เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง และถูกนำมาใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตของเราเสมอมา ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีของเรามาถึงจุดๆ หนึ่งที่เป็นได้ตั้งแต่ความบันเทิง ไปจนถึงเครื่องมือที่เชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกันอย่างเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้สังคมมนุษย์ในเมืองใหญ่สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับมีวิถีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น แต่ถึงแม้ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีที่เรามีจะทำให้เราสะดวกสบายและเปิดโอกาสสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ มากกว่าแต่ก่อนอย่างเทียบไม่ติด แต่เราก็ต้องการสิ่งที่ดีกว่าเดิมอยู่เสมอ และนี่คือ 5 เทคโนโลยีที่ว่ากันว่าจะปลดล็อคสังคมของเราไปสู่ยุคใหม่ที่ชาญฉลาดกว่าเดิมและผลักดันมนุษย์ไปสู่อนาคตอย่างแท้จริงครับ
เครือข่ายการสื่อสารไร้สายรุ่นที่ 5 (5G)
แม้ 5G จะยังเป็นเพียงแค่คำที่ใช้เพื่อประโยชน์ทางการตลาดเท่านั้นในตอนนี้ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความต้องการใช้งานเครือข่ายไร้สายบนมือถือนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และความต้องการเครือข่ายที่มีความเร็วสูงขึ้นก็เกิดขึ้นมาเป็นเงาตามตัว เพื่อรองรับความต้องการนี้เทคโนโลยี 5G จะต้องถูกนำมาใช้อย่างแน่นอนในอนาคต
การมีเครือข่ายสื่อสารที่เร็วขึ้น ไม่เพียงแต่ทำให้เราสามารถติดต่อสื่อสารหรือเข้าถึงความบันเทิงต่างๆ ได้เร็วขึ้นเท่านั้น แต่มันยังเป็นรากฐานของการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ด้วย เพราะแบนด์วิธที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เราสามารถรับส่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีความซับซ้อนมากกว่าเดิมได้ในเวลาอันรวดเร็ว เทคโนโลยี 5G จึงเป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้ในสังคมแห่งอนาคต
Computer Vision (CV)
Computer Vision (CV) นับว่าเป็นวิวัฒนาการขั้นสูงสุดของเซ็นเซอร์เลยก็ว่าได้ ด้วยเทคโนโลยีนี้ ทุกหนทุกแห่งในเมืองไม่ว่าจะเป็นตรอกเล็กตรอกน้อยหรือซอยเปลี่ยว จะมีคอมพิวเตอร์อัจฉริยะคอยสอดส่องอยู่ตลอดเวลา วิเคราะห์และเก็บข้อมูลทุกอย่างที่มันเห็น ตั้งแต่ลักษณะของผู้คนที่ผ่านไปมา การเคลื่อนที่ของจราจร การติดตามการใช้ทรัพยากรต่างๆ การป้องกันเหตุร้าย และอื่นๆ อีกมากมายเสมือนเป็นดวงตาของเมือง
แม้ว่า CV จะสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลก็ตาม แต่ผู้นำทางเทคโนโลยีในด้านนี้อย่าง Intel และ Movidius ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และพยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวประสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้เราเชื่อได้ระดับหนึ่งว่าเราความเป็นส่วนตัวของเราจะยังคงมีอยู่
อย่างไรก็ดี นวัตกรรมนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อข้อมูลที่คอมพิวเตอร์วิเคราะห์ขึ้นมาสามารถรับส่งกันได้อย่างทั่วถึงในเวลาอันรวดเร็วได้แล้ว ซึ่งจำเป็นต้องมีเทคโนโลยี 5G มารองรับ หากทำได้ก็จะสามารถต่อยอดเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ได้เช่น การสร้างแผนผังเมือง 3 มิติอย่างละเอียดเพื่อใช้เป็นระบบนำร่องของรถยนต์ไร้คนขับ หรือภาคธุรกิจต่างๆ สามารถวิเคราะห์กระแสนิยมของลูกค้าแบบ real-time เพื่อตอบสนองลูกค้าในด้านสินค้าและบริการได้อย่างทันท่วงที เทคโนโลยีเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ยากหากเรามี 5G เป็นพื้นฐานแล้ว
Mixed Reality (MR)
ปัจจุบันนี้เราเริ่มคุ้นเคยกับ Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) แต่ในอนาคตเราจะได้พบกับ Mixed Reality (MR) ที่จะรวมฟิสิกส์และกราฟิกคอมพิวเตอร์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนที่สมจริงยิ่งกว่า ด้วยภาพจำลองที่เราสามารถสัมผัสได้จริงๆ อย่างที่เห็นกันในหนังแนววิทยาศาสตร์
MR สามารถนำไปพลิกแพลงใช้ได้ทุกวงการ ตั้งแต่ความบันเทิงไปจนถึงการศึกษา เมื่อรวมเข้ากับเทคโนโลยีการสื่อสารอย่างอินเทอร์เน็ต ก็จะยิ่งทำให้ MR มีประโยชน์ยิ่งขึ้นไปอีก เช่น การจำลองการผ่าตัดแบบสมจริงสำหรับนักศึกษาแพทย์ หไรือการปรับปรุงผังเมืองแก้ไขปัญหาจราจรที่มองเห็นภาพรวมได้ง่ายขึ้นและวางแผนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วยภาพจำลองเสมือนจริง
ยานพาหนะไร้คนขับ (AV)
ยานพาหนะไร้คนขับ หรือ Autonomous Vehicles (AV) จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะมีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กันบ้างแล้วเช่นรถยนต์ Tesla หรือโครงการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลกจากหลายๆ บริษัท หากยานพาหนะไร้คนขับสามารถนำมาใช้ได้อย่างสมบูรณ์ในอนาคตจริงๆ มันจะเปลี่ยนการเดินทางของเราไปอย่างสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็นระยะใกล้หรือไกล อุบัติเหตุบนท้องถนนจะน้อยลง การจราจรและการขนส่งจะเป็นระเบียบมากขึ้น ค่าโดยสารของการขนส่งสาธารณะก็ถูกลง และสะดวกสบายยิ่งขึ้น ที่สำคัญเราจะไม่ต้องมาหัวเสียกับพฤติกรรมการขับรถที่ไม่มีมารยาทบนท้องถนนอีกต่อไป
ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ไอเดียเรื่องปัญญาประดิษฐ์มีการพูดถึงกันมานานแล้ว และในปัจจุบันนี้ก็มีการนำมาใช้กันแล้วอย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังมีการพัฒนาความสามารถในการคิดของมันอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง เพื่อให้มันคิดได้รวดเร็วและซับซ้อนและสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ จนบางครั้งก็ก้าวล้ำมนุษย์ไปมาก อย่างเช่นที่เราได้เห็น AI จาก Google เอาชนะการประลองหมากล้อมกับมือหนึ่งของโลกไปอย่างง่ายดายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะอุปกรณ์ที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราอย่างสมาร์ทโฟนก็มี AI อยู่เช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือโปรแกรมผู้ช่วยต่างๆ เช่น Siri หรือ Google Assisitant
AI ที่ฉลาดและรวดเร็วในอนาคตจะกลายเป็นเพื่อนคู่คิดของมนุษย์ที่จะช่วยให้เราวางแผนและจัดการงานทุกอย่างได้ง่ายขึ้นและถูกต้องแม่นยำมากขึ้น ความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์จะลดลง ทุกสิ่งทุกอย่างจะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องเมื่อมี AI คอยช่วยเหลือ ซึ่งจะทำให้มนุษย์ก้าวกระโดดไปสู่อนาคตได้ในเวลาอันสั้น
ด้วยเทคโนโลยีทั้ง 5 อย่างนี้ หากนำมาผสมผสานกันจะสามารถต่อยอดออกมาเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างไม่รู้จบ และจะเปลี่ยนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเราไปอย่างสิ้นเชิง จับตาดูกันไว้ให้ดี ในทศวรรษหน้า เทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตเรามากขึ้นโดยที่เราอาจไม่รู้ตัว
---------------------------------------
ที่มา : The Verge
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 26/09/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |