6 กุมภาพันธ์ 2560 : เอไอเอส ประกาศวิสัยทัศน์ปี 2017 พร้อมทุ่มเทพลังทั้งองค์กร นำศักยภาพจากโลกดิจิทัล ทั้งเครือข่าย Mobile และ Fix Broadband ซึ่งทันสมัยที่สุด พร้อมขีดความสามารถจากบุคลากรมืออาชีพ ที่ผนึกกำลังพันธมิตรระดับโลก ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศให้เข้มแข็ง สนับสนุนการพัฒนารากฐานหลักภาครัฐ เพื่อก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ
โดยวิสัยทัศน์ เอไอเอส 2017 ตอกย้ำการเป็น Digital Life Service Provider ที่มุ่งเน้น 3 ด้าน
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ปี 2559 ที่ผ่านมา นับเป็นปีแห่งการก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมไทย ที่ปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว การพลิกโฉมธุรกิจไปสู่ดิจิทัลจึงกลายเป็นประเด็นที่ทุกอุตสาหกรรมและรัฐบาลให้ความสำคัญ โดยในส่วนเอไอเอสเองก็ได้มีการ Transform เพื่อให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย,ดิจิทัลเซอร์วิส และบุคลากร
“สำหรับปีที่ผ่านมา ในส่วนของลูกค้าเอไอเอสนั้น มียอดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านมือถือสูงถึง 24 ล้านราย ในจำนวนนี้ 12 ล้านราย ใช้งานผ่านมือถือ 4G และใช้อินเตอร์เน็ตวันละ 6 ชั่วโมง โดยพบว่ามีการชมวีดีโอถึง 10 ล้านคลิปต่อวัน รวมถึงอัพโหลดภาพวันละ 1.8 ล้านภาพ”
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “หลังจากการประมูลคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz ชาวเอไอเอสมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาเครือข่ายด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ด้วยระยะเวลาเพียง 300 วันเท่านั้น วันนี้เครือข่าย AIS 4G จึงก้าวสู่เครือข่ายที่ใหญ่ที่สุด ครอบคลุมแล้วถึงกว่า 98% ของพื้นที่ประชากร และไม่หยุดยั้งในการนำนวัตกรรมระดับโลกเข้ามาเสริมขีดความสามารถเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเครือข่าย 4.5G ครั้งแรกในโลก ซึ่งได้มีการประกาศตั้งแต่ต้นปี 2559 จนได้รับการรับรองจาก OOKLA Speed test ว่าเอไอเอสเป็นเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เร็วที่สุดในประเทศไทย นอกจากนั้น Qualcomm ผู้ผลิตชิพเซ็ตระดับโลกได้ทำการทดสอบและรับรองว่า เครือข่ายของเอไอเอสมีความเสถียรและสนับสนุนการใช้งานของ Smart Phone รุ่นใหม่ๆที่ดีที่สุด พร้อมทั้งเป็นเครือข่าย 4G Roaming ที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ในเอเชีย (182 ผู้ให้บริการใน 150 ประเทศ) นอกจากนี้เอไอเอส ไฟเบอร์ ยังขยายโครงข่ายผ่านไปยังชุมชนแล้วมากกว่า 5 ล้านครัวเรือน โดยมีปริมาณลูกค้าใช้งาน ณ สิ้นปี 59 อยู่ที่ 3 แสนราย และเพิ่มขีดความสามารถในการติดตั้งได้ใกล้เคียงกับผู้ให้บริการรายเดิม แม้จะเปิดให้บริการมาเพียง 2 ปีเท่านั้น”
“ปี 2560 ในภาพรวมเราเชื่อว่าการใช้งานอินเตอร์เน็ตจะเติบโตถึง 300% โดยตลาดที่เติบโตมากที่สุดคือ Fix Broadband และกลุ่มการใช้งานของอุปกรณ์ IOT ที่เข้ามาในตลาดอย่างชัดเจน อาทิ Wearable, Machine2Machine ซึ่งถือว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนในการสร้างโอกาสใหม่ๆ ยกระดับการบริหารจัดการธุรกิจและการใช้ชีวิตของคนไทยไปอีกขั้น ทั้งนี้เราคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยจะทำให้อุตสาหกรรมหลักแต่ละด้านเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการขยายตัวเข้าถึงทุกพื้นที่ของ Digital Infrastructure 3 ส่วนหลัก คือ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง, สมาร์ทโฟนที่เติบโตมากกว่า 70 ล้านเครื่อง และ IOT มากกว่า 20 ล้านรูปแบบ”
นายสมชัยย้ำว่า “ตลอดปี 2559 ที่เราได้ทุ่มเททำงานหนักอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เครือข่าย,บริการดิจิทัลและขีดความสามารถของบุคลากรที่ร่วมทำงานกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิด มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ฉะนั้น ปี 2560 เอไอเอสในฐานะ Digital Life Service Provider จึงประกาศยืนยันว่าจะร่วมทำงานกับภาครัฐในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปสนับสนุน เสริมความแข็งแรง สร้างโอกาสทางการเข้าถึง และความเท่าเทียมกันของประชาชนที่มีอาชีพอยู่ในรากฐานหลักของประเทศ ผ่านแนวคิด “AIS Digital For Thais” ที่เชื่อว่าจะไปช่วยเพิ่มศักยภาพและสร้างการเติบโต สู่ประเทศไทย 4.0 ได้สำเร็จตามนโยบายรัฐบาลได้อย่างแน่นอน
สำหรับแผนงานในปี 2560 นั้น นายฮุย เวง ชอง กรรมการผู้อำนวยการ เอไอเอส กล่าวว่า “เครือข่ายของเอไอเอสทั้งหมด จะก้าวไปอีกขั้น (Next Generation Network) สู่ “เครือข่ายดิจิทัล ที่รองรับการใช้งานระดับกิกะบิท (Gigabit Network)” เป็นครั้งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในส่วนของเครือข่ายไร้สายนั้น ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด Multipath TCP ทำให้เพิ่มความเร็วได้ถึง 10 เท่าของเครือข่าย LTE และ เร็วขึ้นอีก 4 เท่าของเครือข่าย Tri Band LTE Advance สำหรับเครือข่าย AIS Wifi ก็จะก้าวสู่ Gigabit Super Wifi เช่นกัน (ด้วยมาตรฐาน 802.11 ac Wave 2) และแน่นอนว่า เครือข่าย AIS Fibre ก็จะพร้อมรองรับการใช้งานได้ถึง 10 กิกะบิทด้วยเช่นกัน”
“ซึ่งจากพื้นฐานดังกล่าว ย่อมนำมาซึ่งความพร้อมในการต่อยอดสู่เทคโนโลยี IoT ที่เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ จุดประกายในการพัฒนาบริการสาธารณะต่างๆ พร้อมก้าวสู่ Smart City อย่างเต็มรูปแบบ วันนี้เครือข่ายเอไอเอสจึงเป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เปิดตัว เครือข่าย Narrowband IoT มาตรฐานระดับโลก ที่จะรองรับการใช้งานอุปกรณ์ IoT ต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพจากวันนี้เป็นต้นไป”
นายฮุย เวง ชอง กล่าวเพิ่มเติมว่า “เมื่อโครงข่ายมีขีดความสามารถรองรับการใช้งานระดับกิกะบิทแล้ว เราจึงพร้อมตอบสนองความต้องการผู้ใช้บริการในยุคปัจจุบันด้วยคลังวีดีโอ คอนเท็นต์ จากสุดยอดพาร์ทเนอร์ตัวจริง ทั้งในและต่างประเทศ ผ่าน AIS Play และกล่อง AIS Play Box โดยพร้อมเปิดตัวเป็นครั้งแรกเพื่อคนไทยกับ ช่อง FOX Networks, HBO, NBA รวมไปถึง Chromecast ที่จะทำให้โลกแห่งการชมวีดีโอคอนเท็นต์ไร้ขีดจำกัดอีกต่อไป”
“สำหรับภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศนั้น เอไอเอส ได้ร่วมมือกับไมโครซอฟต์ ยกระดับ AIS Business CLOUD ด้วยมาตรฐานระดับโลกสู่ประเทศไทย เต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกของไทย ตอบสนององค์กรทุกขนาด ทุกอุตสาหกรรม เสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันและปรับตัวสู่ธุรกิจดิจิทัล อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย” นายฮุย กล่าว
นอกจากนี้แผนงานในปี 2017 ที่เอไอเอสวางวิสัยทัศน์ไว้ก็คือ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมายกระดับรากฐานหลักของประเทศ ภายใต้แนวคิด Digital For Thais เพื่อร่วมกับภาครัฐในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยใน 4 ด้านหลักๆ คือ
นี่คือความมุ่งมั่นในการนำขีดความสามารถทั้งแรงกาย แรงใจ และองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของชาวเอไอเอสทุกคน ไปร่วมสนับสนุนภาครัฐเพื่อยกระดับ Digital Infrastructure ของประเทศ ให้มีความแข็งแกร่ง พร้อมที่จะเข้าไปเชื่อมโยงและพัฒนาประเทศอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม พร้อมก้าวสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 ตามนโยบายต่อไป” นายสมชัย กล่าวสรุป
Update : 08/02/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |