หลังจากที่ แอปเปิล ได้ปล่อยอัปเดต iOS 8.4 ไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์เด่น นั่นก็คือ Apple Music บริการสตรีมมิ่งเพลง และ Beats 1 สถานีวิทยุออนไลน์ทั่วโลก รายงานล่าสุดจาก Mixpanel เผยว่า ยอดดาวน์โหลด iOS 8.4 มีอัตราที่สูงมาก และสูงกว่า iOS 8 เวอร์ชันอื่นๆ อีกด้วย
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ iOS 8.4 มียอดดาวน์โหลดสูงขนาดนี้ คงจะเป็นเพราะบริการ Apple Music นั่นเอง และถือว่า เป็นสัญญาณอันตรายต่อ Spotify ซึ่งเป็นบริการประเภทเดียวกัน เนื่องจากแอปเปิล พร้อมแล้วที่จะเข้าสู่วงการนี้อย่างเต็มตัวนั่นเอง
อย่างไรก็ดี ไม่มีข้อมูลระบุว่า ตัวเลข 40% นี้ มีผู้ใช้ Apple Music เป็นจำนวนเท่าใด - cultofmac.com
เชื่อได้เลยว่า ในตอนนี้ หลายๆ ท่านคงจะถูกอกถูกใจกับ Apple Music บริการสตรีมเพลงทั่วทุกมุมโลก ที่ให้ใช้กันฟรีๆ นานถึง 3 เดือน โดยปกติแล้ว การฟังเพลงแบบ Streaming Music จะต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไว้ตลอดเวลา ถ้าหากฟังผ่านทางเครือข่าย Wi-Fi คงจะไม่มีผลกระทบอะไรมากนัก แต่ถ้าหากฟังผ่านเครือข่าย 3G หรือ 4G จะต้องเสีย data ไปโดยใช่เหตุ แต่ทราบกันหรือไม่ครับว่า Apple Music สามารถดาวน์โหลดเพลงมาฟังแบบ ออฟไลน์ หรือไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ที่สำคัญ ทำได้ง่ายอีกด้วยครับ มาดูเทคนิค การดาวน์โหลดเพลงจาก Apple Music มาฟังแบบออฟไลน์กัน
เข้าไปที่แอปพลิเคชัน Apple Music ค้นหาเพลง, ศิลปิน หรืออัลบั้มที่ต้องการดาวน์โหลดมาฟังแบบออฟไลน์ คลิกที่ปุ่ม ... ด้านขวามือ แล้วเลือก Make Available Offline
เพลงไหนที่มีไอคอนรูป iPhone ปรากฏอยู่ หมายความว่า เพลงนั้นถูกดาวน์โหลดแล้ว สามารถฟังแบบออฟไลน์ได้เลย
และถ้าหากต้องการลบเพลงที่ดาวน์โหลดแล้วออก ให้คลิกที่ปุ่ม ... แล้วเลือก Remove Download
เปิดให้บริการ Apple Music พร้อมกับ iOS 8.4 อย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อช่วงค่ำคืนวันอังคารที่ 30 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งแอปเปิล ให้เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไป สามารถใช้บริการ Apple Music ได้ฟรี นาน 3 เดือน แต่เมื่อหมดช่วงเวลาทดลองแล้ว จะต้องจ่ายค่าบริการรายเดือน เดือนละ 170 บาท ซึ่งถ้าผู้ใช้ท่านใดถูกใจบริการ ก็สามารถ Subscribe เพื่อต่ออายุสมาชิกได้ แต่ท่านที่ใช้งานแล้ว ยังไม่ถูกใจ ก็สามารถยกเลิกได้เช่นกัน โดยในวันนี้ ทีมงาน techmoblog จะมาแนะนำวิธีการ ปิดการต่ออายุอัตโนมัติ บนบริการ Apple Music กัน เพื่อไม่ให้เสียเงินรายเดือนไปแบบไม่รู้ตัว
ก่อนอื่น ขอแนะนำกันก่อนว่า การสมัครบริการ Apple Music นั้น จะเป็นในรูปแบบ Subscription ซึ่งจะมีการต่ออายุแบบรายเดือน ฉะนั้น เมื่อหมดช่วงทดลอง 3 เดือนแล้ว ระบบจะหักเงินจากบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับบัญชี Apple ID ทันที แต่ผู้ใช้สามารถปิดการต่ออายุอัตโนมัติได้ โดยทำได้ 2 วิธีด้วยกัน
เปิด iTunes ขึ้นมา แล้วดูที่เมนู Account > เลือก View Account แล้วใส่รหัสผ่าน Apple ID
ในส่วนของ Settings (ด้านล่างสุด) ตรงคำว่า Subscriptions ให้คลิก Manage
ตรงคำว่า Apple Music Membership ให้คลิก Edit เพื่อปิด Auto-renew เพียงแค่นี้ ก็จะไม่ต่ออายุให้อัตโนมัติ เมื่อหมดช่วงทดลอง 3 เดือนแล้วครับ
เข้าไปที่แอปพลิเคชัน Music เลือกแท็บ My Music
คลิกที่รูปคน (มุมบนซ้าย) > เลือก View Apple ID และใส่รหัสผ่าน
คลิกที่ Manage > Your Membership และตรง Automatic Renewal ให้ปิดการใช้งาน เสร็จแล้วคลิก Done เป็นอันเรียบร้อย
อย่างไรก็ดี การใช้งาน Apple Music จำเป็นจะต้องทำการ Subscribe ก่อน แล้วเลือกการจ่ายเงินว่า จะเป็น $4.99 หรือ $7.99 แต่ระหว่างช่วงทดลองใช้งาน 3 เดือน จะยังไม่เสียค่าบริการ จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนข้างต้น ก็จะไม่เสียค่าบริการรายเดือน หลังจากหมดช่วงทดลอง 3 เดือนครับ
เรียกได้ว่า เป็นของดีส่งท้ายงาน WWDC 2015 เลยก็ว่าได้ กับ Apple Music บริการสตรีมเพลง และรองรับสถานีวิทยุสดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งถือว่า เป็นอีกบริการหนึ่งที่ สาวกแอปเปิล รอคอยเลยก็ว่าได้ หลังจากที่เข้าซื้อกิจการของ Beats Electronics ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ซึ่ง Apple Music น่าจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Spotify บริการสตรีมเพลงชื่อดังนั่นเอง
มาดูกันว่า Apple Music มีฟีเจอร์เด่นอะไรบ้าง
สำหรับฟีเจอร์พื้นฐานของ Apple Music นอกเหนือจากบริการสตรีมเพลงแล้ว ยังรองรับสถานีวิทยุทั่วโลก ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ซึ่งผู้ใช้สามารถสตรีมได้ทุกเพลง ทุกอัลบั้ม พร้อมมิวสิควีดีโอให้ชมกว่า 10,000 คลิป
นอกจากบริการฟังเพลงแล้ว Apple Music ยังมีฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า Connect สำหรับติดตามความเคลื่อนไหวของศิลปินคนโปรด ไม่ว่าจะเป็น ซิงเกิลใหม่ล่าสุด, เบื้องหลัง MV และสามารถคอมเมนต์ได้ โดยศิลปินจะเป็นคนตอบด้วยตนเอง
Beats 1 สถานีวิทยุรายการสดของแอปเปิล ซึ่งดำเนินรายการ นำโดย DJ Zane Lowe อดีตดีเจจากสถานีวิทยุ BBC และดีเจชื่อดังอีกหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น Ebro Darden และ Julie Adenuga นอกจากนี้ ยังมีสัมภาษณ์พิเศษจากแขกรับเชิญคนดังอีกด้วย โดยรองรับกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
สำหรับค่าบริการ Apple Music อยู่ที่ $9.99 ต่อเดือน หรือราวๆ 330 บาท และโปรโมชั่นแบบครอบครัว อยู่ที่ $14.99 ต่อเดือน หรือราวๆ 500 บาท สามารถใช้งานได้สูงสุด 6 คน นอกจากนี้ ยังมีเวอร์ชันทดลอง ให้ใช้งานฟรีนาน 3 เดือน โดย Apple Music จะเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
นอกจาก Apple Music จะรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ของตนเอง ทั้ง iPhone, iPad, iPod Touch, Mac และ Apple Watch แล้ว ยังรองรับการใช้งานบน PC และ Android อีกด้วย โดยบนระบบปฏิบัติการ Android จะเปิดให้บริการในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้
---------------------------------------
บทความโดย : techmoblog.com
Update : 09/07/2015
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |