หากใครเคยดูหนังสุดคลาสสิกอย่าง "เจาะเวลาหาอนาคต" หรือ Back to the Future ภาค 2 เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว คงจำฉากที่ตัวเอก Marty McFly หยิบรองเท้า Nike มาสวมใส่แต่ยังไม่ทันจะก้มลงไปเพื่อผูกเชือก ก็ปรากฏว่ารองเท้าจัดการรัดเชือกด้วยตัวเองอย่างเสร็จสรรพพร้อมลุกเดินต่อได้ทันที ซึ่งเป็นการจุดประกายความฝันแก่หลายต่อหลายคนเพื่อเฝ้ารอให้มันเกิดขึ้นจริง แต่ผ่านมากว่า 2 ทศวรรษก็ยังไม่มีใครผลิตรองเท้าแบบในหนังซักทีแม้เทคโนโลยีจะก้าวล้ำจากเดิมไปมากก็ตาม แต่ล่าสุด Nike สานฝันให้เป็นจริงเรียบร้อยด้วยการเปิดตัว Nike Mag รองเท้าสุดล้ำรุ่นใหม่พร้อมฟีเจอร์รัดเชือกเองได้เหมือนในหนังด้วย
ฉากในหนังที่คงคุ้นตากันเป็นอย่างดี
Nike Mag ได้รับออกแบบโดย Tinker Hatfield ผู้ที่เคยฝากผลงานไว้กับรองเท้า Air Jordan มาแล้ว โดยโปรเจ็กต์พัฒนา Nike Mag ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2007 ที่ผ่านมา และเคยวางขายจริงในช่วงปี 2011 ก่อนจะวางขายอีกครั้งในปีนี้พร้อมปรับปรุงดีไซน์ให้ดูพรีเมียมยิ่งขึ้น ซึ่งรองเท้าสุดล้ำแบบจะเกิดขึ้นจริงไม่ได้เลยหากไม่มีเทคโนโลยีที่ทาง Nike ได้คิดค้นในชื่อ Adaptive Fit โดยหากดูจากดีไซน์ภายนอกก็เหมือนกับรองเท้าทั่วๆไป แต่ด้านในจะมีปุ่มปรับระดับความแน่นของเชือกให้พอดีกับขนาดเท้า ส่วนด้านข้างมีไฟ LED เพื่อบอกพลังงานแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ แต่หลายคนอาจสงสัยว่า รองเท้าคู่นี้มันจะเจ๋งเหมือนในหนังจริงๆ เหรอ? ซึ่ง Edgar Alvarez หนึ่งในผู้สื่อข่าวจากเว็บไซต์ engadget ได้เปิดเผยความรู้สึกหลังจากทดลองสวมใส่มาแล้วก็บอกว่า ไม่มีผิดหวังแต่อย่างไร แต่ Nike Mag จะยอดเยี่ยมจริงๆ เหมือนที่นายคนนี้บอกหรือไม่ ไปดูรูปพร้อมคลิปการใช้งานจริงกันดีกว่าครับ
สำหรับรองเท้า Nike Mag ถูกผลิตมาทั้งหมด 4 ไซส์ด้วยกัน ได้แก่ 7, 9, 11 และ 13 ส่วนใครที่กลัวว่าจะใส่แล้วซ้ำกับคนอื่นก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะผลิตมาแค่เพียง 89 คู่บนโลกเท่านั้น อีกทั้งต้องซื้อตั๋วเป็นเงินจำนวน $10 (ประมาณ 350 บาท) บนเว็บไซต์ Nike เพื่อรอทำการจับสลากอีกครั้งว่าใครจะมีโอกาสจับจองเป็นลำดับต่อไป โดยเงินทั้งหมดจากการจำหน่ายตั๋วจะนำไปสมทบทุนแก่องค์กรที่กำลังหาวิธีรักษาโรคพาร์กินสัน สำหรับใครที่ไม่อยากลุ้นก็อาจรอคนที่ได้ไปก่อนวางขายตามเว็บ ebay ซึ่งเคยมีคนขาย Nike Mag รุ่นปี 2011 ด้วยราคาสูงถึง 11,999 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 4 แสนบาทมาแล้ว ส่วนรุ่นปี 2016 คาดว่าอาจมีราคาแตะ 6 หลักก็เป็นได้ครับ
---------------------------------------
ที่มา : engadget
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 06/10/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |