ปัจจุบัน การจ่ายบิลค่าบริการต่างๆ ทั้งค่าสาธารณูปโภค, บัตรเครดิต หรือแม้แต่การเติมเงินบนมือถือ ส่วนใหญ่มักจะพึ่งพา Counter Service เสียมากกว่า เนื่องจากสามารถทำได้ง่าย และบางแห่งก็อยู่ใกล้บ้านอีกด้วย แต่จะดีแค่ไหน ถ้าหากเราสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้ แค่มี สมาร์ทโฟน เพียงเครื่องเดียว ผ่านทางแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า mPAY นั่นเอง
โดย mPAY คือแอปพลิเคชันสำหรับการทำธุรกรรมบนมือถือแบบครบวงจร สะดวกสบายกับการซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การโอนเงิน, ถอนเงิน, เติมเงิน, จ่ายบิล และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งความสะดวกของ mPAY ก็คือ ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของ AIS ก็สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้เช่นกัน อีกทั้งยังสมัครง่าย แค่ตั้งรหัสผ่านส่วนตัว (PIN) ก็สามารถใช้งานได้ทันที
มาดูกันดีกว่า แอปพลิเคชัน mPAY จะสะดวกและง่ายต่อการใช้งานแค่ไหน
ขั้นตอนการสมัครใช้บริการ mPAY
เข้าไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน mPAY ทั้งบน App Store (iOS) และ Play Store (Android) โดยสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี
หลังจากดาวน์โหลดและทำการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เลือกภาษาที่ต้องการใช้งาน โดยรองรับถึง 4 ภาษาด้วยกัน ได้แก่ ภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ, ภาษาพม่า และภาษาจีน คลิกปุ่มตกลง จากนั้นจะเป็นวิธีการใช้งานแบบคร่าวๆ ให้คลิกที่ปุ่ม เข้าใช้งาน
กรณีที่เข้าใช้งานด้วยเบอร์มือถือเครือข่ายอื่นๆ หรือ เปิด Wi-Fi ก่อนเข้าสู่บริการ mPAY จะต้องระบุหมายเลขโทรศัพท์มือถือ เพื่อรับรหัสผ่านแบบ OTP ทาง SMS ในการยืนยันตัวตนเสียก่อน แต่ถ้าเป็นการเข้าใช้งานด้วย 3G ของเครือข่าย AIS จะไม่เห็นขั้นตอนนี้
หลังจากได้รับ SMS แล้ว ให้ระบุรหัสผ่าน OTP ลงไป จากนั้นคลิกที่ปุ่ม ตกลง
ตั้งค่ารหัสส่วนตัว (PIN) พร้อมกับกรอกอีเมล จากนั้นคลิก ต่อไป
หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว ก็สามารถเริ่มต้นเข้าใช้งาน mPay ได้แล้วครับ
เริ่มต้นใช้งาน mPAY
ในหน้าหลัก จะมีการระบุยอดเงิน mPAY ของเราว่า มีเงินเหลืออยู่เท่าใด ส่วนด้านล่าง จะเป็นบริการต่างๆ ที่สามารถใช้งานบน mPAY ได้ ไม่ว่าจะเป็น ชำระบิล, โอนเงิน, บริการเอไอเอส, Rabbit และ AIS mPAY MasterCard ซึ่งในหน้านี้ ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ และภาพพื้นหลังได้ตามใจชอบอีกด้วย
สำหรับวิธีการเติมเงินเข้า mCASH นั้น มีทั้งหมด 3 วิธีด้วยกัน ได้แก่ ผ่านบัญชีธนาคาร, ผ่านตู้ ATM และผ่านบัตร MasterCard ซึ่งวิธีการชำระผ่านบัญชีธนาคารที่ผูกไว้ จะสะดวกต่อการใช้งานมากกว่า โดยรองรับถึง 6 ธนาคารด้วยกัน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารทหารไทย และธนาคาร UOB
มีบัตร ATM ของธนาคารไหน ก็สามารถไปผูกบัญชีได้ที่ตู้ ATM ของธนาคารนั้นๆ ได้เลย โดยทำการผูกบัญชีที่ตู้ ATM เพียงครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากนั้น การเติมเงินเข้า mCASH ก็สามารถทำผ่านตัวแอปพลิเคชันได้เลย ไม่จำเป็นต้องเดินไปที่ตู้ ATM อีก
มาดูกันที่เมนู การชำระบิล กันบ้าง โดยจะเห็นว่า แอปพลิเคชัน mPAY ครอบคลุมการชำระบิลแทบจะทุกบริการเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าสาธารณูปโภค อย่างเช่น ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์บ้าน หรือจะเป็นบัตรเครดิต, ลิสซิ่ง, ประกันภัย, ประกันชีวิต, ค่าอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังสามารถเติมเงินสำหรับเกมออนไลน์ได้อีกด้วย เรียกได้ว่า สะดวกมากเลยทีเดียว
ลองทดสอบการใช้งานจริงกันเสียหน่อย ทางทีมงานเลือกชำระค่าน้ำกับ การประปานครหลวง ซึ่งความสะดวกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าเป็นบิลที่มีบาร์โค้ดมาให้ ก็สามารถสแกนบาร์โค้ดได้เลย ไม่จำเป็นต้องพิมพ์หมายเลขให้ยุ่งยาก
o
เมื่อสแกนบาร์โค้ด หรือใส่ข้อมูลตามใบแจ้งหนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีรายละเอียดพร้อมจำนวนเงินที่จะต้องชำระ ซึ่งจะต้องตรงกับใบแจ้งหนี้นั้นๆ โดยจะรวมค่าธรรมเนียมในการใช้บริการด้วย เมื่อตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ระบุรหัส PIN 4 หลัก และคลิกตกลง
เพียงแค่นี้ ก็สามารถชำระค่าบริการต่างๆ ได้แล้ว อีกทั้งยังสามารถระบุอีเมลที่ต้องการให้ส่งเอกสารยืนยันการทำรายการจากบริการ mPAY ได้ ซึ่งถือว่า สะดวกและรวดเร็วมากเลยทีเดียว
นอกเหนือจากค่าน้ำ ค่าไฟแล้ว ยังสามารถใช้ชำระค่าบริการอื่นๆ ได้ตามที่ระบุไว้ในรายการ ไม่ว่าจะเป็น ชำระค่าบริการบัตรเครดิต, ลิสซิ่ง, ประกันชีวิต, ประกันภัย และอื่นๆ อีกมากมาย
ถัดมาเป็นเมนู โอนเงิน โดยมีให้เลือกใช้ 4 เมนูย่อยด้วยกัน ได้แก่ เติมเงิน mCASH, โอนไปเบอร์มือถือ, ถอนเงิน mCASH โดยโอนเข้าบัญชี และ ถอนเงิน mCASH เป็นเงินสด
ถัดมาเป็น บริการต่างของ AIS ไม่ว่าจะเป็น การจ่ายบิลค่าโทรศัพท์รายเดือน หรือ เติมเงิน AIS, เติมเงิน YOU! ซึ่งพิเศษตรงที่ สามารถจ่ายบิล AIS หรือ เติมเงิน AIS ให้ใครก็ได้ ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้เบอร์ AIS แต่ถ้าหากมีเพื่อน หรือ คนในครอบครัวต้องการจ่ายบิล AIS หรือ เติมเงิน AIS ก็ทำให้เค้าได้ นอกจากนี้ในหมวดนี้ยังสามารถจ่ายบิล AIS Fibre, Airnet และแพ็กเกจเสริมต่างๆ ได้อีกด้วย
ส่วนขั้นตอนการชำระค่าโทรศัพท์ ก็ง่ายๆ เพียงแค่กรอกหมายเลขโทรศัพท์ลงไป ระบบก็จะแจ้งยอดค่าใช้จ่ายให้เลยทันที ซึ่งสามารถจ่ายได้ทั้งเบอร์ตัวเอง และเบอร์คนอื่น
ปิดท้ายด้วย 2 เมนูการใช้งานที่เหลือ นั่นก็คือ AIS mPAY Rabbit สะดวกกับการชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS, อาหาร และเครื่องดื่มจากร้านค้าชั้นนำที่เข้าร่วมรายการ ส่วน AIS mPAY MasterCard บริการบัตร MasterCard แบบเติมเงิน สะดวกต่อการช้อปปิ้งบนร้านค้าออนไลน์ ไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิต ใช้เท่าไหร่ ก็เติมเงินเข้าไปเท่านั้น
สำหรับธุรกรรมที่ทำผ่าน mPAY ไปแล้ว ผู้ใช้สามารถดูรายการย้อนหลังได้ ด้วยการเข้าไปที่ ข้อมูลการทำรายการ ซึ่งจะมีรายการใช้งานในช่วง 30 วันที่ผ่านมา โดยแยกออกเป็นหมวด เช่น รายการเติมเงิน, รายการจ่ายบิล หรือรายการจ่ายบิลสาธารณูปโภค เป็นต้น
mPAY แตกต่างจาก True Money อย่างไร
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่า บริการ mPAY นั้น มีความคล้ายกับบริการ True Money เป็นอย่างมาก มาดูกันว่า ถ้าหากเปรียบเทียบทั้ง 2 บริการนี้ จะมีความแตกต่างตรงไหนบ้าง
พิเศษ! รับเงินคืน 10% เมื่อใช้จ่ายผ่าน mPAY โดยมีเงื่อนไขดังนี้
พิเศษ! รับเงินคืนสูงสุด 1,000 บาท เมื่อแนะนำเพื่อนมาสมัคร และใช้จ่ายผ่าน mPAY
สำหรับแอปพลิเคชัน mPAY นั้น เรียกได้ว่า เป็นตัวช่วยที่ทำให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมบนสมาร์ทโฟนได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการจ่ายบิลต่างๆ ที่รองรับบริการทุกประเภท ทั้งค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์, จ่ายบัตรเครดิต และอื่นๆ อีกมากมาย นอกเหนือจากเรื่องความสะดวกสบาย และลดเวลาในการเดินทางแล้ว ยังปลอดภัยด้วยระบบ mPAY Security System กับรหัสผ่าน PIN 4 หลัก อีกทั้งยังรองรับทุกค่าย ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของ AIS แต่ผู้ใช้ dtac และ TrueMove H ก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน mPAY มาใช้งานได้เช่นกัน
แอปพลิเคชัน mPAY ดาวน์โหลดฟรี ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม : mPAY บน iOS
รายละเอียดเพิ่มเติม : mPAY บน Android
รายละเอียดเพิ่มเติม : mPAY
---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 23/09/2015
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |