แม้ว่าในตอนนี้ iPhone 12 series จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการมาได้หลายเดือนแล้ว แต่เชื่อว่ายังมีหลาย ๆ ท่านที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่า จะซื้อ iPhone 12 หรือจะรอซื้อ iPhone 13 ดี เพราะในช่วงนี้ ข่าวลือเกี่ยวกับ iPhone 13 ก็เริ่มมีรายงานอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งคาดกันว่า น่าจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อีกเพียบเลยทีเดียว มาดูกันดีกว่าว่า 10 เหตุผลที่ควรรอ iPhone 13 มีอะไรกันบ้าง
1. หน้าจอแสดงผลอัปเกรดใหม่ ดีกว่าเดิม
แม้ว่า iPhone จะยังคงใช้หน้าจอแสดงผลที่มีอัตรารีเฟรชที่ 120Hz แต่มีหลายรายงานต่างเชื่อว่า iPhone 13 ที่จะเปิดตัวในปีนี้ จะอัปเกรดมาใช้เทคโนโลยีหน้าจอ ProMotion ที่รองรับอัตรารีเฟรชที่ 120Hz อีกทั้งยังเป็นหน้าจอแบบ LTPO ที่ช่วยประหยัดพลังงาน แต่เบื้องต้นคาดว่า หน้าจอแบบใหม่จะมีเฉพาะ iPhone 13 Pro กับ iPhone 13 Pro Max
2. กล้องประสิทธิภาพดีขึ้น
iPhone 12 รุ่นปัจจุบันมีการปรับประสิทธิภาพกล้องให้ดีขึ้น ด้วยการเพิ่ม LiDAR Scanner เข้ามา แต่เชื่อว่า iPhone 13 ที่จะเปิดตัวในปลายปีนี้ จะมีการเพิ่มหรืออัปเกรดมาใช้เลนส์ Periscope ที่จะมาช่วยการซูมแบบ Optical อีกทั้ง iPhone 13 รุ่น Pro จะมีการอัปเกรดกล้อง ด้วยการเพิ่มความละเอียดของกล้องหลักเป็น 64 ล้านพิกเซลอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า Apple อาจจะเพิ่ม LiDAR บน iPhone 13 ทุกรุ่นด้วยเช่นกัน
3. จอบากขนาดเล็กลง
iPhone 13 อาจมีการปรับขนาดจอบากให้เล็กลงในส่วนความสูง ซึ่งจำเป็นต้องรวม Face ID กับกล้องด้านหน้าให้อยู่ด้วยกัน เพื่อให้สามารถลดขนาดของจอบากลงได้ นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า iPhone 13 รุ่น Pro จะรองรับทั้ง Face ID กับ Touch ID สแกนนิ้วบนหน้าจอด้วยเช่นกัน
4. สัญญาณ 5G ดีขึ้น และครอบคลุมมากขึ้น
iPhone 12 series ถือว่าเป็นไอโฟนรุ่นแรกที่รองรับเครือข่าย 5G ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้คนเปลี่ยนมาใช้ iPhone 12 กันมากขึ้น แม้ว่าในบางประเทศ เครือข่าย 5G จะยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศก็ตาม แต่เชื่อว่า iPhone 13 ที่กำลังจะเปิดตัวในปลายปีนี้ จะรองรับสัญญาณ 5G ที่ครอบคลุมมากขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่จะใช้โมเด็ม Snapdragon X60 จาก Qualcomm อีกด้วย
5. iPhone 13 รองรับ Wi-Fi 6E
Blayne Curtis, Thomas O'Malley และ Tim Long นักวิเคราะห์จาก Barclays ได้ออกมาคาดการณ์ว่า iPhone 13 series จะรองรับ Wi-Fi 6E ซึ่งอัปเกรดจาก Wi-Fi 6 โดยจะมีประสิทธิภาพดีกว่าทั้งในเรื่องของความเร็วในการรับส่งข้อมูล, ค่า Latency ต่ำ และขยายไปยังย่านความถี่ 6 GHz ซึ่งทำให้มีแบนด์วิธที่กว้างขึ้นและมีสัญญาณรบกวนน้อยลง
ส่วน iPhone 12 series รุ่นปัจจุบัน รองรับ Wi-Fi 6
6. Touch ID กำลังจะกลับมา
นอกจากข่าวลือเรื่องของจอบากขนาดเล็กลงแล้ว ล่าสุดยังคาดกันว่า iPhone 13 จะรองรับ Touch ID เวอร์ชันใหม่ ซึ่งเป็นการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ แต่การกลับมาของ Touch ID ในครั้งนี้ จะไม่ตัด Face ID เดิมออก แต่จะรองรับทั้ง 2 ระบบในเครื่องเดียว ซึ่งรายงานล่าสุดจาก WSJ ก็เผยอีกด้วยว่า Apple กำลังพัฒนาระบบ Touch ID บนหน้าจออยู่ในตอนนี้
7. ประมวลผลเร็วขึ้นกว่าเดิม
คงจะเป็นฟีเจอร์ที่คาดเดากันได้อยู่แล้วว่า iPhone 13 series จะมีประสิทธิภาพในการประมวลผลเร็วกว่า iPHone 12 เนื่องจากใช้ชิปเซ็ตตัวใหม่ ซึ่งตามข่าวลือคาดว่าจะอัปเกรดมาใช้ชิป Apple A15 Bionic ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 5nm+ ที่นอกจากจะช่วยทำให้ประมวลผลไวขึ้นแล้ว ยังประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย
8. มีรุ่นไร้พอร์ตให้เลือก
ภาพจาก LetsGoDigital
มีข่าวลือว่า iPhone 13 จะมีอย่างน้อย 1 รุ่นที่เป็นรุ่นไร้พอร์ตการเชื่อมต่อ และเน้นการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้งหมด แต่ทั้งนี้ ยังไม่ยืนยันว่า iPhone 13 series จะเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C แทน Lightning เดิมด้วยหรือไม่
9. อาจมีรุ่น 1 TB ให้เลือก
iPhone 12 รุ่นปัจจุบัน มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุดที่ 512 GB ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอสำหรับผู้ที่ชอบเก็บไฟล์หนังไฟล์เพลงไว้ในตัวเครื่องเยอะ อีกทั้ง iPhone 12 series ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมภายนอกด้วย microSD Card ได้ (แต่สามารถซื้อพื้นที่จัดเก็บบน iCloud เพิ่มได้) ซึ่ง iPhone 13 series คาดกันว่า รุ่นท็อปจะมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุดถึง 1 TB เลยทีเดียว
-------------------------------------
ที่มา : gottabemobile.com
เรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 01/02/2021
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |