[รีวิว] OPPO Find Gemini Plus สมาร์ทโฟน 2 ซิมการ์ด ครบครันทุกการใช้งาน ในราคาไม่ถึงหมื่น

[20-ตุลาคม-2555] เรียกได้ว่า ชื่อของ OPPO ในตลาดสมาร์ทโฟนบ้านเรา คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้แล้วครับ เพราะ OPPO นั้น ได้เข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนอย่างเต็มตัวแล้ว นับตั้งแต่การเปิดตัว OPPO Find 3 และ OPPO Finder รวมไปถึงการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 ซิมอย่าง OPPO Find Guitar, OPPO Find Gemini และล่าสุด OPPO Find Gemini Plus ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของ OPPO Find Gemini นั่นเองครับ

สำหรับ OPPO Find Gemini Plus นั้น มีการออกแบบที่เหมือนกับ OPPO Find Gemini ครับ แต่สิ่งที่แตกต่างไปก็คือ OPPO Find Gemini Plus จะมีการปรับสเปคให้ดีกว่า OPPO Find Gemini เล็กน้อย นั่นก็คือ ใช้ซีพียูแบบ Dual-core Processor และระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 Ice Cream Sandwich ถ้าหากพูดถึงความลื่นไหลในการใช้งานแล้ว OPPO Find Gemini Plus ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดครับ ก่อนจะเข้าสู่บทความรีวิว OPPO Find Gemini Plus มาดูสเปคของ OPPO Find Gemini Plus กันก่อนครับ

สเปค OPPO Find Gemini Plus เป็นดังนี้

- หน้าจอขนาด 4 นิ้ว แบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล
- ซีพียูแบบ Dual-core ARM Cortex-A9 (MediaTek MT6577) processor ความเร็ว 1GHz
- RAM ขนาด 512MB
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 Ice Cream Sandwich
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 4GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้ด้วย microSD card สูงสุด 32GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และหมวดถ่ายภาพแบบ LOMO
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth เวอร์ชั่น 2.1, GPS (A-GPS) และเครือข่าย 3G
- สามารถใช้งานเครือข่าย 3G ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ด
- น้ำหนัก 133 กรัม

OPPO Find Gemini Plus : การออกแบบ

อย่างที่เกริ่นไปแล้วในตอนต้นครับว่า OPPO Find Gemini Plus มีการออกแบบที่เหมือนกับ OPPO Find Gemini ทั้งด้านหน้า และด้านหลังตัวเครื่อง โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4 นิ้ว แบบ IPS ที่ไม่เล็ก และไม่ใหญ่จนเกินไป จับได้ถนัดมือครับ ส่วนขอบตัวเครื่องเป็นโครเมี่ยม

ส่วนด้านหลังตัวเครื่อง เป็นพลาสติกผิวเรียบลื่น แต่ดูแข็งแรงครับ

ด้านบนของจอแสดงผล ประกอบด้วย กล้องด้านหน้า ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ และลำโพงสำหรับสนทนาขนาดใหญ่

ส่วนด้านล่างของจอแสดงผล เป็นปุ่มควบคุมการใช้งานแบบสัมผัสครับ มีทั้งหมด 3 ปุ่มด้วยกัน (จากซ้ายไปขวา) ซึ่งได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่ม Home และปุ่ม Back โดยจะมีไฟสว่างขึ้นเมื่อสัมผัสบนหน้าจอ ซึ่งระยะเวลาของไฟนี้ สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่เมนู Settings

ด้านบนของตัวเครื่อง เป็นช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย พอร์ต microUSB สำหรับชาร์ตแบตเตอรี่ หรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อถ่ายโอนข้อมูล, ไมโครโฟน และร่องสำหรับแกะฝาหลังครับ ซึ่งตรงนี้จะแตกต่างจาก OPPO Find Gemini ตรงที่ ร่องสำหรับแกะฝาหลัง จะอยู่ด้านบน

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นปุ่มสำหรับเปิด-ปิด-ล็อคเครื่อง

ส่วนด้านขวาของตัวเครื่อง มีทั้งหมด 2 ปุ่มด้วยกัน นั่นก็คือ ปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียงครับ

เมื่อพลิกไปด้านหลัง จะพบกับกล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED

และลำโพงดีไซน์แปลกตาครับ

เมื่อแกะฝาหลัง จะพบกับ แบตเตอรี่ขนาด 1710 mAh, ช่องใส่ซิมการ์ด และช่องสำหรับ microSD card

ซิมการ์ด เป็นขนาดมาตรฐานครับ ใส่ได้ทั้งหมด 2 ซิมการ์ดด้วยกัน ซึ่งการถอดเปลี่ยนซิมการ์ดนั้น จะต้องถอดแบตเตอรี่ออกเสียก่อน ส่วนด้านซ้ายมือนั้น เป็นช่องสำหรับ microSD card ครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง OPPO Find Gemini Plus ประกอบไปด้วย คู่มือการใช้งาน, แท่นชาร์ตแบตเตอรี่แบบ Wall charge, สาย data สำหรับเชื่อมต่อกับแท่นชาร์ตแบตเตอรี่ และเชื่อมต่อระหว่างตัวเครื่องกับคอมพิวเตอร์, หูฟัง และแบตเตอรี่ (ไม่ใช่แบตเตอรี่สำรองนะครับ)

OPPO Find Gemini Plus : ฟีเจอร์การใช้งาน

จุดเด่นของ OPPO Find Gemini Plus ก็คือ อินเทอร์เฟสที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ OPPO ครับ ซึ่งมีธีมให้เลือกหลายแบบด้วยกัน เริ่มตั้งแต่หน้า Lockscreen ที่มีเมนูแบบ shortcut ให้เลือกใช้ตั้งแต่เปิดเครื่อง โดยการลากไอคอนของฟีเจอร์ที่ต้องการใช้งาน ไปที่มุมล่างซ้ายที่เป็นรูปแม่กุญแจครับ ซึ่งเมนู shortcut นี้ ก็ได้แก่ หน้า Home, Music, หน้าใช้โทรศัพท์, กล้องถ่ายรูป และ ข้อความ ส่วนไอคอนสีชมพู ที่เป็นรูปลำโพงด้านบนนั้น เป็นการเปิดปิดเสียงโทรศัพท์ครับ ถ้าหากจะเปิดเป็นระบบสั่น ก็กดที่ไอคอนนี้ได้เช่นกัน

ในส่วนของหน้า Homescreen นั้น มีอินเทอร์เฟสคล้ายกับแอนดรอยด์โฟนทั่วๆ ไป แต่ถูกปรับแต่งให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ OPPO ซึ่งมีเมนูหลักด้านล่าง 4 เมนูด้วยกัน นั่นก็คือ ปุ่มโทร, เมนูข้อความ, เมนูเข้าแอพพลิเคชั่นรวม และ Music player โดยด้าน Homescreen สามารถปรับแต่งและเพิ่ม Widgets ได้สูงสุดถึง 9 หน้าด้วยกัน

สำหรับธีมบน OPPO Find Gemini Plus นั้น มีให้เลือกหลายแบบตามความชอบครับ ซึ่งธีมที่ใช้ในการรีวิวนี้ เป็นแบบ Default Theme นอกจากนี้ ยังประกอบไปด้วย ลูกเล่นต่างๆ ได้แก่ ลูกเล่นการปลดล็อค และลูกเล่นการเลื่อนหน้าจอ (เข้าสู่เมนูนี้ได้ที่ การตั้งค่า > จอแสดงผล > ตั้งค่าเอฟเฟ็ค)

หน้าแอพพลิเคชั่นรวมนั้น จะไม่มีการแบ่งแยกส่วนของ แอพพลิเคชั่น และ Widgets แบบ TouchWiz UI บน Samsung แต่ละเป็นแอพพลิเคชั่นทั้งส่วนที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง และส่วนที่ดาวน์โหลดมาจาก Play Store ครับ โดยแอพพลิเคชั่นที่เพิ่งดาวน์โหลดมาใหม่ จะมีไอคอนว่า New แสดงให้เห็นครับ

ส่วนของ Notification area หรือ แถบการแจ้งเตือนนั้น สามารถเปิดใช้งานได้โดยการลากลงจากด้านบนหน้าจอ ซึ่งจะมีเมนู shortcut ให้ใช้งานด้วยครับ ซึ่งได้แก่ Wi-Fi, รับส่งข้อมูล, เปิดเป็นระบบสั่น, ล็อคการหมุนของหน้าจอ, GPS, ปรับความสว่างของหน้าจอ, Bluetooth และ Wi-FiSpot โดยเมนูแบบ shortcut นี้ สามารถตั้งค่าเองได้โดยเข้าไปที่เมนูแก้ไข (ซ้ายมือ) ครับ

เมื่อกดปุ่มเปิด-ปิดเครื่องค้างไว้ จะพบกับเมนูเหล่านี้ครับ ซึ่งได้แก่ ปิดเครื่อง, โหมดปิดเสียง, โหมดการใช้งานบนเครื่องบิน และรีสตาร์ทเครื่อง

สำหรับเมนูการตั้งค่า หรือ Settings นั้น ถือว่า มีการใช้งานที่ค่อนข้างง่าย และแบ่งเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจนครับ แม้ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งหัดใช้งาน OPPO ก็สามารถใช้งานได้อย่างสบาย เนื่องจากอินเทอร์เฟสได้ถูกแบ่งตามหัวข้อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ทั่วไป, เสียง, จอแสดงผล และปลอดภัย

แม้ OPPO Find Gemini Plus จะเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แต่สามารถใช้งานเป็น Wi-Fi Hotspot ได้ไม่แพ้สมาร์ทโฟนราคาแพงครับ

การกดปุ่ม Home ค้างไว้ จะเข้าสู่หน้าของ Task manager ครับ โดยสามารถปิดแอพพลิเคชั่นที่ไม่ใช้งานด้วยการปัดจากด้านข้าง หรือถ้าหากต้องการจะปิดทุกแอพพลิเคชั่น สามารถกดได้ที่ไอคอนรูปไม้กวาด ด้านล่างซ้ายบนจอครับ

NearMe โน้ต แอพพลิเคชั่นสำหรับบันทีกข้อความต่างๆ โดยรองรับทั้งรูปภาพจากคลังภาพ, ภาพที่ถ่ายใหม่, การเขียน, วาดรูป หรือการพิมพ์

สำหรับเบราเซอร์ที่มีมาให้ในตัวเครื่อง ถือว่า ทำงานได้ลื่นไหลดีครับ สามารถเปิดเว็บ Flash ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างทางลัดเข้าเว็บไซต์ได้ โดยที่ไม่ต้องพิมพ์ URL ตลอดเวลาครับ แต่ถ้าหากท่านที่ชอบใช้เบราเซอร์อื่น ก็สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้จาก Play Store

หมดห่วงเรื่องการเปิดไฟล์เอกสาร ด้วยแอพพลิเคชั่น Quickoffice ซึ่งเป็น pre-installed ในเครื่องครับ สามารถเปิดได้ทั้งไฟล์ Word, Excel, PowerPoint และ PDF ครับ

ทดสอบ Benchmark บน OPPO Find Gemini Plus กันเสียหน่อยครับ โดยโปรแกรมที่นำมาทดสอบในครั้งนี้ก็คือ Quadrant ได้ 2765 คะแนน ซึ่งได้คะแนนเยอะกว่า Samsung Galaxy Nexus เสียอีก ส่วน AnTuTu ได้ 5776 คะแนน และทดสอบระบบ Multitouch ได้ 10 จุดครับ

ลูกเล่นของกล้องถ่ายรูปบน OPPO Find Gemini Plus ก็คือ แอพพลิเคชั่น LOMO ครับ ซึ่งทำให้การถ่ายรูปแบบธรรมดาๆ กลายเป็นภาพเก๋ๆ ไปอีกแบบ ซึ่งก่อนเลือกเอฟเฟกซ์ภาพ จะมีตัวอย่างให้ดูกันก่อนว่าเป็นอย่างไร โดยเอฟเฟกซ์ที่มีให้เลือก ก็ได้แก่ Mirror, Fisheye, Defocus, Tunnel, Tip of Chin, Big Nose, The Left face และ Cat Face ครับ

ส่วนอินเทอร์เฟสของการถ่ายรูปมาตรฐานนั้น ไม่ใช่จะมีเพียงแค่การปรับกล้องมาเป็นกล้องด้านหน้า และเปิด-ปิดไฟแฟลชเท่านั้น แต่ยังมีลูกเล่นของการถ่ายภาพ ซึ่งได้แก่ โหมด Beauty Plus, โหมดการถ่ายรูปแบบกลุ่ม, โหมดถ่ายภาพแบบพาโนราม่า, โหมด HDR และโหมดถ่ายต่อเนื่อง ส่วนการสลับเป็นการถ่ายภาพแบบวิดีโอ ให้เลื่อนไปที่รูปกล้องวิดีโอตรงเมนูด้านบนขวาครับ

ตัวอย่างภาพแบบพาโนรามา

ลองมาดูภาพจากกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล บน OPPO Find Gemini Plus ครับ

** คลิ๊กเพื่อชมภาพขนาดใหญ่ ที่ไม่ผ่านการตกแต่งใดๆ

OPPO Find Gemini Plus : บทสรุปการใช้งาน

สำหรับ OPPO Find Gemini Plus นั้น ถือว่า เป็นสมาร์ทโฟน 2 ซิมการ์ดที่น่าใช้อีกรุ่นหนึ่ง ในระดับราคาที่ไม่แพงจนเกินไปครับ ซึ่งจากการทดสอบใช้งาน OPPO Find Gemini Plus มาระยะหนึ่ง ก็พบกับจุดเด่นที่น่าสนใจ อยากจะมาแชร์ให้ได้ทราบกัน ตามความเห็นส่วนตัว ดังนี้ครับ

ข้อดีของ OPPO Find Gemini Plus

1) จอแสดงผลขนาด 4 นิ้ว ที่มาพร้อมกับหน้าจอที่ค่อนข้างละเอียด 480 x 800 พิกเซล เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับราคาไม่เกินหลักหมื่นทั่วๆ ไป นอกจากนี้ ยังจับได้ถนัดมืออีกด้วย
2) ตัวเครื่องทำมาจากพลาสติก ผิวเรียบ แต่ออกแบบได้หรูหรา และดูแข็งแรงทนทาน
3) รองรับการใช้งานได้ 2 ซิมการ์ดพร้อมกัน และรองรับการใช้งานเครือข่าย 3G ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ด อีกทั้ง ยังมีฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครัน
4) อินเทอร์เฟสใช้งานได้ง่าย และไม่ซับซ้อน แม้ว่าจะเพิ่งใช้งาน OPPO เป็นครั้งแรกก็ตาม
5) ซีพียูแบบ Dual-core processor ความเร็ว 1GHz ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีและลื่นไหล ทั้งการเปิดเบราเซอร์ การเล่นเกม ใช้งานกล้องถ่ายรูป และอื่นๆ
6) สามารถใช้งานเป็น Wi-Fi hotspot ได้
7) กล้องด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง อีกทั้ง ยังมีฟีเจอร์การใช้งานกล้องให้เล่นมากมาย ทั้งโหมด Beauty Plus, โหมดการถ่ายรูปแบบกลุ่ม, โหมดถ่ายภาพแบบพาโนราม่า, โหมด HDR และโหมดถ่ายต่อเนื่อง
8) รองรับระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 Ice Cream Sandwich

ข้อเสียของ OPPO Find Gemini Plus

1) ตัวกล้องโฟกัสภาพได้ค่อนข้างช้า เมื่อใช้งานในที่ร่ม หรือที่ที่มีแสงน้อย
2) หน่วยความจำภายในตัวเครื่องให้มาค่อนข้างน้อย อาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งาน จำเป็นต้องหา microSD card เพิ่ม

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ OPPO Find Gemini Plus จะเน้นไปที่กลุ่มผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดเป็นหลัก ทั้งกลุ่มลูกค้าระดับล่าง และระดับกลาง ซึ่งราคาของ OPPO Find Gemini Plus อยู่ที่ 9,990 บาท ซึ่งแพงกว่า OPPO Find Gemini อยู่ 1,000 บาท กับความสามารถในการใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด และมีฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครันแบบนี้ ถือว่า เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจครับ

 

 

 

---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

 

 

 

Update : 20/10/2012

Oppo OPPO Find Gemini Plus ราคา OPPO Find Gemini Plus สเปค OPPO Find Gemini Plus