอรี่ Li-Ion 2550 mAh
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
• รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop)

>> สเปค Samsung Galaxy S6 อย่างละเอียด คลิกที่นี่

อย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้นว่า จุดขายหลักของ Samsung Galaxy S6 นั้น อยู่ที่ดีไซน์ที่ดูพรีเมียมและหรูหรามากขึ้น ซึ่งเป็นดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Dual-Glass Design พร้อมกระจกแบบ Corning Gorilla Glass 4 ที่ด้านหน้า และด้านหลังของตัวเครื่อง ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี โดย Samsung Galaxy S6 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลกว้าง 5.1 นิ้ว แบบ Quad HD Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (577 ppi), ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 143.4 x 70.5 x 6.8 มิลลิเมตร และหนัก 138 กรัม

ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน, Accelerometer Sensor หมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, ลำโพงสำหรับสนทนา และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9

ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ (Back) โดยปุ่ม Home รองรับการสแกนลายนิ้วมืออีกด้วย

สำหรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบน Samsung Galaxy S6 นั้น ใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่แตะเพื่อปลดล็อค ไม่ต้องใช้การรูดนิ้วเหมือนกับ Samsung Galaxy S5 อีกต่อไป

ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด หรือล็อคหน้าจอแสดงผล และถาดใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นปุ่มปรับระดับเสียง

ด้านบนตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และอินฟราเรด สำหรับควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชัน Smart Remote ส่วนด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วยช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต microUSB, ไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา และลำโพงเสียง

ด้านหลังตัวเครื่อง ประกอบด้วย กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ไฟแฟลชแบบ LED, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 และระบบกันภาพสั่นแบบ OIS ส่วนด้านล่างไฟแฟลช จะเป็น Heart Rate Sensor หรือเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ โดย Samsung Galaxy S6 ไม่สามารถถอดแกะฝาหลังได้ ซึ่งภายในประกอบด้วย แบตเตอรี่ขนาด 2550 mAh

นอกเหนือไปจากดีไซน์ตัวเครื่อง ที่ถือว่า เป็นจุดขายของ Samsung Galaxy S6 แล้ว ความโดดเด่นของรุ่นนี้ ก็คือ กล้องดิจิตอลทั้งด้านหน้าและด้านหลังนั่นเอง โดย Samsung Galaxy S6 มาพร้อมกับ กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 ส่วนกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันภาพสั่นแบบ OIS และรูรับแสงกว้าง F/1.9 เช่นกัน

ไม่เพียงเท่านั้น Samsung Galaxy S6 ยังมาพร้อมกับระบบเปิดกล้องเร็วเพียง 0.7 วินาที (Quick Launch) ด้วยการกดที่ปุ่ม Home 2 ครั้ง

มาดูที่กล้องด้านหน้ากันก่อน มาพร้อมกับโหมดการถ่ายภาพ 4 โหมดด้วยกัน ได้แก่ ถ่ายภาพตนเอง, ถ่ายภาพตนเองแบบกว้าง, ช็อตเสมือนจริง และช็อตเว้นช่วง ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดโหมดการถ่ายภาพอื่นๆ เพิ่มเติมได้

สำหรับโหมดการถ่ายภาพตนเอง ผู้ใช้สามารถปรับความเนียนของใบหน้าได้ตามใจ นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งเวลาถ่ายภาพ (2 วินาที, 5 วินาที, 10 วินาที) และใส่เอฟเฟกต์ให้กับภาพถ่ายได้อีกด้วย

สรุปการทดสอบการถ่ายรูปด้วยกล้องด้านหน้า บน Samsung Galaxy S6 ได้ผลเป็นที่น่าพอใจครับ น่าจะถูกใจขาเซลฟี่ไม่น้อยทีเดียว

มากันที่กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล กันบ้าง ซึ่งมาพร้อมกับโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อัตโนมัติ, โปร, โฟกัสที่เลือก, พาโนรามา, เคลื่อนไหวช้า, เคลื่อนไหวเร็ว, ช็อตเสมือนจริง และสามารถดาวน์โหลดโหมดการถ่ายภาพอื่นๆ เพิ่มเติมได้

นอกจากนี้ ยังสามารถเปิด-ปิดไฟแฟลช, ตั้งเวลาถ่ายภาพ (2 วินาที, 5 วินาที, 10 วินาที), เปิด-ปิด HDR และใส่เอฟเฟกต์ให้กับภาพถ่ายได้เช่นกัน

** ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลังในโหมดอัตโนมัติ

และเนื่องจาก Samsung Galaxy S6 มาพร้อมกับรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 ทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลัง ทางทีมงาน จึงได้ทำการทดสอบถ่ายภาพในตอนกลางคืน เปรียบเทียบกับ iPhone 6 Plus ให้ชมกัน มาดูกันว่า ทั้ง 2 รุ่นให้ภาพที่แตกต่างกันแค่ไหน

Samsung Galaxy S6

iPhone 6 Plus

Samsung Galaxy S6

iPhone 6 Plus

Samsung Galaxy S6

iPhone 6 Plus

Samsung Galaxy S6

iPhone 6 Plus

Samsung Galaxy S6 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop) ตั้งแต่แกะกล่อง พร้อมอินเทอร์เฟส TouchWiz UI เวอร์ชันใหม่ ที่มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์เล็กน้อย แต่ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม โดยการปลดล็อคหน้าจอ นอกจากจะใช้การสแกนลายนิ้วมือผ่านปุ่ม Home แล้ว ยังสามารถปัดเพื่อปลดล็อคได้ ส่วนการกดปุ่ม Power ค้าง จะเข้าสู่เมนูลัด ซึ่งได้แก่ ปิดเครื่อง, โหมดการบิน, เริ่มใหม่ และโหมดฉุกเฉิน

หน้า Homescreen นั้น ผู้ใช้สามารถเลือกปรับแต่งได้ตามใจ ทั้งภาพวอลเปเปอร์, Widget และธีม โดยสามารถเลือกแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยที่สุด มาสร้างเป็น Shortcut ไว้ที่หน้านี้ได้

Notification Center แถบรวมการแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งข้อความจาก SMS, อีเมล รวมไปถึงเมนูลัดในการตั้งค่าการใช้งาน เช่น เปิด-ปิด Wi-Fi, GPS, เสียง, การหมุนหน้าจอ, เปิด-ปิด Bluetooth รวมไปถึงการปรับความสว่างของหน้าจออีกด้วย

ส่วนการแตะปุ่ม Recent Apps 1 ครั้ง จะเข้าสู่เมนู Multitasking นั่นเอง สามารถสลับการใช้งานไปยัง แอปพลิเคชันอื่น ที่เปิดก่อนหน้านั้นได้ หรือลบแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งาน

การปัดหน้าจอจากด้านซ้ายไปด้านขวา จะเข้าสู่เมนูลัดของแอปพลิเคชัน Flipboard สำหรับอ่านบทความ หรือข่าวสารที่น่าสนใจในแต่ละวัน

สำหรับหน้า App Drawer จะเห็นได้ว่า มีแอปพลิเคชันพื้นฐานติดตั้งมาให้อย่างมากมายเลยทีเดียว แต่ถ้าหากยังไม่เพียงพอต่อการใช้งาน สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ที่ Play Store

สำหรับเบราว์เซอร์บน Samsung Galaxy S6 นั้น มีให้เลือกใช้ทั้ง Android Browser และ Google Chrome แต่ถ้าหากยังไม่ถูกใจ สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ที่ Play Store เช่นกัน

ส่วนแอปพลิเคชันพื้นฐานที่ต้องมีติดเครื่อง อย่าง เครื่องคิดเลข และ เครื่องบันทึกเสียง ก็ถูกติดตั้งมาแล้วเช่นกัน

Smart Remote เป็นแอปพลิเคชันสำหรับเชื่อมต่อ Samsung Galaxy S6 กับโทรทัศน์ แล้วใช้ตัวเครื่องเป็นรีโมทคอนโทรล ผ่านทางพอร์ตอินฟราเรดที่อยู่ด้านบนตัวเครื่องนั่นเอง

Smart Manager แอปพลิเคชันสำหรับตรวจสอบข้อมูลการใช้งานต่างๆ เช่น สถานะแบตเตอรี่, ที่เก็บข้อมูล, RAM, ความปลอดภัย และอื่นๆ

สำหรับการดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน นอกจากจะมี Play Store แล้ว ยังมี GALAXY Apps ซึ่งเป็นแหล่งรวมแอปพลิเคชันที่ทาง ซัมซุง ได้คัดสรรมาให้ผู้ใช้ได้เลือกดาวน์โหลดกันนั่นเอง

นอกจากนี้ ยังมีแอปพลิเคชันจาก ไมโครซอฟท์ อย่างเช่น OneDrive และ Skype ติดตั้งมาให้ด้วย

รวมไปถึงบริการต่างๆ จาก กูเกิล ครับ

Samsung Galaxy S6 มีระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS, GLONASS รองรับการใช้งานกับระบบดาวเทียมของรัสเซีย และ Beidou ระบบดาวเทียมของจีน สามารถใช้งานคู่กับแอปพลิเคชันแผนที่อย่าง Google Maps ได้

แม้ว่าขนาดหน้าจอบน Samsung Galaxy S6 จะไม่ใหญ่เท่า Galaxy Note 4 แต่ก็มีฟังก์ชัน Multi-Window รองรับการเปิดแอปพลิเคชัน 2 ตัวในหน้าจอเดียว ซึ่งจะมีแอปพลิเคชันให้เลือก

นอกจากนี้ ยังสามารถปรับเปลี่ยนขนาดและมุมมองของแต่ละแอปพลิเคชันได้

มาทดสอบการเล่นเกมบน Samsung Galaxy S6 กันบ้างครับ โดยรุ่นนี้ มาพร้อมกับ ชิปเซ็ต Exynos 7420 แบบ Octa-Core Processor (64-bit) ประกอบไปด้วย หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Cortex-A57 Processor ความเร็ว 2.1 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 Processor ความเร็ว 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T760 GPU และหน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB แน่นอนว่า ประมวลผลการทำงานได้อย่างรวดเร็ว และลื่นไหล ใครที่ชอบเล่นเกมบนมือถืออยู่แล้ว Samsung Galaxy S6 รุ่นนี้ ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน

ปิดท้ายด้วยการทดสอบ Benchmark กันบ้าง โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant วัดความเร็วในการทำงานของ CPU และกราฟฟิค อยู่ที่ 32672 คะแนน และ AnTuTu ทดสอบ CPU, 2D & 3D graphics, SD card และ Database อยู่ที่ 57072 คะแนน

ส่วนมัลติทัช รองรับที่ 10 จุดครับ

สำหรับ Samsung Galaxy S6 นั้น เป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญของซัมซุง โดยเฉพาะด้านดีไซน์ตัวเครื่อง ที่ดูพรีเมียม และการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง โลหะกับกระจก เรียกได้ว่า สวยที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับสมาร์ทโฟนในตระกูล Galaxy S เลยทีเดียว ส่วนคุณสมบัติตัวเครื่อง ก็จัดเต็มในระดับ High-end อีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลขนาด 5.1 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล, หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor, ชิปเซ็ต Exynos 7420, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 32 GB, 64 GB และ 128 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 ทั้งกล้องด้านหน้า และด้านหลัง ทำให้รองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีเป็นพิเศษ และรันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop) พร้อมรองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home และเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ด้านหลังตัวเครื่อง

โดย Samsung Galaxy S6 เคาะราคาที่ 23,900 บาท มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน ได้แก่ White Pearl, Black Sapphire และ Gold Platinum

จุดเด่นของ Samsung Galaxy S6

• กรอบตัวเครื่องแบบโลหะ ด้วยการใช้วัสดุอะลูมิเนียมเกรด 6013 ที่มีความแข็งแรงและทนทาน
• ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Dual-Glass Design พร้อมกระจกแบบ Corning Gorilla Glass 4 ที่ด้านหน้า และด้านหลังของตัวเครื่อง ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี
• จอแสดงผลกว้าง 5.1 นิ้ว แบบ Quad HD Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (577 ppi)
• ชิปเซ็ต Exynos 7420 แบบ Octa-Core Processor (64-bit) ประกอบไปด้วย หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Cortex-A57 Processor ความเร็ว 2.1 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 Processor ความเร็ว 1.5 GHz
• หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T760 GPU
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
• หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 32 GB, 64 GB และ 128 GB
• แบตเตอรี่ Li-Ion 2550 mAh
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และระบบกันภาพสั่น (OIS)
• รูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 ทั้งกล้องด้านหน้า และกล้องด้านหลัง รองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีเป็นพิเศษ
• รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop) เวอร์ชันใหม่ล่าสุดตั้งแต่แกะกล่อง
• รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home
• รองรับเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ด้านหลังตัวเครื่อง
• รองรับเทคโนโลยี NFC และพอร์ตอินฟราเรดที่ด้านบนตัวเครื่อง
• ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS, GLONASS รองรับการใช้งานกับระบบดาวเทียมของรัสเซีย และ Beidou ระบบดาวเทียมของจีน
• เทคโนโลยี Fast Charging ด้วยการชาร์จแบตเตอรี่เพียง 10 นาที แต่สามารถใช้งานได้นานถึง 4 ชั่วโมง
• รองรับบริการ Samsung Pay ระบบการชำระเงินที่สามารถใช้งานร่วมกับ Visa และ MasterCard

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

• ไม่มีวิทยุ FM ในตัว
• ไม่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ กันฝุ่น แบบเดียวกับ Samsung Galaxy S5
• ไม่สามารถเปิดฝาหลัง เพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
• ไม่รองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card

ข้อควรทราบ: “เครื่อง Samsung Galaxy S6 ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง ซัมซุง เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”

 

ซัมซุง ประเทศไทย เปิดให้จับจอง Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge แล้ว ผ่านทาง s-estore

สำหรับการจับจอง Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge นอกจากจะจองผ่านทางผู้ให้บริการทั้ง 3 เครือข่ายอย่าง AIS, dtac และ TrueMove H แล้ว ล่าสุด ทางซัมซุง ได้เปิดช่องทางการจำหน่ายผ่านทาง s-estore อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเฉพาะเครื่องเปล่านั่นเอง

ส่วนวันที่ต้องการรับสินค้า ล่าสุด มีให้เลือกเฉพาะวันที่ 20 เมษายน 2558 เท่านั้น โดยสามารถเลือกซื้อได้ทั้ง Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge ทั้ง 3 สี ความจุ 32 GB ส่วนโควต้าในวันที่ 11 เมษายน ถูกจับจองจนเต็มเรียบร้อยแล้ว ส่วนสิทธิ์ในการจองสินค้า 1 เครื่องต่อ 1 อีเมลเท่านั้น และห้ามนำเครื่องไปขายต่อ

ใครที่สนใจ สามารถเข้าไปได้ที่ s-estore.com ครับ

ราคา Samsung Galaxy S6 มาแล้ว! เริ่มต้นที่ 23,900 บาท เปิดจอง 1 เมษายนนี้

 

ล่าสุด ทางซัมซุง ประเทศไทย ได้ประกาศราคา Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเริ่มต้นที่ 23,900 บาท สำหรับความจุ 32 GB ส่วน Samsung Galaxy S6 edge เริ่มต้นที่ 27,900 บาท สำหรับรายละเอียดเป็นดังนี้

• ราคา Samsung Galaxy S6 ขนาด 32 GB อยู่ที่ 23,900 บาท
• ราคา Samsung Galaxy S6 edge ขนาด 32 GB อยู่ที่ 27,900 บาท
• ราคา Samsung Galaxy S6 edge ขนาด 64 GB อยู่ที่ 30,900 บาท

โดยจากข้อมูลข้างต้น จะเห็นว่า ราคาของ Samsung Galaxy S6 edge นั้น สูงกว่า Samsung Galaxy S6 ราวๆ 4,000 บาทเลยทีเดียว

Samsung Galaxy S6 เปิดจอง 1 เมษายนนี้ 

หลังจากที่ทางซัมซุง ได้เปิดตัว Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge อย่างเป็นทางการไปแล้ว ล่าสุด ทาง AIS และ TrueMove H เตรียมเปิดให้จับจองเป็นเจ้าของ Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge ในวันที่ 1 เมษายนนี้ โดยทาง AIS เปิดให้จองตั้งแต่เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ส่วนทาง TrueMove H เปิดจองตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป สำหรับการวางจำหน่าย จะเป็นช่วงหลังสงกรานต์นี้

ซัมซุง ยืนยันแล้ว หลังสงกรานต์นี้ เจอกันกับ Samsung Galaxy S6 แน่นอน!

หลังจากที่ทาง ซัมซุง ได้เผยโฉม Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge ไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ล่าสุด ทาง ซัมซุง ประเทศไทย ได้ออกมายืนยันแล้วว่า หลังสงกรานต์นี้ พบกับ Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge แน่นอน

โดย Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 ความจุด้วยกัน ได้แก่ 32 GB, 64 GB และ 128 GB ส่วนราคาของทั้ง 2 รุ่น จะเป็นเท่าใดนั้น จะคอยรายงานให้ทราบกันต่อไปครับ

 

 

พรีวิว Samsung Galaxy S6

เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy S6 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เรียกได้ว่า เป็นรุ่นที่ทาง ซัมซุง "คิดใหม่ทำใหม่" เลยก็ว่าได้ ซึ่งความเปลี่ยนแปลงอย่างแรก ที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน นั่นก็คือ ดีไซน์ใหม่ โดยเปลี่ยนจาก ตัวเครื่องพลาสติก มาเป็น ตัวเครื่องโลหะผสมกระจก อีกทั้งยังบางลงกว่าเดิม จับได้ถนัดมือมากขึ้น ซึ่งก่อนที่ Samsung Galaxy S6 จะเปิดตัวและวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ เรามาชม พรีวิว Samsung Galaxy S6 กันก่อนว่า มือถือเรือธงรุ่นล่าสุดนี้ จะน่าใช้กว่าเดิม และมีดีไซน์ที่สวยขึ้นมากแค่ไหน

มาเริ่มกันที่ ดีไซน์ ของ Samsung Galaxy S6 กันก่อน โดยรุ่นนี้ ถือว่าเป็นรุ่นแรกในตระกูล Galaxy S ที่เปลี่ยนจาก ตัวเครื่องพลาสติก มาเป็นตัวเครื่องแบบโลหะผสมกระจก ซึ่งกระจกที่ใช้บน Samsung Galaxy S6 นั้นก็คือ Gorilla Glass 4 ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงเป็นพิเศษอยู่แล้ว

สำหรับปุ่ม Home นั้น ยังคงมี เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เช่นเดียวกับ Samsung Galaxy S5 แต่ได้เปลี่ยนวิธีการสแกนใหม่ จากการรูดแล้วลากขึ้น กลายเป็นแตะเพื่อปลดล็อคแทน เรียกได้ว่า สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม

Samsung Galaxy S6 มาพร้อมกับหน้าจอกว้าง 5.1 นิ้ว แบบ Super AMOLED Display ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล (QHD) โดยมีจำนวนพิกเซลต่อตารางนิ้วสูงถึง 577 ppi ที่ช่วยทำให้การแสดงผลภาพในที่กลางแจ้ง ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน ส่วนหน่วยประมวลผล ใช้ชิปเซ็ต Exynos 7420 แบบ Octa-Core Processor (64-bit) ที่ผลิตโดยสถาปัตยกรรม 14nm รุ่นแรกของโลก พร้อมหน่วยความจำ RAM 3 GB ซึ่งจะช่วยทำให้ประมวลผลได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น แต่ใช้พลังงานแบตเตอรี่น้อยลง

มากันที่เรื่องของกล้องถ่ายรูปกันบ้าง โดย Samsung Galaxy S6 รุ่นนี้ ดูเหมือนว่า ทางซัมซุง จะเน้นเรื่องการถ่ายรูปเป็นพิเศษ เนื่องจากใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 ทั้งกล้องด้านหน้า และด้านหลังนั่นเอง โดยกล้องด้านหน้า มาพร้อมกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องด้านหลัง ความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Quick Launch ที่สามารถเข้าใช้งานกล้องได้อย่างรวดเร็วในเวลา 0.7 วินาที แค่ดับเบิลคลิกที่ปุ่ม Home ครับ

สำหรับใครที่กังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดไว เนื่องจากตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอแบบ QHD นั้น คงจะหายห่วงกันไปได้เลย เนื่องจาก Samsung Galaxy S6 มาพร้อมกับฟีเจอร์ Fast Charging ด้วยการชาร์จเพียงแค่ 10 นาที แต่สามารถใช้งานได้นานถึง 4 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายอีกด้วย

ส่วนบริการน้องใหม่แกะกล่องอย่าง Samsung Pay บริการชำระเงินผ่านมือถือ เรียกได้ว่า น่าสนใจมากเลยทีเดียวครับ ด้วยการใช้เทคโนโลยี NFC และ Magnetic Secure Transmission (MST) จากบริษัท LoopPay ที่ซัมซุงเพิ่งจะเข้าซื้อกิจการไปเมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนี้ ยังรับประกันความปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี Samsung KNOX บวกกับระบบสแกนลายนิ้วมือนั่นเอง

เพียงแค่การ พรีวิว Samsung Galaxy S6 ในเบื้องต้น ก็คงทำให้ มือถือเรือธงน้องใหม่ล่าสุดรุ่นนี้ น่าใช้และน่าสัมผัสกันบ้างอย่างแน่นอน ส่วน Samsung Galaxy S6 จะควงคู่มาพร้อมกับ Samsung Galaxy S6 edge เปิดตัวในไทยเมื่อไหร่ และจะเคาะราคาเริ่มต้นที่เท่าไหร่นั้น คงต้องติดตามกันต่อไปครับ - phonearena.com

ยอดจอง Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge แตะ 20 ล้านเครื่องแล้ว

หลังจากที่ ซัมซุง ได้เปิดตัว Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge ไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา พร้อมกับประกาศวางจำหน่าย ในวันที่ 10 เมษายนนี้ (ยังไม่ระบุประเทศวางจำหน่าย) ล่าสุด ได้มีรายงานว่า Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge มียอดจองแล้วกว่า 20 ล้านเครื่อง

สำหรับยอดจองดังกล่าว แบ่งเป็น Samsung Galaxy S6 ทั้งหมด 15 ล้านเครื่อง และ Samsung Galaxy S6 edge อีกราวๆ 5 ล้านเครื่อง ซึ่งเป็นยอดจองสำหรับการวางจำหน่าย ไม่ใช่ยอดจองจากผู้ใช้

ส่วนราคา Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge ในไทย จะเป็นเท่าใด ติดตามกันต่อไปครับ - phonearena.com

 

สรุปสเปค ฟีเจอร์ และคุณสมบัติที่น่าสนใจของ Samsung Galaxy S6

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy S6 มือถือเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ในปีนี้ เปิดตัวพร้อมกับ Samsung Galaxy S6 edge มือถือขอบจอโค้ง 2 ด้าน ตามข่าวลือก่อนหน้านั้นนั่นเอง โดยดีไซน์ของทั้ง Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge นั้น ตรงกับ ภาพหลุด ที่เผยออกมาก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็น กรอบตัวเครื่องแบบโลหะ, บอดี้แบบกระจกทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ที่ทำให้ Samsung Galaxy S6 นั้น ดูพรีเมียมกว่ารุ่นก่อนหน้ามากเลยทีเดียว

Samsung Galaxy S6 edge

>> อ่านเพิ่มเติม : สรุปสเปค และฟีเจอร์เด่น Samsung Galaxy S6 edge

นอกจาก Samsung Galaxy S6 จะชูจุดเด่นในเรื่องของ ดีไซน์ เป็นหลักแล้ว ยังมาพร้อมกับกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 ช่วยในเรื่องของการถ่ายภาพในที่แสงน้อยเป็นหลัก ทำให้ได้ภาพที่คมชัด และสว่างสดใสมากกว่า มือถือรุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ ยังรองรับการทำธุรกรรมแบบออนไลน์ กับ Samsung Pay ระบบการจ่ายเงินผ่าน NFC และ Magnetic Secure Transmission (MST) ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมจาก LoopPay ที่ซัมซุงได้เข้าซื้อกิจการไปเมื่อไม่นานนี้นั่นเอง

Samsung Galaxy S6 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลกว้าง 5.1 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (577 ppi) ซึ่งกระจกหน้าจอนั้น เป็นแบบ Corning Gorilla Glass 4 ที่ทางซัมซุง การันตีว่า มีความแข็งแรงทนทานมากเป็นพิเศษ และไม่โค้งงออีกด้วย

Samsung Galaxy S6 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 7420 ที่ทางซัมซุงพัฒนาเอา โดยเป็นชิปเซ็ตแบบ 64-bit ประกอบไปด้วย หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Cortex-A57 Processor ความเร็ว 2.1 GHz และ Quad-Core Cortex-A53 Processor ความเร็ว 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิค Mali-T760 GPU และหน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB ส่วนหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง มีให้เลือก 3 ขนาดความจุด้วยกัน ได้แก่ 32 GB, 64 GB และ 128 GB ซึ่ง Samsung Galaxy S6 ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card ได้ครับ

นอกจากนี้ Samsung Galaxy S6 ยังรองรับ LTE Cat.6, Wi-Fi ac, Bluetooth 4.1, NFC, GPS + GLONASS และ Beidou, IR blaster รวมไปถึงวิทยุ FM radio

Samsung Galaxy S6 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop) ตั้งแต่แกะกล่อง ครอบทับด้วย TouchWiz UI เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการออกแบบใหม่ มีดีไซน์ที่เรียบง่ายขึ้น และน่าใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทาง ซัมซุง ภูมิใจนำเสนอ นั่นก็คือ กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์แบบ ISOCELL และระบบกันภาพสั่นแบบ OIS นอกจากนี้ Samsung Galaxy S6 ยังมาพร้อมกับรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 ที่ทางซัมซุง คอนเฟิร์มว่า หมดห่วงเรื่องการถ่ายรูปในที่แสงน้อยไปเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีไฟแฟลชแบบ LED และ Heart Rate Sensor วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ด้านหลังตัวเครื่องอีกด้วย

ส่วนกล้องด้านหน้า มาพร้อมกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีระบบเปิดกล้องเร็วเพียง 0.7 วินาที (Quick Launch) ด้วยการกดที่ปุ่ม Home 2 ครั้ง

เปรียบเทียบภาพถ่ายของกล้องด้านหลัง ระหว่าง iPhone 6 Plus และ Samsung Galaxy S6

เปรียบเทียบการถ่ายวีดีโอ ระหว่าง iPhone 6 Plus และ Samsung Galaxy S6

Samsung Galaxy S6 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 2550 mAh ซึ่งไม่สามารถถอดแกะฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้อีกต่อไป ทำให้ทางซัมซุง ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ นั่นก็คือ Fast Charging ด้วยการชาร์จเพียง 10 นาที แต่สามารถใช้งานได้นานถึง 4 ชั่วโมง ซึ่งชาร์จเร็วกว่า Samsung Galaxy S5 ถึง 1.5 เท่า และเมื่อเทียบการชาร์จในระยะเวลาที่เท่ากัน Samsung Galaxy S6 จะอยู่ได้นานกว่า iPhone 6 ถึง 50% ครับ

หลังจากที่ซัมซุงเข้าซื้อกิจการของ LoopPay ไปเมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้เปิดตัวเทคโนโลยีที่มากับบริษัทดังกล่าว ภายใต้ชื่อ Samsung Pay นั่นเอง โดย Samsung Pay รองรับการใช้งานทั้ง Visa และ Mastercard ซึ่งนอกจากจะจ่ายผ่านเทคโนโลยี NFC แล้ว ยังสามารถใช้งานผ่าน Magnetic Secure Transmission (MST) ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมจาก LoopPay นั่นเอง ทำให้มีร้านค้ารองรับบริการดังกล่าวกว่า 30 ล้านร้านค้าทั่วโลกเลยทีเดียว

นอกจาก Samsung Pay จะรองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านโทรศัพท์มือถือแล้ว ยังรองรับการจ่ายผ่านบัตรเติมเงิน และบัตรของขวัญอีกด้วย ส่วนในเรื่องของความปลอดภัย มี Samsung KNOX และ ARM TrustZone รองรับอีกทีครับ

Samsung Pay จะเปิดให้ใช้บริการในช่วงหน้าร้อนนี้ ในสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ก่อน โดยในช่วงแรก รองรับการใช้งานเฉพาะบน Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 Edge เท่านั้น

ล่าสุด ทางซัมซุง ประเทศไทย ได้ประกาศราคา Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเริ่มต้นที่ 23,900 บาท สำหรับความจุ 32 GB ส่วน Samsung Galaxy S6 edge เริ่มต้นที่ 27,900 บาท สำหรับรายละเอียดเป็นดังนี้

• ราคา Samsung Galaxy S6 ขนาด 32 GB อยู่ที่ 23,900 บาท
• ราคา Samsung Galaxy S6 edge ขนาด 32 GB อยู่ที่ 27,900 บาท
• ราคา Samsung Galaxy S6 edge ขนาด 64 GB อยู่ที่ 30,900 บาท

โดยทั้ง Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge จะเปิดให้จองในไทย ในวันที่ 1 เมษายนนี้ ก่อนจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ช่วงกลางเดือนเมษายน หรือหลังวันสงกรานต์นั่นเอง 

 

 

---------------------------------------
ข้อมูลโดย : techmoblog.com

Update : 28/08/2015

Samsung Galaxy S6