หลังจากที่ Apple ได้ปล่อยอัปเดต iOS 13.2.3 ไปเมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุด ได้ปล่อยอัปเดตใหญ่อย่าง iOS 13.3 และ iPadOS 13.3 อย่างเป็นทางการตามคาดแล้ว ซึ่งอัปเดตนี้นอกจากจะเป็นการแก้บั๊กที่เกิดขึ้นจากเวอร์ชันก่อนหน้าแล้ว ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ นั่นก็คือ Communication Limits สำหรับแอปฯ Screen Time ที่สามารถจำกัดคนที่จะติดต่อสื่อสารในขณะที่เปิดใช้งาน Screen Time ได้แล้ว, ไอคอน Apple Watch เปลี่ยนสีตรง Digital Crown จากสีดำเป็นสีเทา รวมถึงเพิ่มการตั้งค่าปิด Animoji และ Memoji ที่คีย์บอร์ด ด้วยการเข้าไปที่ Settings > General > Keyboard > Emoji และอื่น ๆ อีกมากมาย
ฟีเจอร์และของเล่นใหม่บน iOS 13.3 มีอะไรบ้าง ?
เวลาหน้าจอ (Screen Time)
- การควบคุมโดยผู้ปกครองแบบใหม่มีข้อจำกัดการสื่อสารเพิ่มขึ้นสำหรับคนที่บุตรหลานสามารถโทรหา โทร FaceTime หรือส่งข้อความได้
- รายชื่อติดต่อสำหรับบุตรหลานช่วยให้ผู้ปกครองจัดการรายชื่อที่แสดงบนอุปกรณ์ของบุตรหลานของตน
หุ้น (Stocks)
- อ่านต่อด้วยลิงก์ที่ไปยังเรื่องราวที่เกี่ยวข้องหรือเรื่องราวเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวเดียวกัน
รายการอัปเดตอื่น ๆ
- เปิดใช้งานการสร้างคลิปวิดีโอใหม่เมื่อตัดต่อวิดีโอในแอปรูปภาพ
- เพิ่มการรองรับกุญแจความปลอดภัยที่ตรงตามมาตรฐาน NFC, USB และ Lightning FIDO2 ใน Safari
- แก้ไขปัญหาในแอปเมลที่อาจทำให้ไม่สามารถดาวน์โหลดข้อความใหม่ได้
- จัดการปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถลบข้อความในบัญชี Gmail ได้
- แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้แสดงตัวอักษรไม่ถูกต้องในข้อความและทำให้ข้อความที่ส่งไปแล้วถูกทำซ้ำในบัญชี Exchange
- แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้เคอร์เซอร์ไม่เคลื่อนที่หลังจากกดปุ่ม Space bar ค้างไว้
- จัดการปัญหาที่อาจทำให้ภาพถ่ายหน้าจอเบลอเมื่อส่งผ่านแอปข้อความ
- แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้การครอบตัดหรือการใช้การทำเครื่องหมายบนภาพถ่ายหน้าจอไม่บันทึกไปยังแอปรูปภาพ
- แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้ไม่สามารถแชร์เสียงบันทึกในแอพเสียงบันทึกกับแอปเพลงแอปอื่นๆ ได้
- จัดการปัญหาที่อาจทำให้ป้ายกำกับสายที่ไม่ได้รับบนแอปโทรศัพท์ไม่ชัดเจน
- แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้การตั้งค่าข้อมูลเซลลูลาร์แสดงอย่างไม่ถูกต้องเป็นปิด
- แก้ไขปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถปิดใช้โหมดมืดได้เมื่อการกลับสีแบบอัจฉริยะเปิดใช้งานอยู่
- จัดการปัญหาที่อาจทำให้ที่ชาร์จไร้สายบางประเภทชาร์จได้ช้ากว่าที่คาดไว้
นอกเหนือจาก iOS 13.3 แล้ว Apple ยังได้ปล่อยอัปเดต iOS 12.4.4 สำหรับ iPhone และ iPad รุ่นเก่า อย่าง iPhone 5S, iPhone 6, iPad Air, iPad mini 2, iPad mini 3 และ iPod Touch Gen 6 ด้วยเช่นกัน ซึ่งเน้นปรับปรุงด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย
อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 13.3 และ iPadOS 13.3
- iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max
- iPhone 11
- iPhone XS, iPhone XS Max
- iPhone XR
- iPhone X
- iPhone 8, iPhone 8 Plus
- iPhone 7, iPhone 7 Plus
- iPhone 6s, iPhone 6s Plus
- iPhone SE
- iPad รุ่นที่ 7
- iPad รุ่นที่ 6
- iPad รุ่นที่ 5
- iPad Air รุ่นที่ 3
- iPad Air รุ่นที่ 2
- iPad mini รุ่นที่ 5
- iPad mini รุ่นที่ 4
- iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 3
- iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 2
- iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 1
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว
- iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว
- iPad Pro รุ่น 9.7 นิ้ว
- iPod Touch รุ่นที่ 7
โดยผู้ใช้ iPhone และ iPad ที่มีรายชื่อข้างต้น สามารถอัปเดต iOS 13.3 ได้ผ่านทาง OTA ด้วยการเข้าไปที่ Settings > General > Software Update
-------------------------------------
ที่มา : macrumors.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 11/12/2019
iOS 13.3
iPadOS 13.3