[รีวิว] OPPO N1 นวัตกรรมด้านการถ่ายภาพแบบใหม่ กับกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่สามารถหมุนได้ 206 องศา พร้อมอุปกรณ์เสริม O-Click Control ควบคุมการทำงานแบบไร้สาย

สำหรับ OPPO N1 ถือว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทาง ออปโป้ ภูมิใจนำเสนอมากที่สุดในช่วงปลายปีนี้เลยก็ว่าได้ครับ เพราะจุดขายของ OPPO N1 รุ่นนี้ นอกจากจะมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ กว้างถึง 5.9 นิ้วแล้ว จุดขายของ OPPO N1 อยู่ที่ กล้องดิจิตอลความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซล ที่มีคุณสมบัติพิเศษ นั่นก็คือ สามารถหมุนได้ถึง 206 องศา ทำให้สามารถเป็นได้ทั้งกล้องด้านหน้า และกล้องด้านหลัง นั่นเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพตนเองด้วยกล้องด้านหน้า ซึ่งได้ภาพที่มีความละเอียด และคมชัดกว่า กล้องมือถือ รุ่นอื่นๆ ในท้องตลาดปัจจุบัน

นอกจากกล้องหมุนได้ 206 องศาแล้ว OPPO N1 ยังมีจุดขายตรง ระบบควบคุมการทำงานแบบสัมผัส ที่มีชื่อว่า O-Touch Panel โดยเป็นแผงควบคุมที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งรองรับการใช้งานในหลายๆ ฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็น การเลื่อนดูรูปภาพใน Gallery, เลื่อนหน้าเว็บไซต์ หรือแม้แต่การชัตเตอร์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

โดยในวันนี้ ทีมงานเว็บไซต์ techmoblog จะมา รีวิว OPPO N1 ให้ชมกัน มาดูกันครับว่า ด้วยราคาเปิดตัวที่ 19,990 บาท OPPO N1 จะมีลูกเล่นอะไรซ่อนไว้ข้างในอีกบ้าง

สเปค OPPO N1

- จอแสดงผลกว้าง 5.9 นิ้ว แบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (377 ppi)
- หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Krait 300 Processor (Qualcomm Snapdragon 600 chipset) ความเร็ว 1.7 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ Adreno 320 GPU
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB ไม่รองรับ microSD card
- รัน Android 4.2.2 Jelly Bean
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม Dual-LED flash ซึ่งสามารถหมุนสลับจากด้านหลัง มาใช้เป็นกล้องด้านหน้าได้ โดยโมดูลกล้อง สามารถหมุนได้ 206 องศา
- แบตเตอรี่ Li-Ion 3610 mAh

สเปค OPPO N1 อย่างละเอียด คลิกที่นี่

OPPO N1 : ดีไซน์ และการออกแบบ

สำหรับตัวเครื่อง OPPO N1 นั้น มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล และกระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3 ที่มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่า OPPO N1 จะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ถูกออกแบบให้มีความบาง ทำให้สามารถจับใช้งานได้ถนัดมือขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ ยังถูกออกแบบให้เป็นแบบตัวเครื่องชิ้นเดียว ซึ่งไม่สามารถถอดฝาหลังได้ครับ

ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ลำโพงสำหรับสนทนา, Proximity Sensor และ Ambient Light Sensor ซึ่ง OPPO N1 นั้น ไม่มีกล้องด้านหน้าครับ แต่เราสามารถหมุนสลับ กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มาเป็นกล้องด้านหน้าได้ โดยทาง OPPO เผยว่า สามารถหมุนได้รวม 206 องศา และรองรับการหมุนได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 ครั้ง ซึ่งจุดเด่นตรงนี้ ทำให้ OPPO N1 กลายเป็น สมาร์ทโฟน ที่มีกล้องด้านหน้า ที่คมชัดที่สุด รองรับไฟแฟลชแบบ Dual-LED ผู้ที่ชอบการถ่ายรูปตัวเองด้วยกล้องด้านหน้า น่าจะถูกใจกับคุณสมบัติดังกล่าวครับ

ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มควบคุมการทำงาน 3 ปุ่มแบบสัมผัส พร้อมไฟ LED ได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ (Back)

ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มเปิด-ปิด หรือล็อคหน้าจอ กับ ปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นช่องใส่ซิมการ์ดแบบ microSIM

ด้านบนของตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มควบคุมการทำงาน หรือพอร์ตการเชื่อมต่อใดๆ ครับ แต่เราสามารถหมุนกล้อง ให้มีลักษณะดังภาพด้านบนได้

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, ช่องเสียบสายหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ microUSB และลำโพงเสียง

พลิกมาด้านหลังของตัวเครื่อง จะพบกับ กล้องดิจิตอลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชคู่แบบ Dual-LED และไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้างครับ

นอกจากนี้ ด้านหลังของ OPPO N1 ยังมีลูกเล่นที่น่าสนใจซ่อนอยู่ นั่นก็คือ O-Touch Panel ซึ่งสามารถควบคุมการทำงานได้ 5 ทิศทางครับ ไม่ว่าจะเป็น ขึ้น, ลง,​ ซ้าย, ขวา และ ตรงกลาง โดยสามารถใช้งานได้หลากหลายประเภท เช่น เลื่อนไปซ้าย หรือขวา เพื่อดูรูป หรือเลื่อนขึ้น-ลง เวลาดูเว็บไซต์ ส่วนการกดตรงกลาง เป็นการชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพครับ

สำหรับอุปกรณ์เสริมของ OPPO N1 ชิ้นนี้ มีชื่อว่า O-Click Control ครับ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ควบคุมการทำงานของตัวเครื่องแบบไร้สาย โดยการออกแบบของ O-Click Control นั้น มีลักษณะเป็นทรงกลม สามารถนำไปคล้องกับลูกกุญแจ เพื่อทำเป็นพวกกุญแจได้ โดยคุณสมบัติของ O-Click Control นั้น มีมากมายหลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

• สะดวกมากขึ้นในการถ่ายภาพหมู่ ไม่จำเป็นต้องตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพอีกต่อไป เพราะเราสามารถใช้ O-Click Control กดถ่ายภาพได้เลยทันที ซึ่งระยะการถ่ายภาพ อยู่ที่ 5-8 เมตร
• ในกรณีที่จำไม่ได้ว่า วางสมาร์ทโฟนไว้ที่ใด สามารถกด O-Click Control เรียกหาได้ทันที ซึ่งมีระยะการค้นหาอยู่ที่ 10-15 เมตร
• หมดห่วงเรื่องลืมมือถือไปได้เลย เพราะ O-Click Control มีระบบแจ้งเตือน ในกรณีที่ผู้ใช้ลืมทิ้งไว้ หรืออยู่นอกเขตสัญญาณ

OPPO N1 : อินเทอร์เฟส และการใช้งานเบื้องต้น

OPPO N1 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Color OS ที่มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean โดยตัวไอคอน จะเป็นแบบไร้กรอบ ที่เรียกได้ว่า สวยงามไปอีกแบบครับ แต่การใช้งานโดยรวมยังถือว่า เหมือนกับ มือถือออปโป้ รุ่นอื่นๆ

สำหรับหน้า Lockscreen นั้น ใช้การปลดล็อคด้วยการลากรูปแม่กุญแจ ไปด้านซ้ายหรือขวา ซึ่งการกดปุ่ม Power ที่อยู่ตรงด้านขวาของตัวเครื่องค้างไว้ จะเป็นการเข้าสู่เมนูลัด ไม่ว่าจะเป็น การปิดเครื่อง, รีสตาร์ท, เปิด-ปิดเสียง, เปิด-ปิดระบบสั่น และเปิด-ปิดโหมดเครื่องบิน (Airplane mode)

หน้า Homescreen ผู้ใช้สามารถเลือก แอพพลิเคชั่น ที่ใช้งานบ่อย สร้างเป็น shortcut เพื่อใช้งานในหน้านี้ได้เลยทันที ซึ่งสามารถเพิ่มหน้า Homescreen ได้สูงสุด 9 หน้าด้วยกัน

สำหรับการเพิ่ม Widget, เปลี่ยนธีม, วอลเปเปอร์ หรือเอฟเฟกต์ต่างๆ สามารถทำได้ด้วยการ ปัดจากล่างขึ้นบนครับ ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ

นอกจากนี้ ในหน้า Homescreen ของ OPPO N1 จะมีเมนูพิเศษเพิ่มเข้ามา นั่นก็คือ โหมดถ่ายภาพด่วน หรือ Photo Space โดยสามารถเข้าสู่โหมดกล้องเพื่อถ่ายภาพได้ทันที ซึ่งภาพที่แสดงนั้น จะเป็นแบบไทม์ไลน์ เรียงตามวัน และเวลาที่ถ่ายภาพ

ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถเข้าสู่ แอพพลิเคชั่นกล้อง, คลังภาพ (Gallery), หน้าแอพพลิเคชั่นรวม รวมถึงการเข้าสู่โหมดการถ่ายคลิปวีดีโอ และบันทึกเสียง ได้จากที่นี่เช่นกันครับ

Notification center หรือแถบการแจ้งเตือน สามารถเลือกตั้งค่า เมนูลัด ที่ใช้งานบ่อย ได้จากส่วนของ การตั้งค่า นอกจากนี้ ยังสามารถปรับความสว่างของหน้าจอ และเข้าสู่ แอพพลิเคชั่น การตั้งค่า (Settings) ได้จากส่วนนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

การกดปุ่ม Home 2 ครั้ง เป็นการเข้าสู่เมนู Task manager เพื่อสลับใช้งานเป็นแอพพลิเคชั่นอื่น (Multitasking) หรือปิดแอพพลิเคชั่นที่ไม่ใช้งาน เพื่อเป็นการเพิ่มหน่วยความจำ RAM ให้กับตัวเครื่อง

ส่วนการแตะปุ่ม Home ค้างไว้ จะเป็นการใช้งาน Google Now ครับ

มากันที่หน้า แอพพลิเคชั่นรวม บน OPPO N1 กันบ้างครับ ซึ่งประกอบด้วย แอพพลิเคชั่นพื้นฐาน ของ สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ ที่มีให้ใช้กันอย่างครบครัน ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด แอพพลิเคชั่น เพิ่มเติม ได้จาก Play Store ครับ

สำหรับส่วนของ Multi Finger Gesture หรือการใช้ท่าทางและการเคลื่อนไหว ถือว่า เป็นฟีเจอร์เด็ดที่ทาง ออปโป้ ภูมิใจนำเสนอเลยก็ว่าได้ ซึ่งผู้ใช้สามารถ กำหนดท่าทางสำหรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น

• การหมุนกล้อง เพื่อเปิดใช้งานกล้องด้านหน้า
• ใช้ 3 นิ้วเลื่อนลง เพื่อจับภาพหน้าจอ
• ป้องกันการสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ
• เปิดใช้งานกล้องดิจิตอล ด้วยการรวบนิ้วเข้าหากัน
• ใช้ 2 นิ้วสไลด์ขึ้นลง เพื่อปรับระดับเสียง สไลด์ขึ้น คือการเพิ่มระดับเสียง ส่วนการสไลด์ลง คือการลดระดับเสียง
• พลิกโทรศัพท์ เพื่อปิดเสียง
• ยกโทรศัพท์เข้าใกล้ที่หู เพื่อโทรออก หรือรับสายอัตโนม้ติ
• ยกโทรศัพท์เข้าใกล้ที่หู เพื่อเปลี่ยนเป็นโหมดหูฟังอัตโนมัติ
• เมื่อหน้าจอดับอยู่ การแตะที่หน้าจอ 2 ครั้ง จะทำให้หน้าจอสว่างขึ้นทันที

นอกจากนี้ OPPO N1 ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Gesture panel หรือการเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ด้วยท่าทาง เช่น เปิดใช้งานกล้องดิจิตอล ให้วาดเป็นรูปตัว O หรือเปิดใช้งานไฟฉาย ให้วาดเป็นรูปตัว V ซึ่งสามารถทำได้แม้ว่าหน้าจอจะดับอยู่ครับ

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถ กำหนดท่าทาง เพื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ได้ เช่น Facebook ให้แทนด้วยตัว F ซึ่งต่อไป ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งาน Facebook ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการเขียนตัวอักษร F บนหน้าจอครับ

สำหรับ เบราว์เซอร์ บน OPPO N1 นั้น เป็น Google Chrome ครับ ซึ่งรองรับการใช้งานทั้งแนวตั้ง และแนวนอน รองรับการแสดงผลภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถใช้ O-Touch Control ด้านหลังตัวเครื่อง ในการเลื่อนหน้าเว็บไซต์ขึ้นและลง ทำให้สามารถอ่าน และดูเว็บไซต์ได้ด้วยมือเดียว

ในส่วนของโหมดการใช้งานโทรศัพท์ ถือว่า มีอินเทอร์เฟสการใช้งานที่เรียบหรู ในหน้าการรับสายเรียกเข้า จะใช้การเลื่อนไปด้านขวา เพื่อรับสาย หรือเลื่อนไปด้านซ้าย เพื่อปฏิเสธสาย ส่วนหน้าระหว่างการใช้สาย สามารถบันทึกเสียง หรือจดโน้ตสั้นๆ ขณะใช้สายได้

Play Store แหล่งรวมแอพพลิเคชั่นทั่วทุกมุมโลก มีทั้งแบบให้ดาวน์โหลดได้ฟรี และเสียเงิน ซึ่งก่อนเข้าใช้งาน จะต้องล็อกอินก่อนทุกครั้ง

Weather แอพพลิเคชั่นสภาพอากาศ ซึ่งจะแสดงผลตามตำแหน่งที่ผู้ใช้อาศัยอยู่ นอกจากนี้ ยังสามารถพยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้อีกด้วย

แอพพลิเคชั่นพื้นฐาน อย่างเช่น ไฟฉาย กับ เครื่องคิดเลข ก็มีให้ใช้งานบน OPPO N1 เช่นเดียวกัน โดยเครื่องคิดเลขนั้น สามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน ซึ่งการใช้งานในแนวนอน จะมีฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์เพิ่มเข้ามาด้วย

สำหรับวิดเจ็ต เครื่องเล่นเพลง หลายๆ ท่านคงจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วใน มือถือออปโป้ หลายๆ รุ่น ซึ่งรองรับระบบเสียงแบบ Dolby หรือระบบเสียงรอบทิศทางอีกด้วย ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่าเองได้ตามใจชอบ

Gallery หรือคลังภาพ แหล่งเก็บภาพทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น ภาพจากกล้องปกติ, ภาพจาก Photo Space, ภาพ Screenshot และภาพที่ดาวน์โหลดมา

มาทดสอบ Benchmark กันบ้าง โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant วัดความเร็วในการทำงานของ CPU และกราฟฟิค อยู่ที่ 9146 คะแนน และ AnTuTu ทดสอบ CPU, 2D & 3D graphics, SD card และ Database อยู่ที่ 26663 คะแนน ส่วนมัลติทัช รองรับที่ 10 จุดครับ

OPPO N1 : แอพพลิเคชั่นแนะนำจาก ออปโป้

ตัวจัดการไฟล์ เป็นการจัดระเบียบให้กับตัวเครื่อง เนื่องจาก OPPO N1 มีหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 16 GB และไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD card ได้ ฉะนั้น ผู้ใช้จำเป็นต้องบริหารพื้นที่ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน

แอพพลิเคชั่น จัดการแบตเตอรี่ จะเป็นการบอกสถานะของแบตเตอรี่ว่า เหลือกี่เปอร์เซนต์ สามารถใช้งานได้นานกี่ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีโหมด ประหยัดแบตเตอรี่ และโหมดแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ตำกว่า 40%

แอพพลิเคชั่น ข้อมูลการใช้งาน เป็นการกำหนด data การใช้งานอินเทอร์เน็ตในแต่ละเดือน ซึ่งผู้ใช้สามารถกำหนดได้ว่า สามารถใช้งานได้ทั้งหมด กี่ MB / GB ต่อเดือน พร้อมกับการแจ้งเตือน เมื่อมีการใช้งานเฉลี่ยต่อวันมากเกินไป นอกจากนี้ ยังสามารถดูข้อมูลการใช้งาน Wi-Fi ได้อีกด้วย

O-Cloud เป็นแอพพลิเคชั่นสำรองข้อมูล (backup) บนกลุ่มเมฆ (cloud) โดยสามารถสำรองข้อมูลได้ทั้ง รายชื่อผู้ติดต่อ และ SMS ซึ่งถือว่า มีความปลอดภัยสูง

แบ็คอัพ แอพพลิเคชั่นสำหรับแบ็คอัพข้อมูลทั้งหมดบนสมาร์ทโฟน

ตรวจสอบเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการที่ใช้ว่าอัพเดทแล้วหรือไม่ ได้ที่ อัพเดทระบบ

OPPO N1 มาพร้อมแอพพลิเคชั่น สแกนไวรัส ในตัว ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดเพิ่มเติมแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้น กับ การเข้ารหัสเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นได้ โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่า จะเข้ารหัสกับแอพพลิเคชั่นใดบ้าง ซึ่งการปลดล็อค มีทั้งแบบใส่รหัสผ่าน และการใช้รูปแบบเพื่อปลดล็อค

Guest mode สามารถตั้งค่าได้ว่า ถ้าหากใช้งานแบบ Guest mode จะสามารถเข้าถึง แอพพลิเคชั่นใดได้บ้าง

โหมดวันหยุด เมื่อเปิดใช้งาน ผู้ติดต่อที่ไม่ได้ถูกตั้งค่าให้ยกเว้นโหมดดังกล่าว ทั้งสายเรียกเข้า และการแจ้งเตือนต่างๆ จะไม่ส่งเสียง และถ้าหากผู้ติดต่อทั่วไป โทรเข้ามา 3 ครั้ง ภายใน 3 นาที ครั้งที่ 3 จะมีเสียงเรียกเข้าแจ้งให้ทราบ

O-Click แอพพลิเคชั่นเชื่อมต่อกับ อุปกรณ์เสริมอย่าง O-Click Control ซึ่งจำเป็นต้องเปิดใช้งาน Bluetooth เสียก่อน

OPPO N1 : ทดสอบกล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมจุดเด่นกับ กล้องหมุนได้

อย่างที่ทุกๆ ท่านได้ทราบกันไปแล้วว่า OPPO N1 มาพร้อมกับ กล้อง 206 องศา ที่สามารถหมุนแล้วหยุดได้ทุกองศา สะดวกกับการถ่ายรูปได้ทุกมุมมอง หรือจะแอบถ่าย คนที่แอบชอบ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลย ก็ยังทำได้อย่างสบายๆ ครับ นอกจากนี้ OPPO N1 ยังมาพร้อมกับ ฟีเจอร์กล้อง ที่น่าสนใจมากมายอีกด้วย

ขึ้นชื่อว่า เป็น มือถือออปโป้ ทั้งที ฟังก์ชันการถ่ายภาพที่ขาดไม่ได้ ก็คือ Beauty Plus หรือโหมดถ่ายหน้าสวยนั่นเอง นอกจากนี้ ยังรองรับการถ่ายภาพแบบ พาโนรามา และ HDR อีกด้วย

ส่วนอีกหนึ่งฟังก์ชัน ที่ทาง ออปโป้ ภูมิใจเสนอบน OPPO N1 ก็คือ Slow Shutter ที่สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้นานสูงสุด 8 วินาที เหมาะสำหรับการถ่ายภาพแสงไฟครับ ซึ่งทางทีมงาน techmoblog ได้ลองทดสอบการถ่ายภาพแบบ Slow Shutter ได้ผลดังนี้

จะเห็นได้ว่า เราสามารถนำไฟฉาย หรือแสงแฟลชจากมือถือ มาเขียนเป็นรูปร่างต่างๆ ตามต้องการ ด้วยฟังก์ชันการถ่ายภาพแบบ Slow Shutter บน OPPO N1 ครับ

นอกจากนี้ OPPO N1 ยังมีโหมดการถ่ายภาพอีกมากมาย เช่น โหมดถ่ายภาพกลางคืน, Smart scene, โหมดถ่ายภาพเคลื่อนไหว, อัตโนมัติ, แนวนอน, เปิด-ปิดไฟแฟลชได้ และสามารถเปิดใช้งาน O-Touch shutter กดชัตเตอร์จาก O-Touch Control ที่ด้านหลังตัวเครื่อง ได้จากส่วนนี้เช่นกัน

มาชมตัวอย่างภาพถ่าย บนกล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล บน OPPO N1 กันครับ (คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดเต็ม แบบไม่ผ่านการตกแต่งใดๆ)

OPPO N1 : สรุปการใช้งาน

สำหรับ OPPO N1 นั้น นอกจากจะโดดเด่นตรงที่ กล้องดิจิตอลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งสามารถหมุนได้ 206 องศา สลับการใช้งานจากกล้องด้านหลัง มาเป็นกล้องด้านหน้าได้แล้ว ในแง่ของการใช้งานโดยรวม OPPO N1 ยังมีจุดเด่นอีกมากมายเช่นกันครับ ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมการทำงานแบบ O-Touch Panel หรือการใช้นิ้วสัมผัสที่ด้านหลังของตัวเครื่อง เพื่อควบคุมการทำงานต่างๆ 5 ทิศทาง ยกตัวอย่างเช่น การถ่ายภาพโดยใช้กล้องด้านหน้า สามารถใช้นิ้วแตะที่ O-Touch Panel เพื่อกดชัตเตอร์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมชุดขาย อย่าง O-Click Control ที่มีขนาดเล็ก พกพาได้สะดวก และทำเป็นเครื่องประดับเก๋ๆ อย่างเช่น พวกกุญแจ ซึ่งคุณสมบัติของ O-Click Control นั้น มีมากมายหลายประการครับ นั่นก็คือ สามารถใช้เป็นชัตเตอร์กล้องแบบไร้สาย ไม่จำเป็นต้องตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพอีกต่อไป หรือเป็นอุปกรณ์แจ้งเตือน เมื่อลืมมือถือทิ้งไว้ เรียกได้ว่า เห็นขนาดจิ๋วๆ แบบนี้ แต่มีคุณสมบัติเกินตัวเลยก็ว่าได้

สำหรับ ราคาเปิดตัว OPPO N1 อยู่ที่ 19,990 บาท หลายๆ ท่านอาจจะมองว่า เป็นราคาที่สูงเกินไป แต่เมื่อเทียบราคา กับคุณสมบัติโดยรวม และนวัตกรรม ที่ผู้ใช้จะได้สัมผัสแล้ว ถือว่า คุ้มค่าเกินราคาครับ

จุดเด่นของ OPPO N1

• จอแสดงผลกว้าง 5.9 นิ้ว แบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (377 ppi) พร้อมกระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3
• หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Krait 300 Processor (Qualcomm Snapdragon 600 chipset) ความเร็ว 1.7 GHz
• หน่วยประมวลผลภาพ Adreno 320 GPU
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
• หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB
• รันระบบปฏิบัติการ Color OS ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม Dual-LED flash ซึ่งสามารถหมุนสลับจากด้านหลัง มาใช้เป็นกล้องด้านหน้าได้ โดยโมดูลกล้อง สามารถหมุนได้ 206 องศา
• เปิดใช้งานกล้องได้อย่างรวดเร็ว ภายในเวลา 0.6 วินาที
• มีความทนทานในการหมุนได้สูงสุด 100,000 ครั้ง ถ้าหากหมุนวันละ 40 ครั้ง จะมีความทนทานนาน 7 ปี
• สามารถปรับค่าความเร็วของชัตเตอร์ ได้ช้าสูงสุดถึง 8 วินาที
• รองรับการคลิปวีดีโอ ความละเอียดสูงสุดที่ขนาด Full HD พร้อมโหมดการถ่ายวีดีโอแบบ Slow Motion และ HDR
• โดดเด่นด้วยการควบคุมการทำงานแบบ O-Touch Panel ด้วยการสัมผัสที่ด้านหลังตัวเครื่อง
• รองรับการใช้งานร่วมกับ O-Click Control อุปกรณ์เสริมแบบไร้สาย
• รองรับการใช้งานผ่านระบบ 3G ทุกเครือข่าย
• ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
• แบตเตอรี่ Li-Ion 3610 mAh รองรับการทำงานได้ตลอดทั้งวัน

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

• ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกด้วย microSD card ได้
• ไม่มีวิทยุ FM ในตัว
• ตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างใหญ่ อาจไม่สะดวกต่อการพกพาเท่าที่ควร
• ไม่รองรับการใช้งานกับเครือข่าย 4G LTE

ข้อควรทราบ: “เครื่อง OPPO N1 ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง ออปโป้ เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”

 

 

---------------------------------------
บทความรีวิวโดย: techmoblog.com

Update : 27/03/2015

OPPO N1 รีวิว OPPO N1