ถ่ายเลือดเพื่อย้อนวัย ! บริการใหม่ ของ ธุรกิจ Startup อเมริกัน เตรียมทดลองโดยขอให้อาสาสมัครจ่ายเงินประมาณ 273,000 บาท เพื่อเข้าร่วมโครงการ

หากใครที่ดูซีรีย์ Silicon Valley ตอน The Blood Boy เมื่อเร็วๆ นี้ คงจะเห็นฉากที่ Gavin Belson ได้รับการถ่ายโอนเลือดจากเด็กหนุ่ม เพื่อช่วยให้ตัวเขามีอายุที่เด็กลง แต่ใครจะเชื่อว่า แนวคิดดังกล่าวไม่ได้มีเพียงแค่ในจอโทรทัศน์เท่านั้น หลังล่าสุดได้มีบริษัทสตาร์ทอัพรายหนึ่ง ที่เตรียมมอบบริการถ่ายโอนเลือดจากหนุ่มสาวให้แก่ผู้สุงอายุในโลกแห่งความเป็นจริงด้วยเช่นเดียวกัน

โปรเจ็กต์ดังกล่าวมาจาก Ambrosia LLC สตาร์ทอัพจากสหรัฐฯ ที่ให้บริการด้านการถ่ายโอนพลาสมา (น้ำเลือด) จากหนุ่มสาวอายุระหว่าง 16-25 ปี ให้แก่บุคคลวัยผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป โดยเลือดที่นำมาถ่ายโอนให้แก่ลูกค้านั้น จะมาจากธนาคารเลือดในสหรัฐฯ และมีการตรวจสอบตามมาตรฐานของหน่วยงาน FDA โดย Ambrosia จะคิดค่าบริการเอาไว้ที่ 8,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 273,000 บาท โดยแนวคิดในการสร้างโปรเจ็กต์ Ambrosia ได้เกิดขึ้น หลังผู้ก่อตั้งอย่าง Jesse Karmazin ได้ไปพบงานวิจัยที่เคยมีการทดลองผ่าตัดเชื่อมหนูสองตัวติดกัน และเชื่อมระบบหมุนเวียนเลือดเข้าด้วยกัน ภายใต้เทคนิคที่เรียกว่า Parabiosis

โดยงานวิจัยบางส่วนที่ได้ศึกษาเทคนิค Parabosis ในปี 2013 ที่เคยทำการทดลองนำสารโปรตีน GDF-11 ที่พบในเลือดของหนูทดลองอายุน้อย ไปฉีดใส่หนูทดลองที่มีอายุแก่กว่า ซึ่งพบว่า มีส่วนช่วยทำให้เกิดกระบวนการย้อนวัย หลังกล้ามเนื้อหัวใจของหนูแก่ทำงานได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่า หากนำเทคนิค Parabosis มาใช้กับมนุษย์จะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ทำให้เกิดเป็นแนวคิดการสร้างสตาร์ทอัพ Ambrosia ขึ้น

ในขณะนี้ มีผู้ลงทะเบียนขอรับบริการถ่ายโอนถ่ายเลือดเป็นจำนวนกว่า 100 รายแล้ว ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้คนที่มีอายุเข้าใกล้วัยเกษียณ อย่างไรก็ดี ทาง Jesse Karzin ไม่ได้ยืนยันว่า วิธีนี้จะช่วยให้มนุษย์เป็นอมตะแต่อย่างใด โดยเจ้าตัวเพียงแค่ต้องการอาสาสมัครเพื่อศึกษาว่า การถ่ายโอนเลือดวัยหนุ่มสาวให้วัยแก่ระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง จะมีส่วนช่วยในการต้านทานโรคที่เกี่ยวกับอายุหรือไม่ เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง รวมถึงโรคอัลไซเมอร์ อีกทั้ง ยังไม่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องของการถ่ายโอนเลือดจากมนุษย์ที่มีน้อยกว่า จะมีส่วนช่วยในเรื่องสุขภาพ หรือการย้อนวัยได้จริงหรือไม่ ทำให้คงต้องจับตามองโปรเจ็กต์ชิ้นนี้ดีๆ ครับ

---------------------------------------
ที่มา : Mashable, Vanityfair, india.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 02/06/2017

Ambrosia