เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับงาน Thailand Mobile Expo 2017 Hi-End งานรวมมือถือ แท็บเล็ต และ Gadget ต่าง ๆ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประจำช่วงกลางปี 2017 ซึ่งภายในงานนี้ เรียกได้ว่า มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ ซึ่งมีตั้งแต่ราคาหลักพันต้น ๆ ไปจนถึงหลักหมื่นกันเลยทีเดียว ทำให้หลาย ๆ ท่านที่มีความตั้งใจจะซื้อ มือถือ สักเครื่อง แต่ตัดสินใจไม่ได้ว่า ด้วยงบประมาณที่มีอยู่นี้ จะสามารถซื้อรุ่นใดได้บ้าง ในวันนี้ ทีมงาน techmoblog ได้รวบรวม 10 มือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาท ภายในงาน TME 2017 Hi-End เพื่อไว้ใช้เป็นทางเลือกในการตัดสินใจได้อีกทางหนึ่ง มาดูกันว่า มือถือในระดับราคานี้ มีรุ่นใดให้เลือกกันบ้าง
1. Nokia 3
ห่างหายจากวงการสมาร์ทโฟนไปนาน ล่าสุด Nokia พร้อมบุกตลาดไทยภายใต้การดำเนินงานของ HMD Global แล้ว ด้วยการประเดิมเปิดตัว Nokia ถึง 3 รุ่นในงาน TME 2017 Hi-End เริ่มกันที่ Nokia 3 ซึ่งเป็นรุ่นเล็กสุดก่อน โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับ หน้าจอขนาด 5 นิ้ว แบบ IPS ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, ชิปเซ็ต MediaMek 6737 แบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.3 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Display Flash, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่ากัน พร้อมไฟแฟลชแบบ LED, รองรับการสแกนลายนิ้วมือ, รองรับเครือข่าย 4G LTE, รองรับ NFC, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, แบตเตอรี่ขนาด 2650 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 (Nougat)
สำหรับราคาของ Nokia 3 ปกติอยู่ที่ 4,850 บาท แต่ถ้าสั่งจองในงานผ่านทางบูธ AIS จะเหลือเพียง 3,350 บาทเท่านั้น
2. Nokia 5
นอกจาก Nokia 3 แล้ว อีกรุ่นที่น่าสนใจ นั่นก็คือ Nokia 5 ที่เพิ่มงบอีกหน่อย แต่ก็แลกมาด้วยดีไซน์ที่ดูสวยขึ้น ด้วยบอดี้แบบ Unibody โลหะ และสเปกที่ดีกว่า ด้วยหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว แบบ IPS ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 430, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.0, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-tone, รองรับการสแกนลายนิ้วมือ, รองรับเครือข่าย 4G LTE, รองรับ NFC, แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 (Nougat)
สำหรับราคาของ Nokia 5 ปกติอยู่ที่ 6,490 บาท แต่ถ้าสั่งจองในงานผ่านทางบูธ AIS จะเหลือเพียง 4,490 บาทเท่านั้น
3. Asus Zenfone Live
Asus Zenfone Live มือถือที่ออกมาสำหรับคนที่ชื่นชอบการ Live สดผ่านทาง Facebook Live หรือ YouTube Live โดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากจะใช้งานได้ง่ายแล้ว ยังมาพร้อมโหมด BeautyLive ที่ช่วยปรับผิวให้เนียนแบบเรียลไทม์ ซึ่งปรับได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว โดย Asus Zenfone Live มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon แบบ Quad-Core Processor, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB หรือ 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Soft Light และรูรับแสงกว้าง F/2.0, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับเครือข่าย 4G LTE, แบตเตอรี่ขนาด 2650 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow)
สำหรับราคาของ Asus Zenfone Live อยู่ที่ 4,990 บาทเท่านั้น
4. OPPO A37
OPPO A37 มือถือ 4G ราคาประหยัด ด้วยหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 410 แบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.2 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และรูรับแสงกว้าง F/2.2, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับเครือข่าย 4G LTE, แบตเตอรี่ขนาด 2630 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 (Lollipop)
สำหรับราคาของ OPPO A37 อยู่ที่ 4,990 บาท
5. Xiaomi Redmi 4X
มือถือ 4G รุ่นสุดคุ้มในราคาไม่เกิน 5,000 บาท กับ Xiaomi Redmi 4X ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ถอดแบบมาจาก Redmi 4 แต่สเปกดีกว่า ชูจุดเด่นด้านแบตเตอรี่ ด้วยหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 435 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.4 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และรูรับแสงกว้าง F/2.0, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับเครือข่าย 4G LTE, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง, แบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow)
โดยราคาของ Xiaomi Redmi 4X อยู่ที่ 4,990 บาท
6. Xiaomi Redmi 4A
สำหรับ Xiaomi Redmi 4A สเปกเป็นรอง Redmi 4X เล็กน้อย โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 425 แบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.4 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 32 GB รองรับ microSD Card, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED และรูรับแสงกว้าง F/2.2, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับเครือข่าย 4G LTE, แบตเตอรี่ขนาด 3120 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow)
โดยราคาของ Xiaomi Redmi 4X อยู่ที่ 4,590 บาท
7. Wiko U FEEL GO
มือถือบอดี้โลหะ พร้อมแบตอึดอย่าง Wiko U FEEL GO ก็มีวางจำหน่ายในไทยด้วยเช่นกัน ด้วยหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, ชิปเซ็ตแบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.3 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 64 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม Selfie Flash, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับเครือข่าย 4G LTE, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home, แบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow)
โดยราคาของ Wiko U FEEL GO ปกติอยู่ที่ 4,990 บาท แต่ในงานเหลือเพียง 4,490 บาท
8. Samsung Galaxy J2 Prime
มือถือซัมซุง ราคาประหยัดกับ Samsung Galaxy J2 Prime ที่เน้นเรื่องการถ่ายภาพเซลฟี่โดยเฉพาะ มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด 960 x 540 พิกเซล, ชิปเซ็ตแบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.4 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 1.5 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 8 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับเครือข่าย 4G LTE, แบตเตอรี่ขนาด 2600 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow)
โดยราคาของ Samsung Galaxy J2 Prime อยู่ที่ 4,190 บาท แต่มีทีเด็ดตรงที่ ถ้าหากซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจ จะรับเครื่องไปใช้งานฟรี ๆ
9. vivo Y53
สมาร์ทโฟนดีไซน์สวย ในราคาเอื้อมถึง กับ vivo Y53 ด้วยหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด 960 x 540 พิกเซล, ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 425 แบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.4 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2 พร้อมไฟแฟลชแบบ Screen Flash, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.0 พร้อมไฟแฟลชแบบ LED, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับเครือข่าย 4G LTE, แบตเตอรี่ขนาด 2500 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 3.0 ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow)
โดยราคาของ vivo Y53 อยู่ที่ 4,990 บาท
10. nubia N1 Lite
nubia N1 Lite สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กจาก nubia (บริษัทลูกของ ZTE) เด่นด้วยแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh บนดีไซน์สีดำตัดทอง มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, ชิปเซ็ต MediaTek MT6737 แบบ Quad-Core Processor, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB รองรับ microSD Card, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.0 พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับเครือข่าย 4G LTE, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง, แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow)
สำหรับราคาของ nubia N1 Lite ปกติอยู่ที่ 4,990 บาท แต่ในงานลดเหลือเพียง อยู่ที่ 3,990 บาท
โดยงาน Thailand Mobile Expo 2017 Hi-End เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ - 21 พฤษภาคม 2560 นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ใครที่มองหามือถือเครื่องใหม่อยู่ ลองไปเดินในงานอาจจะได้มือถือถูกใจติดไม้ติดมือกลับบ้านก็เป็นได้
---------------------------------------
บทความโดย : techmoblog.com
Update : 19/05/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |