Apple เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2018 (ตุลาคม - ธันวาคม 2017) ตามปีงบการเงินของบริษัท ซึ่งในภาพรวมนั้น สามารถทำรายได้รวม 88.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 13% (เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา) รวมถึงกำไรสุทธิอยู่ที่ 20.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 17.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา) เช่นกัน เรียกได้ว่า ทุบสถิติใหม่ทั้งรายได้รวมและกำไรสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ Apple
ด้าน iPhone X ที่คาดหวังกันว่า จะเป็นสินค้าทำรายได้ให้กับบริษัท แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีข่าวลือออกมาไม่ค่อยดีนัก ซึ่งในรายงานผลประกอบการนั้น ได้เผยเป็นยอดขายและรายได้จากการขาย iPhone ทุกรุ่น โดยเผยว่า ยอดขาย iPhone ทั้งหมดอยู่ที่ 77.3 ล้านเครื่อง ลดลง 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมา (78.3 ล้านเครื่อง) แต่รายได้รวมจากการขาย iPhone เพิ่มขึ้น 13% จาก 54.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 61.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
สำหรับยอดขายผลิตภัณฑ์อื่น ๆ นั้น iPad ขายได้ 13.2 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 1%, Mac ขายได้ 5.1 ล้านเครื่อง ลดลง 5% ส่วนรายได้จากบริการต่าง ๆ เช่น Apple Music, App Store และ iTunes เพิ่มขึ้น 18%
ถึงแม้ว่ารายงานผลประกอบการไตรมาสจาก Apple จะไม่มีตัวเลขยอดขาย iPhone แบบแยกรุ่น แต่ Tim Cook ซีอีโอของ Apple เผยว่า iPhone X ได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีทุกสัปดาห์นับตั้งแต่ที่วางจำหน่าย ซึ่งสวนทางกับนักวิเคราะห์ที่เคยเผยว่า iPhone X ขายได้น้อยและไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร โดยถ้าหากมองจากตัวเลขยอดขาย iPhone ในข้างต้น แม้ว่าจำนวนเครื่องจะขายได้ลดลง (1%) แต่รายได้จากการขาย iPhone เพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อลองเฉลี่ยราคา iPhone ต่อเครื่องในไตรมาสล่าสุดนี้ จะเห็นว่าอยู่ที่ประมาณ 796 เหรียญสหรัฐฯ เทียบกับ 694 เหรียญสหรัฐฯ (ในไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว) เพิ่มขึ้นเครื่องละ 100 เหรียญสหรัฐฯ นั่นหมายความว่า iPhone X เป็นตัวที่ทำให้รายได้จากการขาย iPhone เพิ่มขึ้นนั่นเอง
---------------------------------------
ที่มา : apple.com , macrumors.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 02/02/2018
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |