4 ฟีเจอร์บน iPhone 13 ที่บน iPhone 12 ไม่มี

iPhone 13 เปิดตัวแล้ว! ซึ่งในปีนี้ ยังคงเปิดตัวทั้งหมด 4 รุ่นเหมือนเดิม ได้แก่ iPhone 13 mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max โดยเคาะราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท ซึ่งดีไซน์โดยรวมนั้น ถือว่ายังไม่แตกต่างจาก iPhone 12 มากนัก แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามา มาดูบทสรุปกันดีกว่าว่า 4 ฟีเจอร์ใหม่บน iPhone 13 ที่ไม่มีบน iPhone 12 มีอะไรบ้าง

1. พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น 2 เท่า เริ่มต้นที่ 128 GB

iPhone 12 mini และ iPhone 12 รุ่นปีที่แล้ว มาพร้อมกับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเริ่มต้นที่ 64 GB แต่บน iPhone 13 mini กับ iPhone 13 นั้น อัปเกรดให้ 2 เท่า เริ่มต้นที่ 128 GB แล้ว และยังเคาะราคาเปิดตัวเท่าเดิม เริ่มต้นที่ 25,900 บาท ในขณะที่ iPhone เคาะความจุเริ่มต้นที่ 128 GB มาตั้งแต่สมัย iPhone 12 Pro กับ iPhone 12 Pro Max แต่ iPhone 13 Pro กับ iPhone 13 Pro Max ปีนี้ มีความจุสูงสุดที่ 1 TB

2. หน้าจอ 120Hz ProMotion

ลือกันมาหลายปีกับหน้าจอ 120Hz ซึ่งในที่สุดก็เปิดตัวบน iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max เสียที โดยฟีเจอร์นี้จะเป็นแบบ Adaptive Refresh Rate ที่มีค่าระหว่าง 10-120Hz ที่ปรับเองอัตโนมัติขึ้นอยู่กับคอนเทนต์ที่ใช้งาน ช่วยประหยัดแบตเตอรี่

ส่วน iPhone 13 mini กับ iPhone 13 ยังคงเป็นหน้าจออัตรารีเฟรช 60Hz เหมือนเดิม

3. แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น iPhone 13 series ทุกรุ่น ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น ซึ่ง Apple ไม่ได้เผยข้อมูลว่า แต่ละรุ่นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดความจุเท่าไหร่ บอกเป็นตัวเลขว่าใช้งานได้นานขึ้นแค่ไหน ซึ่ง iPhone 13 mini และ iPhone 13 Pro ใช้งานได้นานขึ้น 1.5 ชั่วโมง ส่วน iPhone 13 และ iPhone 13 Pro Max ใช้งานได้นานขึ้น 2.5 ชั่วโมง

ส่วน Adapter ชาร์จแบต ยังคงไม่แถมมาให้ในชุดจำหน่ายมาตรฐาน แต่สามารถใช้ Adapter ของ iPhone 12 มาชาร์จแทนได้

4. ปรับปรุงกล้องพร้อมฟีเจอร์ใหม่ Cinematic Mode

ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดระหว่าง iPhone 12 และ iPhone 13 ก็คงเป็นเรื่องของกล้องถ่ายรูป แม้ว่าจะยังคงเป็นกล้องคู่ และกล้องหลัง 3 ตัวเหมือนเดิม แต่ Apple ก็ได้มีการอัปเกรดเลนส์ และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามา

โดย iPhone 13 และ iPhone 13 mini ใช้เซ็นเซอร์กล้องที่ใหญ่ที่สุดที่ Apple เคยใช้กับ iPhone กล้องคู่ ส่งผลทำให้ iPhone 13 และ iPhone 13 mini ถ่ายภาพได้สว่างขึ้นกว่าเดิม 47% ซึ่งเลนส์ Ultra Wide สามารถเก็บรายละเอียดของภาพที่ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นด้วย

ด้าน iPhone 13 Pro มาพร้อมกับระบบกันสั่นแบบ sensor-shift แล้ว ซึ่งปกติจะมีเฉพาะรุ่น Pro Max เพียงรุ่นเดียว (เริ่มใช้ในรุ่น iPhone 12 Pro Max) อีกทั้งยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น, เลนส์ Ultra Wide รูรับแสงกว้างขึ้นเป็น F/1.8 รวมถึงซูม Optical ได้ไกลขึ้นจาก 2.5x เป็น 3x

-------------------------------------
ที่มา : idropnews.com
เรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 16/09/2021

iPhone 13 iPhone 13 Pro