ซื้อ Android รุ่นกลาง เครื่องไหนดีนะ “วิธีเลือกซื้อ Android Phone ตอนที่ 3? : [android buyer guide]
05-08-2010
เปิดอ่าน
47,289 ครั้ง
บทความการเลือกซื้อ Android Phone ตอนที่ 3 แล้วนะครับ ใครที่ยังไม่เคยอ่านตอนที่ 1 และ 2 เข้าอ่านได้ครับ “ตอนที่ 1: Android Phone คืออะไร และวิธีการเลือกซื้อ” จะอธิบายว่าโทรศัพท์ Android นั้นมันคืออะไรและวิธีการเลือกอย่างง่ายๆต้องดูตรงไหนบ้างครับ(อ่านง่ายครับ ไม่มีพื้นฐานคอมพิวเตอร์ก็ยังอ่านได้^^) และ “ตอนที่ 2 : วิธีเลือกซื้อ Android Phone รุ่นใหญ่(แพง)” ก็จะหยิบเอา Android Phone รุ่นแพงที่สุด 3 รุ่นมาเปรียบเทียบกันครับว่ารุ่นไหนคุ้มที่สุด
มาถึงบทความตอนที่ 3 เราจะมาดู Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) รุ่นกลางครับ ราคาเกินหมื่นแต่ไม่ถึง 2 หมื่น ซึ่งในกลุ่มรุ่นกลางนี้ ราคาก็ยังแบ่งเป็นสองกลุ่มย่อยนะครับคือกลุ่ม 17,000 – 18,000 บาทกับ 11,000 – 15,000 บาท แต่ด้วยสเปคที่ไม่แตกต่างกันมาก ผมหยิบมาเปรียบเทียบจัดในกลุ่มเดียวกัน ตรงนี้ปัจจัยราคาคงเป็นเรื่องที่ต้องชั่งใจกันพอสมควร
กลุ่มราคากลางๆ Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) ราคา 10,000 – 20,000 บาท
กลุ่มนี้ มี Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) ที่เป็นรุ่นที่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดอุปกรณ์หน้าจอ ทั้งชนิดหน้าจอและความละเอียดครับ ตรงนี้เนื่องจากใน Android Phone รุ่นกลางจะมี Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) ทั้งที่เพิ่งจะออกสู่ตลาดใหม่ๆ และ Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) ที่วางตลาดมานานแล้วปะปนกันครับ(เนื่องจากเราพิจารณาจัดกลุ่มตามราคา Android Phone-มือถือแอนดรอยด์) ซึ่งในราคาระดับกลางๆนี้ Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) ที่อยู่ในเกณฑ์นี้มีทั้งหมด 6 รุ่นครับ ได้แก่ Motorola Milestone(Droid), Acer Liquid e S100, HTC Legend, HTC Hero, HTC Magic และ HTC WildFire เรามาดูกันดีกว่าครับว่าแต่ละรุ่น ได้เปรียบเสียเปรียบกันในประเด็นไหนบ้าง
คลิ๊กเพื่อขยายรูปครับ
ความแรงของ CPU และหน่วยความจำภายใน
ตามที่เคยอธิบายไปในบทความ “วิธีการซื้อ Android Phone(มือถือแอนดรอยด์)” ว่า Android Phone นั้นก็เปรียบเหมือนคอมพิวเตอร์ขนาดย่อมๆ ต้องมีตั้งส่วนเป็นระบบปฏิบัติการคือเจ้า Android OS(ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์) และส่วนที่เป็นฮาร์ดแวร์ คือตัวเครื่องที่มีส่วนประกอบคล้ายๆกับคอมพิวเตอร์ คือ Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) มีชิป CPU และหน่วยความจำภายใน ซึ่งทั้ง 6 รุ่นในกลุ่มรุ่นกลาง นี้มีความแรงของ CPU ตั้งแต่ 528 MHz – 765 MHz ซึ่งรุ่นที่มี CPU แรงที่สุดก็คือ Acer Liquid e S100 ครับ ส่วนในหน่วยความจำภายใน ทุกรุ่นมี ROM เท่ากันคือ 512 MB แต่แตกต่างกันที่ RAM โดย HTC Magic มี RAM น้อยที่สุดคือ 192 MB และ Acer Liquid e S100 มี RAM มากที่สุดครับคือ 512 MB สำหรับหน่วยความจำภายนอก Android Phone ทั้ง 6 รุ่นรองรับได้เท่ากันคือ สูงสุดที่ 32 GB
(ใน Android Phone รุ่นใหญ่ cpu อยู่ที่ 1GHz และมี ROM และ RAM ขั้นต่อที่ 512 MB ครับ)
เวอร์ชั่นของระบบปฏิบัติการ Android
Android OS นั้นจะมีหมายเลขรุ่นกำกับเอาไว้ เพื่อบอกให้ทราบว่า Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) นั้นใช้ Android รุ่นไหน มีความสามารถหลักอะไรบ้าง ซึ่งถ้าจำไม่ได้ให้ดูที่บทความ “วิธีการเลือกซื้อ Android Phone” ครับ Anodroid Phone ในรุ่น Motorola Milestone(Droid), HTC Legend, HTC WildFire, Acer Liquid e S100 จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 2.1 เลยครับ แต่สำหรับ HTC Hero, HTC Magic จะมาพร้อมกับ Android 1.5 ครับแต่ก็รองรับที่จะอัพให้เป็น Android 2.1 ได้เช่นเดียวกันกับรุ่นอื่นๆ ส่วนการรองรับที่จะใช้ Android 2.2 นั้นต้องเช็คข่าวกันอีกทีในแต่ละรุ่นครับ แนะนำให้รอการอัพเกรด OS จากผู้ผลิต Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) แต่ละรายอย่างเป็นทางการครับ
การแสดงผลของหน้าจอ
หน้าจอแสดงผลของ Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) รุ่นกลางนี้ส่วนใหญ่ใช้วัสดุระดับกลางนะครับ ซึ่งเป็นจอประเภท TFT-LCD จะมีแค่ HTC Legend รุ่นเดียวที่ใช้ AMOLED ที่มีความคมชัดและแสดงสีที่สวยกว่า ดังนั้นคะแนนในส่วนวัสดุจอก็ต้องยกให้ HTC Legend ครับ (ทั้ง 6 รุ่นใช้จอสัมผัสแบบ Capacitive ทีตอบสนองต่อการสัมผัสได้ดีครับ)
ส่วนเรื่องความละเอียดและขนาดของหน้าจอ Android Phone Motorola Milestone คะแนนนำด้วยขนาดหน้าจอ 3.7 นิ้วและมีความละเอียด 480x854 รองลงมาก็เป็น Acer Liquid e S100 ที่มีขนาด 3.5 นิ้ว ความละเอียด 800x480 ส่วนในรุ่นอื่นจะมีหน้าจอ 3.2 นิ้วในความละเอียดระดับ 240x320 ครับ
(ใน Android Phone รุ่นใหญ่จอจะมีความละเอียดระดับ 800x480 และจอที่ใช้จะเป็น AMOLED และ Super AMOLED ครับ)
กล้อง และความละเอียดการถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว
ผู้ผลิต Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) ทั้ง 6 รุ่น ให้ความสำคัญกับกล้องมากครับ กล้องที่ติดมากับ Android Phone ในราคาระดับกลางนี้ ใน Milestone, HTC Legend และ HTC WildFire ครับ นั้นมีความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล พร้อม flash ส่วน HTC Magic มีกล้องละเอียดน้อยที่สุดคือ 3.2 ล้านพิกเซลไม่มี flash ครับ
ส่วนความสามารถในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว(Video Recording) ของ Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันพอสมควรเลยครับ โดยคะแนนนำอยู่ที่ Motorola Milestone ที่สามารถบันทึกวีดีโอความละเอียดระดับ WVGA 720x480 ได้ในอัตราภาพ 24 เฟรมต่อวินาที รองลงมาก็จะเป็น HTC Legend กับความละเอียด 640x480 กับ Acer Liquid e S100 ที่บันทึกได้ระดับ VGA ส่วนอีก 3 รุ่น HTC Hero, HTC Magic, HTC WildFire นั้นบันทึกได้ในระดับ 352x288 ครับ
ทั้ง 6 รุ่นไม่มีกล้องด้านหน้าครับ
(ใน Android Phone รุ่นใหญ่ Video Recording จะมีความละเอียดที่สูงอย่างน้อยในระดับ 720x480 )
ความสามารถในเชื่อมต่อ
Android Phone นั้นเป็น Smart Phone ครับซึ่งด้วยความฉลาดของโทรศัพท์ประเภทนี้ มันต้องเล่นอินเตอร์เน็ตได้ทั้งผ่าน 3G หรือ EDGE ได้แล้ว Android Phone ยังต้องสามารถเชื่อมต่อ ระบบเครือข่ายไร้สาย(Wireless LAN) ซึ่งเรารู้จักกันอีกชื่อว่า Wifi ซึ่งในทั้ง 6 รุ่นมีความสามารถ Wifi ที่เท่าเทียมกันครับ
ส่วนในการเชื่อมต่อ Android Phone กับ Bluetooth นั้น มีอยู่ 3 รุ่นที่คะแนนดีกว่าคนอื่นคือรองรับ Bluetooth เวอร์ชั่น 2.1 คือรุ่น Motorola Milestone, HTC Legend และ HTC WildFire ส่วนอีก 3 รุ่นใช้ Bluetooth 2.0 ครับ(แต่ประเด็นนี้ อาจจะยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญในปัจจุบันมากเท่าไหร่ครับ) และนอกการเชื่อมต่อแบบไร้สายแล้ว Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) ทั้ง 6 รุ่นยังสามารถต่อสาย USB 2.0 Android Phone เข้ากับคอมพิวเตอร์สำหรับการโอนย้ายไฟล์ได้อีกด้วยครับ
เรื่องของการเชื่อมต่อนี้ Motorola Milestone มีทีเด็ดที่พอร์ต HDMI ครับที่สามารถส่งไฟล์วีดีโอไปแสดงผลบนจอที่รองรับ HDMI ได้ครับ ความสามารถนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ก็เป็นรุ่นเดียวที่มีพอร์ต HDMI ครับ
(ใน Android Phone รุ่นใหญ่ความสามารถในการเชื่อมต่อไม่แตกต่างจากรุ่นกลางมาก มีเพียง Samsung Galaxy S ที่ใช้ Bluetooth 3.0)
อุปกรณ์ Sensor ต่างๆ
Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) นั้นมีความสามารถประมวลผลมากครับ เนื่องจากมันก็เป็น คอมพิวเตอร์ขนาดย่อมๆนี่เอง จะประมวลผลได้ดี ก็จำเป็นต้องได้รับข้อมูลที่ดีครับ ซึ่ง Android Phone ได้ติดตั้ง Sensor ประเภทต่างๆเพื่อรับค่าข้อมูลในประมวลผลทำให้ Android Phone สามารถทำงานแบบพิเศษได้ เช่น การหมุนหน้าจอ Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) อัตโนมัติ(จากแนวนอนไปเป็นแนวตั้ง หรือแนวตั้งไปเป็นแนวนอน)ด้วยการพลิก Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) ไปยังมุมที่ต้องการเท่านั้นเองครับ และยังมีระบบที่จะดับหน้าจอเองเวลาที่เราหยิบ Android Phone มาแนบหน้าเวลาคุยโทรศัพท์ และระบบปรับความสว่างหน้าจอ Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) อัตโนมัติโดยวัดจากความสว่างภายนอก ความสามารถดังกล่าว ทั้ง 6 รุ่นทำงานได้เหมือนกันหมดครับ
แต่ Android Phone ค่าย HTC จะมีจุดแข็งที่มีอุปกรณ์ G-Sensor ติดมาด้วย ซึ่ง G-Sensor จะมีความแม่นยำในการจับการเคลื่อนไหวของตัวเครื่องได้ดีกว่าครับ สำหรับ Sensor GPS ที่ใช้สำหรับจับตำแหน่ง Latitude, Longitude นั้นมีมาให้ทั้ง 6 รุ่นครับ.
(อุปกรณ์ Sensor Android Phone รุ่นกลางมีความทัดเทียมพอๆกับ Android Phone รุ่นใหญ่ครับ)
ความจุของแบตเตอรี่
โทรศัพท์ Smart Phone นั้นใช้พลังงานค่อนข้างมากครับ สำหรับ Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) เองก็เช่นกัน หากพลังงานที่มากับแบตเตอรี่มีมาไม่พอละก็ อาจจะเจอปัญหาแบตหมดระหว่างวันแน่ๆครับ
สำหรับ Android Phone รุ่นกลางมีความจุแบตเตอรี่ในระดับใกล้เคียงกันคือ 1,300 – 1,390 mAh ซึ่งแตกต่างกันไม่มากนัก (ใน Andrid Phone รุ่นใหญ่จะมีแบตเตอรี่ความจุประมาณ 1,400 – 1,500 mAh)
ราคา
สุดท้ายที่จะนำมาเปรียบเทียบ Android Phone(มือถือแอนดรอยด์) กันคือ ราคาของตัวเครื่องครับ เรามาดูราคาของแต่ละรุ่นกันหน่อยดีกว่าครับดูตามตารางเปรียบเทียบสเป็คได้เลยครับ (คลิ๊กที่รูปเพื่อขยายรูปใหญ่ครับ)
(หวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่ผู้กำลังมองหา Android Phone รุ่นท็อปนะครับ อาทิตย์หน้าเรามาดูกลุ่มสุดท้าย จะเป็น Android Phone รุ่นเล็กสุดครับ ซึ่งจะมีราคาเครื่องไม่ถึงหมื่นครับ สเป็คเครื่องก็จะปรับลงมาเล็กน้อย เช่น CPU เป็นต้น อาทิตย์อย่าติดตามกันต่อนะครับ … กด Ctrl + D เพื่อแอดหน้านี้เป็นหน้าโปรดครับ อาทิตย์เรามาตามกันต่อว่า กลุ่มสุดท้าย รุ่นเล็กสุดจะเป็นยังไงกันบ้างนะครับ) Update : 05/08/2010
Mobile Phone
Android
HTC
Article
Android Phone
Samsung