หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[Android Tips] 11 วิธีประหยัดเน็ตมือถือที่คุณเองสามารถทำได้ง่ายๆ แบบสบายกระเป๋า

อินเทอร์เน็ตมือถือนับเป็นอะไรที่มีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอใช้จริงๆ หากจะซื้อแพ็ตเกจเสริม หรือขยับไปใช้โปรโมชั่นที่ให้ความเร็วเน็ตมาเยอะๆ ก็ต้องจ่ายแพงขึ้นไปอีก การประหยัดจึงเป็นทางเลือกหนึ่งครับ และในวันนี้ เราได้รวบรวม 11 วิธีประหยัดเน็ตมือถืออย่างง่ายๆ สำหรับชาว Android เอาไว้ จะประหยัดได้แค่ไหน และทำอย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลยครับ

 

1. บีบอัดหน้าเว็บใน Chrome ให้มีขนาดเล็กลง

สำหรับผู้ที่ใช้เบราว์เซอร์ Chrome เป็นหลัก วีธีนี้จะช่วยลดการส่งข้อมูลได้ถึง 30-35% เลยครับ นั่นก็คือตัวเลือก Data Saver หรือ “โปรแกรมประหยัดอินเทอร์เน็ต” นั่นเอง

ตัวเลือกนี้บีบอัดหน้าเว็บให้มีขนาดไฟล์เล็กลง แล้วจึงโหลดขึ้นเบราว์เซอร์ แต่ผลข้างเคียงคือจะทำให้โหลดหน้าเว็บช้าลงบ้างเล็กน้อย แต่เพื่อแลกกับความประหยัดเน็ตแล้วนับว่าคุ้มค่าครับ สามารถเข้าไปเปิดใช้งานตัวเลือกนี้ได้ที่ ตั้งค่า > โปรแกรมประหยัดอินเทอร์เน็ต สามารถดูกราฟว่าเราประหยัดอินเทอร์เน็ตของเราไปแค่ไหนแล้วได้ด้วยครับ

 

2. บีบอัดไฟล์วีดีโอในเบราเซอร์ Opera

สำหรับผู้ที่ใช้เบราว์เซอร์ Opera ก็มีฟีเจอร์ประหยัดการส่งข้อมูลมาให้เหมือนกันครับ นั่นก็คือการบีบอัดไฟล์วิดีโอก่อนโหลดขึ้นเบราว์เซอร์ เหมาะมากๆ กับคนที่ชอบดูคลิปต่างๆ เวลาออกไปข้างนอกและไม่มี Wi-Fi สามารถเข้าไปเปิดการใช้งานฟีเจอร์นี้ได้โดยกดที่ไอคอน O สีแดงตรงขวาล่างจอ เลือกการตั้งค่า  > การประหยัดข้อมูล ติ๊กที่ “เปิดใช้งานแล้ว” และ “การบีบอัดวิดีโอ” วิธีนี้นอกจากจะประหยัดเน็ตแล้ว ยังโหลดวิดีโอไวขึ้นด้วยครับ

 

3. เล่น Facebook ในเบราเซอร์กันดีกว่า

หลายคนคงทราบดีว่าเจ้าแอปฯ Facebook นี่แหละที่สูบเน็ตเราไม่ใช่เล่นๆ เลย แถมยังกินแบตฯ อีกต่างหาก จริงๆ แล้วเราสามารถเล่น Facebook บนเบราว์เซอร์ตัวเก่งของเราได้เช่นกันโดยที่ฟังก์ชั่นต่างๆ ก็ยังครบถ้วนเหมือนเดิม เบาเครื่องขึ้นเยอะ และสูบเน็ตน้อยกว่าด้วยครับ

สำหรับใครที่มี Chrome อยู่แล้ว ก็สามารถเก็บทางลัดสู่หน้า Facebook ไว้บนหน้าจอหลักได้ โดยการเปิด Facebook ใน Chrome กดที่สัญลักษณ์ 3 จุด บนมุมขวาบนเพื่อเรียกเมนูขึ้นมา แล้วเลือก “เพิ่มไปยังหน้าจอหลัก” ครับ

 

4. ลองหันมามองแอปฯ และเกมออฟไลน์บ้าง

เกมบางเกม รวมไปถึงแอปพลิเคชันบางอย่าง จะส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตอยู่อย่างต่อเนื่องบนพื้นหลัง ด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัยหรือมีความจำเป็นที่จะต้องรับ-ส่งข้อมูลเพื่อแสดงผลอย่างเป็นปัจจุบัน  ซึ่งจริงๆ แล้วยังมีแอพลิเคชั่นและเกมอีกมากมายที่ทำออกมาได้ดีและสามารถใช้งานแบบออฟไลน์ได้ ลองดาวน์โหลด Google Drive มาใช้ หรือดาวน์โหลดเกม BADLAND และ Does Not Commute มาเล่นดูสิครับ

 

5. จำกัดการส่งข้อมูลพื้นหลัง

การส่งข้อมูลพื้นหลัง หรือ Backgroud Data ก็คือข้อมูลที่ส่งผ่านอินเทอร์เน็ตโดยแอปพลิเคชันต่างๆ ที่เราไม่ได้ใช้งานอยู่ในขณะนั้น เช่น วิดเจ็คพยากรณ์อากาศ, ซิงค์ข้อมูลอีเมล์ หรืออัพเดทฟีดข้อมูล เป็นต้น เราสามารถบอกโทรศัพท์ Android ของเราให้จำกัดการส่งข้อมูลพื้นหลังเหล่านี้ได้ โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า > การใช้ข้อมูล > ตั้งค่าขีดจำกัดข้อมูลเคลื่อนที่

นอกจากนี้เรายังสามารถไปตั้งค่าการซิงค์ข้อมูล Google Account ของคุณได้อีกด้วย โดยไปที่ ตั้งค่า > บัญชี > Google > เลือกบัญชีที่คุณต้องการ แล้วเลือกการซิงค์ข้อมูลต่างๆ ได้ตามสบายครับ

 

6. ปิดการอัปเดตอัตโนมัติของแอปพลิเคชันทั้งหลาย

การอัปเดตอัตโนมัติของแอปพลิเคชันต่างๆ ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของการประหยัดเน็ตเลยก็ว่าได้ เพราะหาคุณตั้งค่า Google Play ให้อัปเดตแอปพลิเคชันอัตโนมัติล่ะก็ เน็ตคุณจะลดฮวบๆ โดยที่คุณไม่รู้ตัว และติด FUP ไปแบบงงๆ ในที่สุด ซึ่งเราสามารถเข้าไปแก้ไขการออโต้อัปเดตได้ง่ายๆ ครับ โดยเปิด Google Play ขึ้นมา ลากนิ้วจากซ้ายไปขวาเพื่อเปิดแถบเมนู ไปที่ตั้งค่า > อัปเดตแอปพลิเคชันอัตโนมัติ > อัปเดตผ่าน WiFi เท่านั้น

 

7. เอาเพลงใส่เครื่องบ้าง แทนการเปิด YouTube

หลายๆ คนคงจะชอบฟังเพลงผ่าน YouTube เพราะว่ามีเพลงให้ฟังเยอะแถมยังมี MV ให้ดูด้วย แต่การฟังผ่าน YouTube บ่อยๆ นี่แหละที่จะสูบเน็ตเราไปอย่างมหาศาล ถ้ามีเพลงที่ชอบ แนะนำว่าเก็บไว้ในเครื่องดีกว่าครับ แถมยังฟังได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องง้ออินเทอร์เน็ตด้วยนะ

 

8. หาตัวการสูบเน็ตให้เจอ

คุณสามารถตรวจสอบว่าแอปพลิเคชันไหนใช้เน็ตเราไปเท่าไหร่บ้าง โดยไปที่ ตั้งค่า > การใช้ข้อมูล เลื่อนลงมาด้านล่างจะเห็นลิสต์แอปพลิเคชันต่างๆในเครื่องเราพร้อมปริมาณการส่งข้อมูลทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เมื่อเราเจอตัวการที่กินเน็ตเราไปมากเกินพอดีแล้ว ให้กดเข้าไป เราจะสามารถเข้าไปตั้งค่าและจำกัดการส่งข้อมูลพื้นหลังของแอปพลิเคชันนั้นได้ครับ

 

9. พยายามอย่าอัปโหลด/ดาวน์โหลดภาพหรือวีดีโอความละเอียดสูง

หลายครั้งที่เราได้บันทึกภาพหรือวิดีโอเพื่อเก็บช่วงเวลาดีๆ ของเราเอาไว้ และอยากจะแบ่งปันให้คนอื่นๆ ดูบ้าง ก็จะอัปโหลดขึ้นไปบนโซเชียลมีเดียต่างๆ กันเป็นเรื่องปกติ แต่หากไม่ได้ต่อ Wi-Fi อยู่ การอัปโหลดรูปภาพหรือวีดีโอเหล่านี้อาจทำให้เน็ตคุณหมดแบบไม่ทันตั้งตัวได้ เพราะรูปภาพความละเอียดสูงเพียงรูปเดียวก็อาจจะมีขนาดถึง 40 MB เข้าไปแล้ว ยิ่งถ้าเป็นวีดีโอความละเอียดสูงอาจทะลุ 200 MB ได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้น จะอัปโหลดหรือดาวน์โหลดช่วงเวลาดีๆ ขึ้นโซเชียลมีเดีย ควรจะทำผ่าน Wi-Fi ดีกว่าครับ

 

10. ใช้ Wi-Fi ฟรีให้เป็นประโยชน์

ในปัจจุบันนี้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือแต่ละค่าย ต่างก็มี Wi-Fi Hotspot ของตัวเองติดตั้งอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งมักจะเป็นตามห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ และตามสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ นอกจากนี้ร้านอาหารดีๆ ก็มีบริการ Wi-Fi ของทางร้านกันหมดแล้ว ผู้บริโภคอย่างเราจึงควรใช้สิทธิ์ของเราให้เต็มที่ครับ

อย่างไรก็ตาม การเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะนั้นมีความปลอดภัยต่ำ มีโอกาสถูกดักจับข้อมูลโดยมิจฉาชีพได้ จึงขอแนะนำว่าพยายามหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน e-banking รวมไปถึงการกรอกข้อมูลส่วนตัวหรือรหัสผ่านต่างๆ ด้วยครับ หรือหากจำเป็นจริงๆ ก็คงจะต้องพึ่งพา VPN แล้วล่ะครับ

 

11. แชร์ไฟล์ผ่าน Bluetooth แทนสิ

อีกช่องทางการเชื่อมต่อที่หลายคนคงลืมไปแล้ว นั่นก็คือ Bluetooth นั่นเองครับ บางครั้งการส่งไฟล์จากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอีกอุปกรณ์หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ, เพลง หรือวิดีโอ ก็ไม่จำเป็นต้องทำผ่านอินเทอร์เน็ตเสมอไป หากคุณและเพื่อนอยู่ใกล้ๆ กัน การส่งผ่าน Bluetooth ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีครับ

สำหรับการแชร์ไฟล์ผ่าน Bluetooth ทำได้โดยการเข้าไปเลือกไฟล์ที่เราต้องการส่ง แล้วกดที่เครื่องหมายแชร์ จากนั้นเลือก Bluetooth หากคุณยังไม่ได้เปิด Bluetooth ระบบจะถามคุณโดยอัตโนมัติ สุดท้ายให้เลือกชื่อของอุปกรณ์ที่เราต้องการส่งไฟล์ไปให้ (อุปกรณ์นั้นต้องเปิด Bluetooth อยู่ด้วย) รออีกฝ่ายตอบรับ เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย ไม่ต้องเสียเน็ตเลยสักนิดเดียวครับ

 

ด้วย 11 วิธีที่ว่ามาทั้งหมดนี้ เรามั่นใจว่าจะช่วยคุณประหยัดเน็ตมือถือให้มีใช้แบบเต็มสปีดไปอีกนานเลยทีเดียว แล้วพบกับ Android Tips ใหม่กันในโอกาสหน้าครับ 

 

 

---------------------------------------
ที่มา : androidpit.com

แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 24/05/2016

Android Tips





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy