เป็นความเชื่อที่ผู้ใช้ iPhone ส่วนมาก หลงเชื่อกันมาอย่างยาวนานว่า การปิดแอปพลิเคชันแบบ Force Quit ด้วยการกดปุ่ม Home 2 ครั้ง แล้วสไลด์เพื่อปิดแอปพลิเคชันที่ปรากฏในหน้า Recent Apps จะเป็นวิธีที่ช่วยทำให้ iPhone ประหยัดแบตเตอรี่ เนื่องจากไม่มีการทำงานแบบเบื้องหลัง (Background Mode) นั่นเอง ล่าสุด ทาง แอปเปิล ออกมาชี้แจงแล้วว่า การกระทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แถมยังทำให้ตัวเครื่องเปลืองแบตเตอรี่มากกว่าเก่า
โดยผู้อ่านเว็บไซต์ 9to5mac รายหนึ่ง ได้เขียนอีเมลไปสอบถาม Tim Cook ว่า จำเป็นหรือไม่ที่ผู้ใช้จะต้องปิดแอปฯ แบบ Force Quit ตลอดเวลา และผู้ตอบอีเมลดังกล่าว ก็คือ Craig Federigh รองประธานฝ่ายซอฟท์แวร์นั่นเอง ซึ่ง Craig Federigh เผยว่า การกระทำดังกล่าว ไม่จำเป็นเลยสำหรับระบบ iOS เนื่องจากระบบ iOS มีฟังก์ชันสำหรับจัดการกับแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งานอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ในเพจ Apple Official Support ยังได้ระบุอีกว่า การปิดแอปพลิเคชันแบบ Force Quit นั้น ควรทำเมื่อแอปพลิเคชันดังกล่าว ไม่ตอบสนองต่อการทำงาน หรือที่เรียกว่า App Freeze เท่านั้น ส่วนแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งาน จะยังไม่มีการประมวลผลการทำงานในระบบจนกว่าจะเปิดขึ้นมาใช้งานใหม่ จึงไม่มีผลต่อแบตเตอรี่แต่อย่างใด ในขณะที่แอปฯ ที่มีการปิดแบบ Force Quit เมื่อมีการเปิดทำงานใหม่อีกครั้ง ระบบจะทำการดึงข้อมูลต่างๆ จากตัวหน่วยความจำ RAM ใหม่ ซึ่งต้องใช้พลังงานส่วนหนึ่ง นั่นหมายความว่า ถ้าหากเรา Force Quit บ่อยๆ ก็จะยิ่งสิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่มากขึ้น
---------------------------------------
ที่มา : 9to5mac.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 13/03/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |