Zephyrus Duo 16 ที่ได้รับการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด, Zephyrus G14 รุ่นล่าสุด, Strix series, และ Flow Z13 เกมมิ่งแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานแสดงเทคโนโลยีของปีนี้
ลาสเวกัส, สหรัฐอเมริกา, 4 มกราคม 2022 — รีพับลิคออฟเกมเมอส์ (ROG) ประกาศเปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์สำหรับการเล่นเกมใหม่ล่าสุดที่งาน CES 2022 ภายใต้ชื่องาน ROG: The Rise of Gamers ด้วยความภาคภูมิใจในการเป็นผู้นำในเทคโนโลยี และเป็นอีกครั้งที่ได้ทำการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่น่าตื่นเต้นสำหรับยุคที่การเล่นเกมไม่ใช่งานอดิเรกธรรมดาๆอีกต่อไป แต่เป็นจิตวิญญาณแห่งเทคโนโลยีในปัจจุบัน ROG พร้อมที่จะลุยสู่ตลาดในปี 2022 ด้วยระบบปฏิบัติการใหม่, CPUs ใหม่ล่าสุดจาก Intel® และ AMD, GPUs จาก AMD และ NVIDIA® และผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มีรูปแบบการใช้งานใหม่ทั้งหมด
Flow Z13 เกมมิ่งแท็บเล็ตใหม่ล่าสุดนำมาซึ่งอีกขั้นของการพกพาและการใช้งานที่หลากหลายของเกมมิ่งพีซี และฟอร์มแฟคเตอร์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ของ Zephyrus Duo 16, Zephyrus G14, และ Strix ซึ่งเป็นสินค้าที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกอยู่แล้วนั้นมีความยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ROG ยังได้มีการประกาศเปิดตัวอุปกรณ์เสริมใหม่ในซีรีส์ Archer ซึ่งเป็นกระเป๋าสำหรับชุดเกมมิ่งเกียร์ และแอปพลิเคชันสำหรับประสบการณ์รูปแบบดิจิตอล ROG Citadel XV ที่ซึ่งเหล่าเกมเมอส์จะสามารถสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดนี้ได้ในที่เดียว
กราฟิกการ์ดสำหรับโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ GeForce RTX 3080 Ti เป็นการนำกราฟิกการ์ดระดับเรือธง 80 Ti ลงมาติดตั้งในโน้ตบุ๊กเป็นครั้งแรก โดดเด่นด้วยหน่วยความจำแบบ GDDR6 ขนาด 16 GB ที่มีความเร็วสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนโน้ตบุ๊ก โดย RTX 3080 Ti นั้นมีประสิทธิภาพที่สูงยิ่งกว่า TITAN RTX ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดสำหรับเครื่องเดสก์ท็อป และ GeForce RTX 3070 Ti นั้นมีความเร็วสูงกว่า RTX 2070 SUPER บนโน้ตบุ๊กสูงสุดถึง 70% โดยสามารถให้เฟรมเรทได้ที่ 100 เฟรมต่อวินาทีบนความละเอียดระดับ 1440p
นอกจากนั้นแล้วยังมี Max-Q Technologies เจนเนอเรชั่นที่ 4 พร้อมด้วย CPU Optimizer, Rapid Core Scaling, และ Battery Boost 2.0 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ, ความแรง, และอายุการใช้งานแบตเตอรี่
ROG Strix SCAR รุ่นใหม่ล่าสุดถูกออกแบบโดยคำนึงคำนึงถึงผู้ที่ชื่นชอบกีฬา esports เป็นหลักสำคัญ ด้วยขุมกำลังของฮาร์ดแวร์ระดับสูงสุด, Windows 11 Pro, หน้าจอที่มีรีเฟรชเรทสูง, และ ROG Intelligent Cooling™ ที่ทำงานร่วมกับ Liquid Metal Conductonaut Extreme แรงสุดด้วยโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel Core™ i9-12900H และกราฟิกการ์ดสำหรับโน้ตบุ๊ก NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti ที่ใช้พลังงานสูงสุด 150 W บน Dynamic Boost Strix SCAR ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมที่มีเฟรมเรทสูง MUX Switch ทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพของกราฟิกการ์ดระดับท็อป สตอเรจแบบ PCIe® 4.0 x4 ที่ให้ความเร็วในการดึงใช้ข้อมูลทำได้รวดเร็วดั่งแสง และแรม DDR5 4800 MHz ยังมีพื้นที่และความเร็วมากพอสำหรับการทำงานที่หลากหลาย
Strix SCAR มีขนาดหน้าจอให้เลือกทั้งแบบ 15 นิ้วและ 17นิ้ว ในขนาดหน้าจอ 15 นิ้วนั้นใช้หน้าจอแบบ IPS-level ที่มาพร้อมสามทางเลือก: QHD 240 Hz, Full HD 300 Hz, และ QHD 165 Hz ขณะที่ SCAR รุ่นหน้าจอขนาด 17 นิ้วจะมีหน้าจอแบบ QHD 240 Hz หรือ Full HD 360 Hz Strix SCAR ทุกรุ่นยังรองรับ Dolby Vision® HDR เพื่อการรับชมที่เต็มอรรถรส พร้อมด้วย Adaptive-Sync เพื่อให้ได้การแสดงผลที่มีคุณภาพที่น่าทึ่งปราศจากการฉีกขาดและสะดุดของภาพ และอัตราการตอบสนองในการแสดงผลที่เร็วถึง 3 ms มั่นใจได้ว่าทุกการเคลื่อนไหวจะมีความคมชัดทำให้นักเล่นเกมไม่พลาดแม้รายละเอียดในการต่อสู้อันดุเดือด
ทัชแพดที่มีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้นให้ความมั่นใจว่าทุกการควบคุมจะมีความแม่นยำแม้ไม่ได้ต่อเม้าส์แยก ลวดลายแบบดอทแมททริกซ์ให้ความรู้สึกสปอร์ต, คีย์บอร์ดมีไฟส่องสว่างแบบ per-key RGB รองรับ Aura Sync ทั้งบนคีย์บอร์ดและบริเวณแถบไฟรอบตัวเครื่อง, มุมขอบตัวเครื่อง armor caps ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้เพื่อสะท้อนความเป็นตัวเองของเหล่าเกมเมอส์
ROG Strix G15 และ G17 รุ่นใหม่ใช้ขุมพลังโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ 9 6900HX และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti ที่กำลังสูงสุด 150 W บน Dynamic Boost ให้พลังประมวลผลเทียบเคียงได้กับรุ่นพี่ G15 มีทางเลือกหน้าจอแบบ Full HD 300 Hz และ QHD 165 Hz ขณะที่ G17 จะใช้หน้าจอแบบ Full HD 360 Hz และ QHD 240 Hz สำหรับการเล่นเกมที่เข้มข้น Strix G ทุกรุ่นใช้หน้าจอที่รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision มีอัตราตอบสนองในการแสดงผลที่ 3 ms และ Adaptive-Sync Strix G มาในตัวเครื่องสีเทา Eclipse Gray และสีตัวเครื่องแบบนีออนให้เลือกอีกสองสี Volt Green และ Electro Punk ให้ความโดดเด่นไม่เหมือนใคร
Strix ทุกรุ่นติดตั้งลำโพงให้ถึงสี่ตัวทำงานร่วมกับระบบจำลองเสียง Dolby Atmos® ซึ่งช่วยให้ได้เวทีเสียงที่สมจริงด้วยความโอบล้อม, เคลียร์ใส, และมีชีวิตชีวาในการต่อสู้อันดุเดือด ระบบตัดเสียงอัจฉริยะ Two-way AI Noise Cancelation ช่วยกรองเสียงรบกวนเบื้องหลังออกสำหรับการสื่อสารทั้งขาไปและขากลับ ให้ทุกเสียงสนทนามีความดังและคมชัด
นอกจากนั้นแล้ว Strix ทุกรุ่นยังมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง 90 Wh รวมไปถึงการชาร์จแบบ 100W USB Type-C® สำหรับการใช้งานนอกสถานที่ WiFi 6E และ 2.5G LAN ให้การเชื่อมต่อเน็ตเวิร์คที่ล้ำสมัยเพื่อลดอาการสะดุดให้น้อยที่สุดสำหรับทั้งการเชื่อมต่อแบบมีสายและไร้สายที่รองรับ
ROG Zephyrus G14 ที่ได้รับการชื่นชมอย่างล้นหลามว่าเป็นเครื่องเล่นเกมประสิทธิภาพสูงที่มีสไตล์, ตัวเครื่องพกพาสะดวก มาพร้อมเทคโนโลยีที่ดียิ่งขึ้นสำหรับปี 2022 G14 รุ่นใหม่ติดตั้ง Windows 11 มาพร้อมใช้งาน โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 9 และกราฟิกการ์ดสำหรับโน้ตบุ๊ก AMD Radeon RX 6000S Series นอกจากนั้นยังโดดเด่นด้วย MUX Switch เพื่อมอบประสิทธิภาพที่โดดเด่นและเฟรมเรทที่ดีที่สุด ระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling พร้อมโลหะเหลวและvapor chamber ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษให้ความมั่นใจถึงประสิทธิภาพที่เสถียรยอดเยี่ยมยาวนานจากสเปคระดับไฮเอนด์ ขณะที่แรม DDR5 และ PCIe SSD ขนาด 1 TB ช่วยให้การทำงานที่หลากหลายมีการตอบสนองที่ฉับไว
ออกแบบมาเพื่อให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ในขนาดตัวเครื่องที่พกพาได้ง่ายเป็นพิเศษ ดีไซน์สุดเฉียบของ G14 มาในสี Eclipse Gray หรือ Moonlight White โดดเด่นด้วยป้ายชื่อรุ่นแบบ Prismatic Logo พร้อมโฮโลแกรมให้เงาสะท้อนดึงดูดสายตา ฝาเครื่อง ปกคลุมไปด้วยช่องที่เจาะอย่างปราณีตด้วยกระบวนการ CNC มากถึง 14,969 ช่องและหลอดไฟ mini LEDs 1,449 ดวง ในรุ่นที่โดดเด่นด้วยหน้าจอ AniMe Matrix™ — จำนวนหลอด LEDs ที่มีมากกว่ารุ่นของปีก่อนหน้าทำให้สามารถสร้างสรรค์แอนิเมชันใหม่ๆได้มากขึ้นเพื่อความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเครื่อง
G14 นับเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นแรกๆของ ROG ที่มาพร้อมกับหน้าจอใหม่ล่าสุด Nebula ซึ่งสามารถแสดงผลได้ที่ระดับ 120 Hz ที่ความละเอียด QHD ให้ความสว่างสูงสุด 500 nits แสดงสีสันได้กว้างสูงสุด 100% DCI-P3 และมีความไวในการแสดงผลที่ 3 ms — พร้อมด้วย Dolby Vision, Adaptive-Sync, และการรับรองจาก Pantone® เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่น่าตื่นตะลึง สีที่เที่ยงตรง และลดการฉีกขาดหรือการสะดุดของภาพให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด หน้าจอยังได้รับการขยายให้ได้อัตราส่วนการแสดงผลแบบ 16:10 ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้งานบนหน้าจอได้โดยไม่สูญเสียคุณลักษณะในการพกพาเนื่องจากขอบจอที่บางเฉียบ ให้สัดส่วนขนาดหน้าจอต่อขนาดตัวเครื่องสูงถึง 91%
Dolby Atmos, ไมโครโฟนแบบ 3D array ทำงานร่วมกับระบบตัดเสียงรบกวนแบบสองฝั่ง two-way AI Noise Cancelation, และ WiFi 6E ความเร็วสูง ทั้งหมดรวมอยู่บนโน้ตบุ๊กขนาดพกพาเครื่องนี้ ROG Zephyrus G15 และ M16 ก็ได้รับการปรับปรุงให้มีความสดใหม่ขึ้นด้วยเช่นกัน ด้วยฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าสุดจาก AMD และ NVIDIA, แรมแบบ DDR5, และ WiFi 6E
ROG Zephyrus Duo 16
ROG Zephyrus Duo 16 รุ่นปี 2022 ได้ก้าวขึ้นไปสู่อีกขั้นของนวัตกรรมบนโน้ตบุ๊กสองหน้าจอ ROG’s ScreenPad Plus™ เพิ่มหน้าจอที่สองสำหรับเนื้อที่พิเศษในการทำงาน, การสตรีมเกม, หรือแม้แต่ใช้เพื่อควบคุมเกมที่รองรับ เช่น Dying Light 2 บานพับใหม่แบบสี่ทิศทางช่วยให้หน้าจอ ScreenPad Plus ยกตัวขึ้นและเลื่อนไปด้านหลังเพื่อประสานกับหน้าจอหลักเมื่อเปิดเครื่องโน้ตบุ๊กขึ้น ลดช่องว่างระหว่างระหว่างสองหน้าจอที่มีอยู่ในรุ่นก่อนหน้า ให้ประสบการณ์เสมือนหน้าจอไร้ขอบสำหรับการดื่มด่ำอย่างแท้จริง
โน้ตบุ๊กที่มาพร้อม Windows 11 เครื่องนี้ใช้ขุมกำลังโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 9 6980HX และกราฟิกการ์ดสำหรับโน้ตบุ๊ก NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti ที่กำลังไฟ 165 W บน Dynamic Boost เพื่อความแรงระดับไฮเอนด์ เสริมความพิเศษด้วย Liquid Metal Conductonaut Extreme ที่ช่วยลดอุณหภูมิ CPU ได้ดีกว่าถึง 15° C เมื่อเทียบกับสารนำความร้อนทั่วไป AAS Plus 2.0 ทำให้มีช่องลมเข้าจากการยกตัวของหน้าจอที่สอง ทำให้ได้อากาศไหลเวียนมากขึ้นถึง 30% ทำให้ชิ้นส่วนระดับท็อปต่างๆในเครื่องยังคงความเย็นไว้ได้ และได้ประสิทธิภาพที่เสถียรยาวนานในการเล่นเกมและการใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลงาน MUX Switch ทำให้เกมเมอส์มั่นใจว่าจะได้เฟรมเรทที่สูงที่สุดในทุกสภาวะการแข่งขัน
Zephyrus Duo มีทางเลือกหน้าจอหลักที่จะสั่นสะเทือนวงการสองแบบ โดยทั้งสองแบบรองรับ Dolby Vision ทางเลือกแรก ใหม่ล่าสุดสำหรับปี 2022 คือ ROG Nebula HDR ซึ่งมีคุณสมบัติพื้นฐานทั้งหมดเหมือนกับ ROG Nebula Display แต่ยังมาพร้อม 512 mini LED dimming zones สามารถให้ความสว่างสูงสุดได้ถึง 1100 nits เพื่อคอนทราสต์และสีสันที่คุณต้องตะลึง หน้าจอความละเอียด QHD อัตราส่วน 16:10 ตัวนี้ให้รีเฟรชเรทสูงถึง 165 Hz และยังได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR™ 1000 พร้อมด้วยอัตราส่วนคอนทราสต์สูงถึง 100,000:1 หน้าจอ Nebula HDR คือนิยามสำหรับประสบการณ์ขั้นสูงสุดในการเล่นเกมแบบ HDR และการรับชมภาพยนตร์
ทางเลือกที่สองเป็นการร่วมมือพัฒนากับทาง BOE ซึ่งเป็นหน้าจอเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับ ROG ตัวใหม่ล่าสุดในชื่อหน้าจอ Dual Spec ซึ่งสามารถสลับโหมดการใช้งานระหว่าง 4K 120 Hz และ Full HD 240 Hz ได้ ทำให้เกมเมอส์สามารถเลือกให้ความสำคัญระหว่างความละเอียดหรือเฟรมเรทในการใช้งานแต่ละเกมหรือแต่ละโปรแกรม เทคโนโลยี Pixel Acceleration ทำให้ได้การขยายขนาดเม็ดพิเซลที่รวดเร็วสำหรับโหมดความละเอียด Full HD ให้ภาพที่คมชัดพร้อมๆกับเฟรมเรทที่สูงกว่าสำหรับการแข่งขัน
อุปกรณ์อันน่าทึ่งนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี ROG’s NumberPad บนทัชแพด, คีย์บอร์ดที่มีระยะกดลึก 1.7 มม. และไฟส่องสว่างแบบ per-key RGB, ลำโพงหกตัวพร้อม Dual Force-Cancelling Woofers, Dolby Atmos, ระบบเสียง Hi-Res, และระบบตัดเสียงอัจฉริยะ two-way AI Noise Cancelation ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในโน้ตบุ๊กเรือธงแห่งปี 2022 จาก ROG แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีมากมายและมีหน้าจอถึงสองจอ Zephyrus Duo 16 รุ่นปี 2022 ยังมีขนาดตัวเครื่องที่เล็กลงกว่ารุ่นก่อน ให้หน้าจอขนาด16 นิ้วในตัวเครื่องเทียบเท่าโน้ตบุ๊กขนาดหน้าจอ 15 นิ้วทั่วไป
ROG Flow Z13 ได้ลดขนาดของซีรีส์ Flow ที่เล็กอยู่แล้วให้เล็กลงไปได้อีก ให้ได้มาซึ่งแท็บเล็ตสำหรับการเล่นเกมที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในโลก ด้วย Windows 11, Intel Core i9-12900H ที่มีคอร์ประมวลผลสูงสุดถึง 14 คอร์, กราฟิกการ์ดสำหรับโน้ตบุ๊ก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti, และแรมแบบ LPDDR5 ที่ความเร็วบัสสูงถึง 5200 MHz, แท็บเล็ตเครื่องนี้อัดแน่นไปด้วยพลังสำหรับการเล่นเกมอย่างล้นเหลือในตัวเครื่องที่บางและเบาเป็นพิเศษ เสริมความโดดเด่นด้วย PCIe SSD ขนาด 1TB, MUX Switch, ระบบระบายความร้อนแบบ vapor chamber ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ, และการชาร์จด่วนผ่านทาง USB Type-C.
Flow Z13 โดดเด่นด้วยทางเลือกหน้าจอสองแบบ: 4K 60 Hz ที่ให้สีสันครอบคลุม 85% DCI-P3 หรือ Full HD 120 Hz แบบ 100% sRGB หน้าจอทั้งสองแบบให้อัตราส่วนการแสดงผลแบบ 16:10 รองรับการสัมผัสและใช้กระจกกันรอยขีดข่วน Corning® Gorilla® glass, Adaptive Sync, ให้ความสว่างสูงสุด 500 nits, และรับรองความแม่นยำในการแสดงสีโดย Pantone Flow Z13 ทั้งสองรุ่นมาพร้อมการแสดงผลแบบ Dolby Vision เพื่อคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม
Z13 สามารถใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่การต่อกับเม้าส์แบบธรรมดา (ควบคู่กับ screen cover keyboard ที่มีให้มาด้วย) ไปจนถึงการสัมผัสหน้าจอหรือการใช้จอยเกม และเนื่องจากฟอร์มแฟกเตอร์แบบแท็บเล็ตนั้นทำให้ชิ้นส่วนองค์ประกอบต่างๆนั้นอยู่ด้านหลังหน้าจอแทนที่จะอยู่ใต้แผงคีย์บอร์ดทำให้ระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling สามารถดึงลมเย็นเข้าสู่ภายในได้เต็มที่เพื่อให้ตัวเครื่องสามารถคงประสิทธิภาพระดับสูงสุดได้ยาวนาน
Flow Z13 นำเสนอดีไซน์ล้ำสมัยแบบย้อนยุคซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Space Race ในศตวรรษที่ 20 แต่แฝงด้วยวิสัยทัศน์ของ ROG ที่มีต่อการเล่นเกมในอนาคต: ขั้นสุดแห่งการพกพา ช่องหน้าต่างด้านหลังเครื่องที่ถูกเจาะอย่างปราณีตด้วยกระบวนการ CNC ทำให้สามารถมองเห็นเมนบอร์ดของตัวเครื่อง ขณะที่แชสซีถูกปกคลุมด้วยเครื่องจักที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยานอวกาศ ขาตั้งที่ถูกติดตั้งมากับตัวเครื่องสามารถกางได้มากที่สุดถึง 170° เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมในทุกสถานการณ์
ROG ยังได้ทำการอัพเกรด Flow X13 ด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุด AMD Ryzen 9 6000 Series และกราฟิกการ์ดสำหรับโน้ตบุ๊ก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti สำหรับปี 2022
เพื่อพลังในการเล่นเกมที่สูงยิ่งขึ้น ทั้ง Flow Z13 และ X13 ยังรองรับการใช้งานร่วมกับกราฟิกการ์ดแบบต่อแยก XG Mobile โดยรองรับทั้งรุ่นของปี 2021 ที่มาพร้อมกับ NVIDIA GeForce RTX 3080 หรือรุ่นใหม่ล่าสุดของปีนี้ที่มาพร้อมกราฟิกการ์ด AMD Radeon RX 6850M XT และช่องเชื่อมต่อ USB เพิ่มเติม, DisplayPort พร้อม HDMI, Ethernet ทำให้ XG Mobile พร้อมสำหรับทุกสิ่ง
ROG Strix GT15 ได้รับการอัพเดทสำหรับปี 2022 ด้วยฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าสุดจากทาง Intel และ NVIDIA โดยมีสเปคให้เลือกได้หลากหลายสูงสุดถึง Intel Core i7-12700KF, NVIDIA GeForce RTX 3080, และแรม 64 GB DDR4-3200 GT15 มอบประสบการณ์ภาพที่ลื่นไหลที่เฟรมเรทระดับสูงและการตอบสนองที่รวดเร็วสำหรับการใช้งานที่หลากหลายในทุกๆวัน หูจับและที่แขวนหูฟังที่ถูกติดตั้งมาบนตัวเครื่องช่วยเพิ่มความสะดวกเมื่อคุณต้องเคลื่อนย้ายเครื่องไปร่วมเล่นเกมกับเพื่อน และแถบไฟ Aura Sync ทำให้ผู้เล่นแต่ละคนแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของตัวเองได้
โน้ตบุ๊กนั้นถูกออกแบบเพื่อนการพาไปทุกที่ นั่นเป็นเหตุผลที่ ROG แนะนำอุปกรณ์เสริมใหม่ล่าสุดในซีรีส์ Archer ซึ่งประกอบไปด้วยกระเป๋าและเป้ในการเปิดตัวครั้งนี้ด้วย Archer Messenger 14 นั้นถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อพกพาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ มีกระเป๋าและช่องแยกขนาดเล็กมากมายสำหรับ ROG Phone, ที่ชาร์จแบบพกพา, และของจำเป็นอื่นๆ และยังมีพื้นที่มากพอสำหรับโน้ตบุ๊กขนาดหน้าจอ 14 นิ้วอีกด้วย Archer Backpack 15.6 สามารถใส่อุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการใช้งานตลอดทั้งวัน ขณะที่ Backpack 17 ใช้ช่องแยกแบบโมดูลาร์ ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเพื่อพกอุปกรณ์เกมมิ่ง, อุปกรณ์ถ่ายภาพ, หรืออุปกรณ์สำหรับการสร้างคอนเทนต์, อีกทั้งยังมีสายรัดสำหรับขาตั้งกล้องโดยเฉพาะ Archer Weekender 17 มีแผ่นรองเสริมสำหรับการเดินทางทริปใหญ่ และสามารถใช้งานได้ทั้งในรูปแบบกระเป๋าเป้และกระเป๋าเดินทางเพื่อให้เหมาะกับทุกสถานการณ์ ช่องแยกพิเศษด้านล่างมีคุณสมบัติกันน้ำและสิ่งสกปรก สมบูรณ์แบบสำหรับการแยกใส่เสื้อผ้า ขณะที่ช่องด้านบนสุดสามารถกักเก็บความร้อนได้สูงสุดถึง 6 ชั่วโมง กระเป๋าเป้ Archer ทุกรุ่นใช้วัสดุน้ำหนักเบา, ทนทาน, และกันน้ำ เพื่อให้คงทนต่อการใช้งานหนักหน่วง ควบคู่ไปกับการออกแบบที่ละเอียดอ่อนแต่โดดเด่นของ ROG เพื่อสไตล์ที่โดดเด่น
ราคาและกำหนดการณ์วางจำหน่ายในประเทศไทย
รายละเอียดสเปคผลิตภัณฑ์ ROG ที่เปิดตัวในงาน CES 2022 อาจมีการเปลี่ยนแปลงและยังไม่มีกำหนดการณ์การวางจำหน่ายในประเทศไทยที่แน่นอน โปรดติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ official website: https://www.rog.asus.com/th หรือแฟนเพจ https://www.facebook.com/ASUSROG.TH
Update : 07/01/2022
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |