ในช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา ผู้ใช้งาน iPhone จำนวนไม่น้อยคงจะเคยเจอเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย และคำแนะนำต่าง ๆ เกี่ยวกับการตั้งค่า iPhone เพื่อให้ประหยัดแบตเตอรี่ หรือชาร์จ iPhone อย่างไรให้ถูกวิธี ซึ่งบางครั้ง คำแนะนำต่าง ๆ เหล่านี้ก็เป็นการเล่าต่อ ๆ กันมา และเป็นความเข้าใจผิดที่สุดท้ายกลับส่งผลเสียต่อ iPhone มากกว่าจะเกิดผลดี มาดูกันดีกว่าว่า 7 ความเชื่อที่หลายคนยังเข้าใจผิด เกี่ยวกับวิธีประหยัดแบตเตอรี่และการชาร์จบน iPhone มีอะไรกันบ้าง
1. ปิด Wi-Fi/Bluetooth ช่วยประหยัดแบต
เชื่อว่ามีผู้ใช้จำนวนไม่น้อย คงจะเคยได้ยินคำแนะนำที่ว่า ให้ปิด Wi-Fi หรือ Bluetooth ถ้าหากไม่ได้ใช้งาน ซึ่งจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ อันที่จริง คำแนะนำดังกล่าวไม่ใช่การแก้ปัญหาเสียทีเดียว เนื่องจากมาตรฐานของ Wi-Fi กับ Bluetooth ในปัจจุบันนั้น ถูกออกแบบให้มีความฉลาดมากขึ้น ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่ไม่มีการเชื่อมต่อ จะเข้าสู่โหมด Sleep เพื่อประหยัดพลังงาน หรือต่อให้ไม่มีระบบนี้ ก็แทบจะไม่มีผลต่อแบตเตอรี่มากนัก
แต่ถ้าหากเป็นการเชื่อมต่อ Cellular จะแตกต่างกันออกไป เพราะการเชื่อมต่อ 4G หรือ 5G จะสิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่มากกว่า
2. เสียบชาร์จแบตนานเกินไป ทำให้แบตเสื่อมเร็ว
ถ้าหากเป็นแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ในยุคแรก ๆ คำพูดนี้คงไม่ผิดนัก เพราะการเสียบชาร์จแบตเตอรี่ไว้นานจนเกินไป หรือชาร์จข้ามคืน จะส่งผลต่อสุขภาพของแบตเตอรี่ แต่แบตเตอรี่แบบ Li-Ion ในยุคปัจจุบัน มีการพัฒนาไปมากแล้ว ซึ่งจะมีซอฟท์แวร์ที่ช่วยถนอมแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ฉะนั้น การชาร์จแบต iPhone แบบข้ามคืน ไม่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวแต่อย่างใด
3. ปิดแอปฯ แบบ Force Close ช่วยประหยัดแบต
สำหรับแอปฯ ที่มีการทำงานแบบเบื้องหลัง (Background Mode) แม้จะไม่ได้เปิดใช้งานในตอนนั้น แต่ก็เป็นสาเหตุทำให้แบตหมดไวเนื่องจากมีการทำงานตลอดเวลา ซึ่งแอปฯ ประเภทนี้สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการปิดฟีเจอร์ Background Activity เพื่อไม่ให้แอปฯ ทำงานตลอดเวลา
แต่สำหรับแอปฯ ที่ไม่ได้ใช้พลังงานแบตเตอรี่มาก การปิดแบบ Force Close แล้วเปิดใหม่บ่อย ๆ จะสิ้นเปลืองแบตมากกว่า ฉะนั้น ควรสังเกตตัวเองว่ามีการใช้งานแอปฯ นั้นบ่อยแค่ไหน ถ้าหากในวันหนึ่งเปิดใช้งานแอปฯ ดังกล่าวบ่อยมาก ไม่ควรปิดแบบ Force Close แต่ถ้าหากกังวลว่าจะเป็นการทำงานแบบเบื้องหลัง ก็ปิดฟังก์ชัน Background Mode แทนจะดีกว่า
4. ฟังก์ชันปรับความสว่างอัตโนมัติ เปิดใช้แล้วเปลืองแบต
ฟังก์ชันปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ จะเป็นการปรับความสว่างหน้าจอตามสภาวะแสงในตอนนั้น ซึ่งปกติแล้ว ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างมาก และช่วยประหยัดแบตเตอรี่ ฉะนั้น ควรเปิดใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวจะดีกว่า
5. อัปเดต iOS เวอร์ชันใหม่ ๆ แล้วแบตหมดไว
บ่อยครั้งเวลาที่ Apple ปล่อยอัปเดต iOS เวอร์ชันใหม่ มักจะได้ยินฟีดแบคจากผู้ใช้ว่า อัปแล้วแบตหมดไว แบตไหลเป็นน้ำ โดยเฉพาะการมาของ iOS 15 อันนี้ก็มีเหตุผลอยู่เหมือนกัน เป็นเพราะว่า iOS 15 มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่มากขึ้น ซึ่งในเวอร์ชันแรก ๆ ที่ปล่อยให้ผู้ใช้อัปเดต ก็จะมีข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อแบตเตอรี่ ทำให้แบตหมดไวกว่าที่เคยเป็น
แต่ Apple เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะยังมีเวอร์ชันแก้ไขปล่อยให้อัปเดตในภายหลัง ฉะนั้น ควรอัปเดต iOS ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องของความปลอดภัยแล้ว ยังเป็นการแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดกับเวอร์ชันก่อนหน้าอีกด้วย
6. ระบบชาร์จเร็ว ทำให้แบตเสื่อมไว
Adapter ชาร์จไฟในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Fast Charge กันหมดแล้ว เนื่องจากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ มีขนาดความจุแบตเตอรี่มากขึ้น ทำให้ใช้เวลาในการชาร์จที่นานกว่าเดิม Fast Charge จึงเป็นฟังก์ชันที่ช่วยทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม จากที่ต้องชาร์จกันเป็นชั่วโมง เหลือเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
ทั้งนี้ คงจะเคยได้ยินกันมาว่า ระบบชาร์จเร็วนั้น จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งคำแนะนำนี้ก็ใช่ว่าจะถูกต้องเสียทีเดียว จริงอยู่ที่ระบบชาร์จเร็ว จะมีการจ่ายไฟเข้าสู่สมาร์ทโฟนมากขึ้น ทำให้ตัวเครื่องร้อนมากกว่าปกติ ซึ่งความร้อนกับแบตเตอรี่ไม่ถูกกันอยู่แล้ว จึงส่งผลทำให้อายุของแบตเตอรี่สั้นลงกว่าปกติ
ฉะนั้น วิธีที่ถูกต้องที่สุดสำหรับการชาร์จแบบ Fast Charge ก็คือ ให้ใช้ Adapter และสายชาร์จที่ได้มาตรฐานและเหมาะสมกับตัวเครื่อง ส่วน iPhone รุ่นใหม่ ๆ ที่ไม่มี Adapter แถมมาให้ในชุดจำหน่ายแล้ว ก็สามารถซื้อเพิ่มได้จากหน้าเว็บ Apple หรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการรับรองจาก Apple จะดีกว่า หลีกเลี่ยงการซื้อ Adapter ที่ยี่ห้อโนเนมและราคาถูกมากจนเกินไป เพราะเสี่ยงในเรื่องไฟรั่วหรือลัดวงจรได้
7. วิธีที่ดีที่สุดคือ ปล่อยให้แบตหมดก่อนแล้วค่อยชาร์จ
เชื่อว่าผู้ใช้จำนวนไม่น้อย คงจะเคยได้ยินคำแนะนำที่ว่า ให้ใช้จนแบตหมดก่อนแล้วค่อยชาร์จ แบตถึงจะไม่เสื่อมไว ซึ่งคำกล่าวนี้ใช้ไม่ได้กับแบตเตอรี่มือถือในปัจจุบันแล้ว เพราะการชาร์จบ่อย ๆ ในแต่ละวันจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ดีกว่าปล่อยให้แบตหมดแล้วค่อยชาร์จ
-------------------------------------
ที่มา : idropnews.com
เรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 31/01/2022
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |