iPhone รุ่นต่อไปอาจทำงานได้เร็วขึ้นและประหยัดแบตยิ่งกว่าเดิม ด้วยชิปแยกสำหรับงานด้าน AI โดยเฉพาะ แบ่งเบาภาระ CPU ได้มหาศาล

ดูเหมือนว่าระยะหลังนี้ Apple จะค่อนข้างทุ่มเทให้กับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยมีเบาะแสออกมาให้เห็นกันอยู่เนืองๆ ล่าสุดก็มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาอีกแล้วเมื่อมีรายงานว่า Apple กำลังซุ่มพัฒนาชิป AI ที่เป็นชิปแยกเพื่อจัดการงานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ AI โดยเฉพาะ

รายงานจาก Bloomberg ระบุว่าชิปดังกล่าวอาจใช้ชื่อว่า Apple Neural Engine และมีไว้เพื่อจัดการกับการทำงานที่มีอัลกอริธึมซับซ้อนและต้องพึ่งพาความสามารถของ AI เป็นหลัก เช่น การวิเคราะห์ใบหน้า การวิเคราะห์เสียงพูด และ Augmented Reality (AR) ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว ชิปตัวนี้จะนำเอางานที่เกี่ยวข้องกับ AI มาประมวลผลเองทั้งหมด โดยไม่ต้องเป็นภาระของ CPU และ GPU อีกต่อไป เช่นเดียวกับที่ Apple ใช้ชิปแยกสำหรับตรวจจับการเคลื่อนไหวบน iPhone และชิปแยกใน AirPods ที่มีไว้สำหรับเชื่อมต่อกับ iPhone โดยเฉพาะ สรุปแล้วก็คือ ชิปตัวนี้จะทำให้ iPhone ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และกินแบตเตอรีน้อยลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมของ iPhone สูงขึ้นกว่าที่เคยมีมา

ยังไม่แน่ชัดว่าชิปดังกล่าวจะนำมาใช้ใน iPhone 8 ที่จะเปิดตัวในปีนี้หรือไม่ แต่มีรายงานว่า Apple ได้เริ่มทดสอบ iPhone รุ่น prototype ที่ใช้ชิปตัวนี้แล้ว

แน่นอนว่า Apple ไม่เปิดเผยความลับของตัวเองง่ายๆ แต่ก็ยังพอจะมีเบาะแสออกมาให้เห็นกันบ้าง เช่นการที่ ทิม คุก CEO คนปัจจุบันของ Apple เคยพูดไว้เมื่อต้นปีว่า “เทคโนโลยี AR และ AI จะเป็น 2 เสาหลักของ Apple ในอนาคต” หากเป็นเช่นนั้นจริง Apple จะขยายขอบเขตนวัตกรรมของตนออกไปได้อีก เช่นรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ผู้ช่วย AI Assistant ที่อัจฉริยะยิ่งขึ้น และเข้าใจโลกในบริบทที่กว้างขวางยิ่งขึ้น

แม้ตอนนี้ Apple จะยังไม่ได้ออกมาพูดอะไรเกี่ยวกับการพัฒนา AI (นอกจากอัปเดต Siri เล็กๆ น้อยๆ) แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็มีข่าวว่า Apple ได้ดึงผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ระดับหัวกะทิหลายสิบคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Apple ซึ่งเชิญเข้ามานั่งเฉยๆ แน่นอน ไม่แน่ว่าในงานเปิดตัว iPhone 8 เดือนกันยายนนี้ อาจมีเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้

---------------------------------
ที่มา : The Verge
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 29/05/2017

iPhone AI IT