หลังจากที่มีรายงานปัญหาหลังอัปเดต iOS 13.2 เกี่ยวกับการทำงานแบบเบื้องหลัง (Background Mode) ที่ส่งผลทำให้แอปฯ ปิดการทำงานเองเมื่อสลับไปใช้งานแอปฯ อื่น ล่าสุด Apple ได้ออกอัปเดต iOS 13.2.2 และ iPadOS 13.2.2 แก้ปัญหาดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงแก้ปัญหาในเรื่องอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
สำหรับคุณสมบัติที่ได้รับการแก้ไขบน iOS 13.2.2 ได้แก่
- แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้แอปฯ ถูกปิดอย่างกระทันหันเมื่อทำงานอยู่เบื้องหลัง
- แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้ iPhone สูญเสียบริการเซลลูลาร์เป็นการชั่วคราวหลังการโทร
- จัดการปัญหาที่อาจทำให้ไม่สามารถใช้งานข้อมูลเซลลูลาร์ได้ชั่วคราว
- แก้ไขปัญหาที่ทำให้การตอบกลับข้อความอีเมลที่เข้ารหัสของ S/MIME ระหว่างบัญชี Exchange ไม่สามารถอ่านได้
- จัดการปัญหาที่อาจทำให้การใช้บริการการลงชื่อเข้าระบบครั้งเดียวของ Kerberos ใน Safari แสดงการแจ้งการตรวจสอบสิทธิ์
- แก้ไขปัญหาที่อาจขัดจังหวะการชาร์จบนอุปกรณ์เสริมที่ใช้งาน YubiKey Lightning
อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 13.2.2 และ iPadOS 13.2.2
- iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max
- iPhone 11
- iPhone XS, iPhone XS Max
- iPhone XR
- iPhone X
- iPhone 8, iPhone 8 Plus
- iPhone 7, iPhone 7 Plus
- iPhone 6s, iPhone 6s Plus
- iPhone SE
- iPad รุ่นที่ 7
- iPad รุ่นที่ 6
- iPad รุ่นที่ 5
- iPad Air รุ่นที่ 3
- iPad Air รุ่นที่ 2
- iPad mini รุ่นที่ 5
- iPad mini รุ่นที่ 4
- iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 3
- iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 2
- iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 1
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว
- iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว
- iPad Pro รุ่น 9.7 นิ้ว
- iPod Touch รุ่นที่ 7
โดยผู้ใช้ iPhone และ iPad ที่มีรายชื่อข้างต้น สามารถอัปเดต iOS 13.2 ได้ผ่านทาง OTA ด้วยการเข้าไปที่ Settings > General > Software Update
-------------------------------------
ที่มา : iclarified.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 08/11/2019
iOS 13.2.2
iPadOS 13.2.2