การเปิดตัวของ iOS 12 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุดสำหรับอุปกรณ์ iDevice เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แม้ว่าบนเวทีเปิดตัวนั้น จะมีการเผยโฉมประสิทธิภาพและฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 12 กันไปแล้ว แต่อันที่จริง iOS 12 ยังมีฟีเจอร์ใหม่ซ่อนอยู่อีกมากมาย และล่าสุด ทางเว็บไซต์ 9to5mac ได้ทำคลิปวิดีโอสรุป 100 ฟีเจอร์น่าสนใจบน iOS 12 ซึ่งบางฟีเจอร์ Apple ไม่ได้กล่าวถึงในงานด้วยเช่นกัน มาดูกันดีกว่าว่า มีฟีเจอร์อะไรกันบ้าง
เปรียบเทียบ Geekbench 4 Benchmark ระหว่างก่อนอัปเดต iOS 12 (ซ้าย) และหลังอัปเดต iOS 12 (ขวา) พบว่าได้คะแนนการทดสอบเพิ่มขึ้น
วอลเปเปอร์ใหม่
แอปฯ ใหม่ Measure วัดขนาดของวัตถุแบบ 3 มิติผ่านกล้องถ่ายรูป
ตัววัดระดับ (Leveler) ย้ายจากแอปฯ Compass มาอยู่ในแอปฯ Measure แทน
ปัดขึ้นเพื่อปิดแอปฯ จากหน้า Multitasking
แอปฯ Voice Memos ออกแบบใหม่ ทั้งไอคอนและอินเทอร์เฟสการใช้งาน
แอปฯ Voice Memos มีให้ใช้งานบน iPad แล้ว
เพิ่มวันที่ตรงส่วนของ Status Bar บน iPad
ประมวลผลเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้า
Quick Type Keyboard อัปเดตอินเทอร์เฟสใหม่ (iPhone)
แอปฯ Stocks อัปเดตใหม่ (iPhone)
แอปฯ Stocks บน iPad
รูปแบบการปัดหน้าจอบน iPad เหมือน iPhone X
แอปฯ News ดีไซน์ใหม่
เครื่องมือ Markup มีสีให้เลือกใช้มากขึ้น
สามารถเลือกความหนาหรือความเข้มของเครื่องมือ Markup ได้
หัวดินสอในแอปฯ Notes เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเทา
เพิ่มทางลัดเข้าแอปฯ สแกน QR Code ได้จาก Control Center
จับภาพ QR Code ให้อยู่ในกรอบ
Face ID สามารถสแกนเพื่อบันทึกใบหน้าได้ 2 ใบหน้า
iBooks เปลี่ยนชื่อเป็น Apple Books
เมื่อเมนูการตั้งค่าแอปฯ Apple Books ใน Settings
ดูประวัติการใช้แบตเตอรี่ได้ 10 วัน (จากเดิม 7 วัน)
Battery Usage ไม่ถูกล้างค่าเมื่อทำการ Reboot เครื่อง
รองรับการใช้งาน Hey Siri เมื่อเปิดใช้งาน Low Power Mode
รหัส OTP หรือ Security Code ต่าง ๆ ที่ถูกส่งผ่าน SMS จะขึ้นปุ่มให้กรอกอัตโนมัติ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องพิมพ์เอง
เพิ่มฟีเจอร์สร้างรหัสผ่านแบบเดายาก
เปลี่ยนชื่อการตั้งค่า Accounts & Passwords เป็น Passwords & Accounts
สอบถามรหัสผ่านกับ Siri ได้แล้ว
ปักธงแจ้งเตือนรหัสผ่านที่ถูกใช้ซ้ำกัน
เพิ่มปุ่ม Automatic Updates
เพิ่มพจนานุกรมภาษาอังกฤษจากหลายแหล่ง
เพิ่มพจนานุกรมภาษา Arabic-English, Hindi-English และ Hebrew
Carplay รองรับแอปฯ นำทางจากผู้พัฒนาภายนอก
เพิ่มฟีเจอร์ Do Not Disturb during Bed Time
Do Not Disturb บน Control Center รองรับ 3D Touch แล้ว
แจ้งเตือนแบบกลุ่ม (Grouped Notifications) พร้อมกับจัดการการแจ้งเตือนทั้งหมดได้ในครั้งเดียว
ปรับเสียงแจ้งเตือนเฉพาะแอปฯ ได้
ปิดเสียงแจ้งเตือนทั้งหมด (จากทุกแอปฯ) ได้ในครั้งเดียว
ปรับอินเทอร์เฟสในส่วนของ Notifications ใหม่ ไอคอนรูปกากบาท (ปิดแอปฯ) มีขนาดใหญ่ขึ้น
ปรับอินเทอร์เฟสในหน้าการตั้งค่าของ Notifications
เมนูตั้งค่า Sounds & Haptics ย้ายมาอยู่ด้านล่าง Notification (เดิมอยู่ล่าง Wallpapers)
เมนูตั้งค่า Control Center ย้ายมาอยู่ด้านล่าง General (เดิมอยู่ล่าง Notifications)
เพิ่มเมนูการตั้งค่า Stocks ในหน้า Settings
เพิ่มเมนูการตั้งค่า Voice Memos ในหน้า Settings
เพิ่มเมนูการตั้งค่าแอปฯ ใหม่ Measure ในหน้า Settings
ตัดไอคอนเมนู System Services ออก
ตั้งค่าให้แสดง Favicons ใน Safari
เพิ่มเมนูตั้งเวลาการ Skip ในแอปฯ Podcasts
เพิ่มเมนู Remote Controls Skip ในแอปฯ Podcasts
Animoji 4 แบบใหม่ ได้แก่ ผี, ทีเร็กซ์, หมีโคอาล่า และเสือ
Animoji ตรวจจับการแลบลิ้นของผู้ใช้ได้แล้ว
Animoji ตรวจจับการกระพริบตาของผู้ใช้ได้แล้ว
ลูกเล่นใหม่ Memoji คล้าย Animoji แต่เป็นใบหน้าของผู้ใช้
Memoji สามารถเลือก สีผิว, ทรงผม, สีผม, ใบหน้า, คิ้ว, ปาก, จมูก รวมถึงอุปกรณ์เสริมอย่างแว่นตา, หนวด ได้
สามารถอัดวิดีโอ Animoji ได้สูงสุด 30 วินาที (จากเดิม 10 วินาที)
ไอคอน Camera ในแอปฯ Messages เมื่อแตะแล้วจะเป็นหน้าจอถ่ายภาพแบบเต็มจอ (จากเดิมจะแบ่งระหว่าง Camera กับ Photo)
เพิ่มเมนู Photos ในแอปฯ Messages
เพิ่มทางลัด Effect ตรงส่วนของ Camera ในแอปฯ Messages
เพิ่มทางลัด Animoji ตรงส่วนของ Camera ในแอปฯ Messages
เพิ่มฟิลเตอร์สำหรับถ่ายภาพตรงส่วนของ Camera ในแอปฯ Messages
สามารถใส่ Text ตรงส่วนของ Camera ในแอปฯ Messages ได้
สามารถเพิ่ม Shape (เช่น ลูกศร, พลุ) ตรงส่วนของ Camera ในแอปฯ Messages ได้
แถบเมนูของแอปฯ Messages ออกแบบใหม่
เมื่อแตะที่ไอคอนรูปด้านบนของข้อความในแอปฯ Messages จะปรากฎไอคอน Audio, FaceTime และ Info สำหรับผู้ติดต่อคนนั้น ๆ
เพิ่มเมนู For You ในแอปฯ Photos
อัลบั้มในแอปฯ Photos แบ่งตามประเภทของภาพถ่าย
เพิ่มเมนู Search ในแอปฯ Photos
อินเทอร์เฟสหน้าอิมพอร์ต Photo/Video อัปเดตใหม่
ใช้คำสั่ง Find my iPhone กับ Siri ได้แล้ว
เพิ่มทางลัดคำสั่งเข้าสู่แอปฯ หรือหน้าเว็บไซต์โปรดกับ Siri ได้
Screen Time เป็นการแสดงข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้ว่า ในแต่ละวันใช้เวลากับแอปฯ ต่าง ๆ ไปนานแค่ไหน
ฟีเจอร์ Downtime (ฟีเจอร์ย่อยใน Screen Time) เป็นการจำกัดเวลาการใช้งานอุปกรณ์ด้วยการตั้งค่าเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุด โดยก่อนจะหมดเวลาในงานจะมีแจ้งเตือนให้ทราบก่อน ซึ่งฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจำกัดเวลาการเล่นมือถือในแต่ละวัน
ฟีเจอร์ App Limits (ฟีเจอร์ย่อยใน Screen Time) ที่สามารถกำหนดระยะเวลาสูงสุดในการใช้แอปฯ นั้น ๆ และแจ้งเตือนเมื่อใกล้จะหมดเวลาใช้แอปฯ
ฟีเจอร์ Always Allowed (ฟีเจอร์ย่อยใน Screen Time) เป็นการตั้งค่าให้บางแอปฯ สามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา แม้ว่าในช่วงเวลานั้นจะมีการจำกัดการใช้แอปฯ ก็ตาม
ฟีเจอร์ Content & Privacy Restrictions (ฟีเจอร์ย่อยใน Screen Time) สำหรับตั้งค่าเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว เช่น การแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง, การจำกัดเนื้อหา เป็นต้น
ฟีเจอร์ Screen Time for Kids สำหรับตั้งค่าเพื่อจำกัดการใช้งานของเด็ก
FaceTime ปรับอินเทอร์เฟส (คล้ายกับแอปฯ Messages)
รองรับ Group FaceTime สูงสุด 32 คน
สามารถใช้งาน Group FaceTime ได้จากหน้าแอปฯ Messages
ค้นหาชื่อเพลงได้จากหน้าเนื้อเพลง
ถ้าหากสแกน Face ID ครั้งแรกไม่ผ่าน สามารถสแกนต่อได้หลายครั้ง (ไม่ต้องใส่ Passcode)
แตะค้างที่ปุ่ม Space Bar เพื่อเปลี่ยนคีย์บอร์ดเป็น Trackpad (iPad)
หน้า Now Playing (เล่นเพลง) เปลี่ยนเป็นธีมสีทึบในหน้า Lock Screen
สามารถสั่งให้ Siri เปิด-ปิดไฟฉายได้
Siri Shortcuts ทำให้ Siri สามารถทำงานร่วมกับแอปฯ อื่นได้
พรีวิว Email แบบแจ้งเตือนในหน้า Lock Screen สามารถกดค้างเพื่อขยายได้
Dictation รองรับการทำงานร่วมกับคีย์บอร์ดของผู้พัฒนาอื่น
อัปเดตหน้า Apple Music artist
Spotlight Suggestions ใหม่ (เพิ่มลิงก์)
หน้า Reachability (ลดหน้าจอลงครึ่งหนึ่งเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน) สามารถปัดขึ้นเพื่อกลับสู่จอปกติได้
เพิ่ม Hearing (โหมดช่วยฟัง) ในหน้าการตั้งค่า Control Center
ปรับ Animation ตรงส่วนของแถบปรับความสว่างหน้าจอใน Control Center ใหม่
เพิ่มแท็บ Featured Stations ในเมนู Radio (Apple Music)
ไอคอนตั้งค่า Home ในแอป Home ใหม่
ส่วนของการแจ้งเตือนในแอปฯ Home ใหม่
เพิ่มข้อมูล Air Quality ในแอปฯ Weather
เพิ่ม Screen Time ในส่วนของ Widget ได้
เพิ่ม Siri Suggestions ใน Spotlight
อัปเดตอินเทอร์เฟสหน้าบันทึกเสียงบน iPad
VIDEO
--------------------------------------
ที่มา : 9to5mac.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 08/06/2018
iOS 12