วางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการไปแล้ว สำหรับสมาร์ทโฟนซีรี่ส์ R อย่าง OPPO R7 Plus สมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์คนชอบ มือถือจอใหญ่ เนื่องจากมาพร้อมกับ หน้าจอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) เลยทีเดียว อีกทั้ง ดีไซน์ตัวเครื่องยังดูแข็งแรง และพรีเมียม โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตแบบ All-Metal Unibody ซึ่งใช้วัสดุเกรดเดียวกับที่ใช้ผลิตเครื่องบินนั่นเอง อีกทั้ง คุณสมบัติที่ให้มา ยังคุ้มค่าเกินราคาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Qualcomm Snapdragon Processor, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดการถ่ายภาพ Beautify เวอร์ชัน 3.0 ที่เหมาะกับผู้ที่รักการเซลฟี่เป็นอย่างมาก, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบการโฟกัสภาพแบบ Laser Autofocus ที่ทำให้การโฟกัสภาพมีความรวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง อีกด้วย
สำหรับระบบปฏิบัติการนั้น OPPO R7 Plus มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ColorOS เวอร์ชัน 2.1 ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 (Lollipop) อีกทั้ง ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจถึง 4100 mAh และเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่แบบ VOOC Flash Charge ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
โดย OPPO R7 Plus จะมีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน มาพิสูจน์ไปพร้อมกันกับ รีวิว OPPO R7 Plus โดยทีมงาน techmoblog ครับ
>> สเปค OPPO R7 Plus อย่างละเอียด คลิกที่นี่
OPPO R7 Plus มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว แบบ AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งกระจกหน้าจอเป็นแบบ Gorilla Glass 3 ที่ช่วยเสริมความแข็งแรง และป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ส่วนขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 158 x 82 x 7.75 มิลลิเมตร และหนัก 203 กรัม ซึ่งถือว่า หนักพอสมควร
ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.4, Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และลำโพงสำหรับสนทนา
ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส ซึ่งได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ
ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอแสดงผล และถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นปุ่มปรับระดับเสียง
โดย OPPO R7 Plus รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ซึ่งช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง จะต้องเลือกใช้งานระหว่าง การใส่ซิมการ์ด กับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้
ด้านบนตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา และพอร์ตแบบ microUSB
ด้านหลังตัวเครื่อง ประกอบด้วย กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชคู่แบบ Dual-LED และระบบการโฟกัสภาพแบบ Laser AutoFocus ที่สามารถตรวจจับวัตถุได้อย่างแม่นยำ และถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่องอีกด้วย ส่วนฝาหลัง ไม่สามารถแกะเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ภายในประกอบด้วย แบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh ซึ่งรองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
OPPO R7 Plus มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ColorOS 2.1 ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บน Android 5.1.1 (Lollipop)
การกดปุ่ม Power ค้างไว้ จะปรากฎเมนูลัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปิดเครื่อง, รีสตาร์ท, เปิด-ปิดเสียง, เปิด-ปิดสั่น และโหมดเครื่องบิน ซึ่งการกดปุ่ม Power ค้างไว้นานกว่า 10 วินาที จะเป็นการรีสตาร์ทระบบ
มากันที่หน้า Homescreen กันบ้าง โดยจะเป็นหน้ารวมแอปพลิเคชันทั้งหมดที่มีในตัวเครื่อง ไม่มีหน้า App Drawer ครับ
การแตะปุ่มเมนู 1 ครั้ง ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ตามใจ ไม่ว่าจะเป็น จัดเรียงแอปพลิเคชัน, เพิ่ม Widget, เปลี่ยนวอลเปเปอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย
Notification Center หรือแถบการแจ้งเตือน สามารถเลือกตั้งค่า เมนูลัด ที่ใช้งานบ่อย ได้จากส่วนของ การตั้งค่า นอกจากนี้ ยังสามารถปรับความสว่างของหน้าจอ, เปิด-ปิดการเล่นเพลง และเข้าสู่ แอปพลิเคชัน การตั้งค่า (Settings) ได้จากส่วนนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
การแตะปุ่มเมนูค้างไว้ จะเข้าสู่โหมด Multitasking สามารถสลับไปใช้งานแอปพลิเคชันอื่น หรือปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งาน เพื่อเพิ่ม RAM ให้กับตัวเครื่อง
สำหรับเบราว์เซอร์บน OPPO R7 Plus จะมีให้เลือกใช้งาน 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ Android Browser กับ Google Chrome ซึ่งหน้าจอใหญ่แบบนี้ ทำให้สามารถอ่านได้อย่างชัดเจนมากเลยทีเดียว
OPPO R7 Plus มาพร้อมกับบริการต่างๆ จาก Google มากมายเลยทีเดียว ทั้ง Gmail, Google Maps, YouTube และอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันพื้นฐานให้ใช้งานมากมาย ถึงไฟฉาย, เครื่องบันทึกเสียง, เครื่องคิดเลข รวมไปถึง Kingsoft Office สำหรับงานด้านเอกสารอีกด้วย
โดย Kingsoft Office นั้น สามารถเปิดดูเอกสารได้หลายประเภท ทั้ง Word, PDF, Excel, PowerPoint, Text และอื่นๆ ส่วนการสร้างเอกสารใหม่ สามารถสร้างได้ 3 ประเภทเท่านั้น นั่นก็คือ Word, Excel และ PowerPoint
สำหรับเครื่องคิดเลข สามารถใช้งานได้ 2 มุมมองด้วยกัน การตั้งเครื่องแนวตั้ง จะเป็นการใช้งานแบบปกติ แต่เมื่อใช้งานแนวนอน จะมีฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์เพิ่มเข้ามา
อีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นบน OPPO R7 Plus นั่นก็คือ ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง โดยสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือด้วยกัน
นอกจากนี้ OPPO R7 Plus ยังสามารถสั่งการต่างๆ ด้วยท่าทางและการเคลื่อนไหวได้ เช่น ดับเบิลคลิกเพื่อทำให้หน้าจอสว่างขึ้น, วาดตัวโอเพื่อเปิดการใช้งานกล้อง เป็นต้น
มากันที่แอปพลิเคชันที่น่าสนใจจาก ออปโป้ กันบ้าง เริ่มที่ แบ็คอัพ แอปพลิเคชันสำหรับแบ็คอัพข้อมูลทั้งหมดบนสมาร์ทโฟน
O-Cloud แอปพลิเคชันสำรองข้อมูลผ่านทางระบบ Cloud ซึ่งสามารถสำรองได้ทั้ง รายชื่อผู้ติดต่อ และ SMS
ตัวจัดการไฟล์ ควบคุมการใช้งานพื้นที่ภายในตัวเครื่อง
สำหรับแหล่งการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน นอกเหนือจาก Play Store แล้ว ยังมี ร้านค้าแอป ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ทาง ออปโป้ จัดสรรมาให้ผู้ใช้
ทดสอบการเล่นเกมเสียหน่อย โดย OPPO R7 Plus มาพร้อมกับ หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 Processor และหน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB ซึ่งประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีสะดุด อีกทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว มองได้แบบเต็มจอ และคมชัด ทำให้การเล่นเกมสนุกมากขึ้นกว่าเดิม
มาทดสอบ Benchmark บน OPPO R7 Plus กันบ้าง โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant วัดความเร็วในการทำงานของ CPU และกราฟิก อยู่ที่ 21077 คะแนน และ AnTuTu ทดสอบ CPU, 2D & 3D graphics, SD card และ Database อยู่ที่ 32394 คะแนน
ส่วนมัลติทัช รองรับ 4 จุดครับ
สำหรับ มือถือออปโป้ นั้น ขึ้นชื่อเรื่องกล้องถ่ายรูปอยู่แล้ว ซึ่งรุ่นนี้ ถือว่า เป็นมือถือเซลฟี่อีกรุ่น เนื่องจากมาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว โดยกล้องด้านหน้าของ OPPO R7 Plus มาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพ Beautify 3.0 ซึ่งสามารถปรับความเนียนได้ 3 ระดับ นอกจากนี้ ยังสามารถใส่ฟิลเตอร์ให้กับภาพถ่ายได้อีกด้วย
นอกจากโหมดถ่ายภาพ Beautify 3.0 แล้ว ยังมีโหมด Ultra HD, GIF และรูปถ่ายแบบมีเสียงให้เลือกเช่นกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า
ส่วนกล้องด้านหลังบน OPPO R7 Plus มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED และรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.2 พร้อมระบบการโฟกัสภาพแบบ Laser AutoFocus ที่สามารถตรวจจับวัตถุได้อย่างแม่นยำ และถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
สำหรับโหมดการถ่ายภาพ มีให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปกติ, Ultra HD, ถ่ายรูปแต่งสวย, ตัวกรองสี, พาโนรามา, HDR นอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดโหมดการถ่ายภาพอื่นๆ ได้อีกด้วย
ลองชมตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลกันครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ OPPO R7 Plus สมาร์ทโฟนดีไซน์หรู ด้วยวัสดุระดับพรีเมียม ที่โดดเด่นกันตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกเลยทีเดียว ซึ่งตัวเครื่องผลิตด้วยวัสดุ โลหะแมงกานีส ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ใช้ผลิตชิ้นส่วนปีกเครื่องบิน อีกทั้งยังผ่านกระบวนการในการผลิตที่พิถีพิถันกว่า 48 ขั้นตอน เรียกได้ว่า นอกจากตัวเครื่องจะแข็งแรงและทนทานแล้ว ยังดูสวยงามแบบไร้ที่ติอีกด้วย
โดย OPPO R7 Plus มาพร้อมกับหน้าจอขนาดกว้าง 6 นิ้ว แบบ AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล, หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core 64-bit Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 Processor, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB, กล้องด้านหน้าแบบ Selfie ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Beautify เวอร์ชัน 3.0, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED และระบบการโฟกัสภาพแบบ Laser AutoFocus นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่ด้านหลังตัวเครื่อง เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น จดจำลายนิ้วมือได้มากถึง 5 แบบ, VOOC Flash Charge ชาร์จไวกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปถึง 4 เท่า ซึ่งการชาร์จเพียง 5 นาที สามารถรองรับสายสนทนาได้นานถึง 2 ชั่วโมง, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียว และรองรับเครือข่าย 4G LTE ทุกคลื่นความถี่ในไทยอีกด้วย
สำหรับราคาของ OPPO R7 Plus นั้น อยู่ที่ 16,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน และสีทอง สามารถไปทดสอบและสัมผัสตัวเครื่องกันได้ ที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านครับ
จุดเด่นของ OPPO R7 Plus
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ข้อควรทราบ: “เครื่อง OPPO R7 Plus ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง ออปโป้ เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”
---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 06/10/2015
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |