ในที่สุด Google ก็ทำสมาร์ทโฟนของตัวเองจริงๆ ออกมาจนได้ในชื่อ Pixel และ Pixel XL โดยหวังจะให้เป็นสมาร์ทโฟน Android ตัวแกร่งที่สามารถพิชิต iPhone ได้อย่างแท้จริง โดยอัดแน่นมาด้วยฟีเจอร์เด็ดๆ หลายอย่าง ทั้ง Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ฉลาดกว่าเดิม และ Smart Storage ที่จะสำรองรูปภาพและวิดีโอขึ้นไปบน cloud เพื่อเคลียร์หน่วยความจำโดยอัตโนมัติ พร้อมสเปคระดับไฮเอนด์ แต่ทั้งหมดนี้เพียงพอที่จะโค่น iPhone ได้แล้วหรือ?
Michael Nunez นักเขียนจาก Gizmodo ได้ทดลองใช้ Pixel XL มาระยะหนึ่ง แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ใช้ Android มาโดยตลอด และ Google Pixel ก็นับเป็นสุดยอดของมือถือ Android แต่เขากลับรู้สึกว่า มันยังไม่สามารถเอาชนะ iPhone ได้อยู่ดี และนี่คือ 3 เหตุผลที่ทำให้ Google Pixel ไม่ได้เป็น iPhone Killer อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ครับ
1. Google Assistant ไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น
Google ได้ติดตั้งผู้ช่วยคนใหม่ Google Assistant ที่สร้างความฮือฮาตั้งแต่ตอนโชว์ demo ด้วยการสื่อสารที่ดูเป็นธรรมชาติและเข้าใจคำพูดของผู้ใช้มากกว่า AI ตัวอื่นๆ อย่าง Siri และ Google ก็บอกเป็นมั่นเหมาะด้วยว่า Google Assistant นี่แหละจะตอบโจทย์ผู้ใช้ทุกคนได้อย่างแท้จริง
แต่เอาเข้าจริงแล้วมันไม่ได้อัจฉริยะขนาดนั้น Nunez เคยบอก Google Assistant ให้ช่วยวางแผนในการไปเดทกับสาวๆ เขาต้องการที่จะหาสถานที่เหมาะๆ ที่สามารถไปนั่งคุยกันหลังจากทานดินเนอร์สุดโรแมนติกที่บาร์ จึงถาม Google Assistant ว่า “มีสถานที่ดีๆ สำหรับการเดทใกล้ [ชื่อบาร์ที่เขาจะไป] บ้างมั้ย?” เขากลับได้รับคำตอบเป็นลิงค์ไปยังหน้าเว็บของบาร์นั้นแทนที่จะเป็นสถานที่อื่นๆ ใกล้เคียง เขาจึงลองถามใหม่ “มีสถานที่ดีๆ สำหรับการเดทใกล้ [ที่อยู่ในละแวกนั้น] บ้างมั้ย?” คราวนี้มันกลับแสดงผลการค้นหาแบบสุ่มแทนที่จะแสดงแผนที่ไปยังสถานที่น่าสนใจ ทำเอาเขาผิดหวังมาก มันอาจจะฉลาดกว่าคู่แข่งอย่าง Siri ก็จริง แต่เขาคิดว่ามันยังไม่ดีพอที่จะเรียกว่าเป็น “ฟีเจอร์” ด้วยซ้ำ แต่เป็นแค่ “ลูกเล่น” เท่านั้น
2. Google Pixel ถ่ายภาพสวยสู้ iPhone ไม่ได้
กล้องดิจิทัลของ Google Pixel เป็นหนึ่งในไม้ตายที่ที่จะเอามาอัดเรือธงแบรนด์อื่นให้กระเด็นไป ด้วยผล benchmark จาก DxOMark ที่สูงมากถึง 89 คะแนน สูงกว่า iPhone 7 และสูงที่สุดในโลกในขณะนี้ เมื่อลองใช้งานดูก็พบว่ามันถ่ายภาพออกมาได้งดงามจริงๆ เมื่อเทียบกับมือถือ Android รุ่นอื่นๆ แต่หากนำมาวัดกับภาพที่ได้จาก iPhone 7 แล้ว กลับทำให้เราเห็นว่า ภาพที่ถ่ายโดย Google Pixel นั้นค่อนข้างซีดและไม่สดใสเท่า แต่ก็เป็นความแตกต่างเพียงเล็กๆ น้อยๆ ที่ถ้าไม่สังเกตก็คงไม่เห็น
ภายถ่ายเปรียบเทียบระหว่าง iPhone 7 และ Pixel XL
เมื่อเปิดโหมด HDR Google Pixel มีอาการหน่วงเล็กน้อย แต่ก็ไม่มากอะไรเพราะตัวเครื่องมีสเปคที่สูงอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ smart burst ที่ถ่ายรูปเป็นชุดในครั้งเดียว ทำให้เราสามารถเลือกช็อตที่ดีที่สุด หรือนำภาพมารวมกันเป็นภาพเคลื่อนไหวตระกูล GIF ได้ เป็นอีกจุดขายหนึ่งของ Google Pixel แต่ iPhone ก็ทำได้เหมือนกัน
3. ดีไซน์ไม่เหมาะจะเป็นสมาร์ทโฟนไฮเอนด์
Google Pixel เป็นสมาร์ทโฟนที่หน้าตาไม่ดีเท่าไหร่เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะขอบจอที่หนามากและเคสกระจกด้านหลังตัวเครื่องที่จับแล้วเหนียวมือ ซึ่งเทียบกับดีไซน์ของ iPhone 7 ที่ดูสะอาด บางเฉียบ และเรียบง่ายไม่ได้เลย
ที่แย่ที่สุดคือ Google Pixel ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำ ในขณะที่เรือธงเจ้าอื่นต่างมีคุณสมบัตินี้กันหมดแล้วแม้กระทั่ง iPhone 7 เอง เรียกว่าถ้าเผลอทำตกส้วมล่ะก็จบเห่แน่นอน ซึ่ง Google ไม่น่าจะพลาดในส่วนสำคัญแบบนี้
ในฐานะที่เป็นผู้ใช้ Android มานาน Nunez บอกว่า เขาจะไม่แนะนำให้คนทั่วๆ ไปซื้อ Google Pixel มาใช้ เพราะสิ่งที่ Pixel ทำได้ยังไม่คุ้มค่ากับราคาอันสูงลิบของมัน และมันก็ไม่ได้เป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดไปจากเดิมนัก ในอดีต สมาร์ทโฟน Android ระดับพรีเมียมอย่าง Nexus 6P มีราคาถูกกว่า Pixel มาก และราคาของ Pixel ที่ถีบตัวขึ้นมานี้ก็แพงอย่างไม่สมเหตุสมผล ส่วน Google Assistant ก็เหมือนเป็นแค่ Google Now เวอร์ชั่นอัปเกรดเท่านั้น และยังไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ในตอนนี้
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของ Nunez เท่านั้น สมาร์ทโฟนจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่ามันสามารถตอบโจทย์สไตล์การใช้งานที่แตกต่างกันของผู้ใช้แต่ละคนได้มากแค่ไหน สุดท้ายนี้ Google Pixel หรือ iPhone 7 จะเป็นผู้ชนะในศึกเรือธงท้ายปีก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนแล้วล่ะครับ
---------------------------------------
ที่มา : Gizmodo
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 19/10/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |