ในตลาด สมาร์ทโฟนระดับ High-End มีสมาร์ทโฟน 2 รุ่นด้วยกันที่เบียดขึ้นมาเป็นกระแสสนใจ ได้แก OPPO Find 5 และ Sony Xperia Z โดยทั้งสองรุ่นนี้ ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ถูกพูดถึงกันมาก และยังถูกเปรียบเทียบสเปคกันบ่อยครั้ง มาชมกันดีกว่าว่า OPPO Find 5 และ Sony Xperia Z จะมีความแตกต่างกันมากน้อยขนาดไหน
เริ่มต้นที่หน้าจอแสดงผล ที่ทั้ง 2 รุ่นใช้จอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (441 ppi) หรือแบบ Full HD นั่นเอง ซึ่งทำให้ได้ภาพที่คมชัด และสวยงาม แต่ว่าทั้ง 2 รุ่นนี้ ใช้เทคโนโลยีหน้าจอที่แตกต่างกัน โดย OPPO Find 5 ที่ใช้จอแสดงผล IPS ผ่านเทคโนโลยี Retina Display พร้อมเทคโนโลยี OGS Crafts ที่ผสานกระจกภาพ และส่วนแสดงผลไว้เป็นชิ้นเดียว ช่วยให้ได้หน้าจอที่บางมากกว่าหน้าจอทั่วๆ ไป 10% และมีขอบหน้าจอขนาดกว้างเพียง 3.25 มิลลิเมตร เพิ่มอิสระของการใช้งานบนหน้าจอมากขึ้น เมื่อเทียบกับจอ 5 นิ้วทั่วไป ในขณะที่หน้าจอของ Sony Xperia Z มีระบบ Mobile BRAVIA 2 engine ที่ช่วยเพิ่มสีสันสดใสและคมชัดบนหน้าจอภาพ, ระบบ Durable Glass กระจก 2 ชั้นที่เพิ่งความแข็งแกร่งทั้งหน้าจอ ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี และตัวเครื่องที่ทนทานได้ทั้งน้ำ และฝุ่นละอองต่างๆ
ต่อมาก็จะเป็นคุณสมบัติในด้านของหน่วยประมวลผล ซึ่งทั้ง OPPO Find 5 และ Sony Xperia Z ต่างใช้ซีพียูแบบ Quad-core processor ความเร็ว 1.5GHz ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon, หน่วยประมวลผลภาพ Adreno 320, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2GB และสำหรับหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง OPPO Find 5 จะมีให้เลือกถึง 2 ขนาดด้วยกัน นั่นก็คือ 16GB และ 32GB ส่วน Sony Xperia Z จะมีให้เลือกขนาดความจุเดียวคือ 16GB
ในส่วนของกล้องดิจิตอล ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งของสมาร์ทโฟนระดับ High-End แต่ละเจ้าจึงมุ่งมั่นที่จะใส่เทคโนโลยีต่างๆ ลงไปให้กล้องของตนเพื่อให้การถ่ายภาพออกมาโดนใจผู้ใช้ให้มากที่สุด เริ่มด้วยกล้องด้านหน้า ที่ทั้ง 2 รุ่นมีความละเอียดใกล้เคียงกัน นั่นก็คือ ความละเอียดกล้องด้านหน้าของ OPPO Find 5 อยู่ที่ 1.9 ล้านพิกเซล ส่วนความละเอียดกล้องด้านหน้าของ Sony Xperia Z อยู่ที่ 2.2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องด้านหลัง ที่ถือว่า เป็นส่วนที่แต่ละผู้ผลิตใส่ใจรายละเอียดเป็นพิเศษ โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ ใช้เซ็นเซอร์คุณภาพสูงอย่าง Stacked CMOS ที่มีความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซล ช่วยให้ภาพถ่ายมีคุณภาพที่ดีขึ้น สีสันสดใส และ Noise ที่น้อยลง เทคโนโลยี HDR ตัวล่าสุดที่ไม่เพียงจะใช้งานใช้สภาพแสงน้อยสำหรับการถ่ายภาพ คุณยังสามารถใช้ HDR สำหรับการบันทึกวิดีโอ และสามารถ พรีวิว HDR ได้สดๆ ก่อนการบันทึกภาพได้ด้วยและทั้ง 2 รุ่นยังถ่ายวิดีโอได้ระดับ Full HD ส่วนจุดแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นนี้ก็คือ OPPO Find 5 เพิ่มเทคโนโลยี Blue Glass Filter ช่วยลดแสงสะท้อนในภาพถ่ายเมื่อคุณถ่ายภาพในที่แสงจ้า รูรับแสง F2.0 ช่วยถ่ายในที่แสงน้อย Fast Shutter ฟังก์ชั่นถ่ายภาพที่ถ่ายต่อเนื่องได้ 5 ภาพต่อวินาที อีกทั้งยังถ่ายต่อเนื่องได้เป็น 100 ภาพ ส่วนวิดีโอ OPPO Find 5 สามารถถ่ายในระดับ พร้อมฟังก์ชั่น High Speed Shutter ที่ช่วยถ่ายวิดีโอ Slow Motion ที่ 120 เฟรมต่อวินาที
ในเรื่องของระบบเสียง ถือว่า ทั้ง 2 รุ่นระบบเสียงที่โดนเด่นไม่แพ้กัน Sony Xperia Z มาพร้อมระบบปรับเสียงต่างๆ ทั้ง Clear Audio+ ช่วยให้เสียงใส, Dynamic normalize ปรับระดับเสียงให้เหมาะสม และระบบเสียง xLoud Experience ส่วน OPPO Find 5 ใช้ระบบเสียง Dirac HD Sound เทคโนโลยีเสียงที่ใช้ในแบนด์ระดับโลกอย่าง BMW, BENTLEY, ROLLS-ROYCE ที่ OPPO นำมาใช้กับ OPPO Find 5 เพื่อให้คุณได้คุณภาพเสียงระดับสูงทั้งการใช้ผ่านลำโพงเครื่อง และหูฟัง และยังมีระบบเสียง Dolby Sound ที่ช่วยให้คุณได้รับฟังเสียงคุณภาพไม่แพ้การฟังจากจากโรงภาพยนตร์
และในเรื่องของการโอนถ่ายข้อมูล ทั้ง 2 รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี NFC สำหรับการถ่ายโอนไฟล์ด้วยความเร็วสูง 30 MB ต่อวินาที หรือจะอธิบายได้ง่ายๆ ว่าสามารถส่งรูปขนาดใหญ่ หรือหนังเป็นเรื่องๆ หากันได้ในเวลารวดเร็ว และพิเศษยิ่งกว่านั้นก็คือ Sony มี One-touch connectivity เทคโนโลยีเชื่อมต่อจากการแตะครั้งเดียวผ่าน สมาร์ทโฟน, ลำโพง และโทรทัศน์ของ Sony ส่วน OPPO มี NFC Tag ที่จะใช้สั่งการคำสั่งต่างๆ ในเครื่องด้วยการแตะครั้งเดียวได้เลย
จากตารางข้างต้น จะเห็นได้ว่า ทั้ง OPPO Find 5 และ Sony Xperia Z ต่างมีคุณสมบัติอยู่ในระดับเดียวกัน และใกล้เคียงกัน แต่ความแตกต่างที่ถือว่า เป็นตัวช่วยตัดสินใจในการซื้อได้ดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ ราคา นั่นเอง โดย Sony Xperia Z ความจุ 16GB นั้น อยู่ที่ 20,990 บาท ในขณะที่ OPPO Find 5 มี 2 ขนาดความจุให้เลือก นั่นก็คือ 16GB อยู่ที่ 15,990 บาท และ 32GB อยู่ที่ 17,990 บาท ซึ่งถือว่า มีส่วนต่างมากพอสมควร
อย่างไรก็ดี การเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่อง นอกจากจะดูที่คุณสมบัติ และราคาเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจแล้ว การได้ไปสัมผัสตัวเครื่องจริง และทดลองใช้งานก่อนซื้อ ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน จะช่วยทำให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และได้รุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุดครับ
Update : 11/06/2013
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |