หลังจากมีผู้ค้นพบว่า Apple ได้ปรับการทำงานของ iPhone รุ่นเก่าที่แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมให้ทำงานได้ช้าลง จากการทดสอบด้วย Benchmark และพบว่า หลังจากเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วได้คะแนนการทดสอบที่เพิ่มขึ้นนั้น ล่าสุด Apple ได้ออกมายอมรับแล้วว่า ตั้งใจปรับการทำงานของ iPhone รุ่นเก่าจริง แต่ทำไปเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน iPhone ได้ราบรื่นขึ้น และแก้ปัญหาเครื่องดับเอง
(ซ้าย) ก่อนเปลี่ยนแบตเตอรี่ (ขวา) หลังเปลี่ยนแบตเตอรี่
โดยเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีนักพัฒนาเผยผลการทดสอบ Benchmark เปรียบเทียบระหว่าง iPhone 6S ก่อนและหลังเปลี่ยนแบตเตอรี่ ซึ่งพบว่า หลังจากเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว ได้คะแนนการทดสอบที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว และมีผู้ใช้ iPhone รุ่นเก่าอีกหลายรายที่ได้ผลการทดสอบในทำนองนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งเบื้องต้นคาดกันว่า Apple น่าจะปรับการทำงานของ iPhone รุ่นเก่าที่แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมให้ทำงานได้ช้าลง เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องดับ เนื่องจากแบตเตอรี่ที่เริ่มเสื่อมสภาพนั้น จะมีประสิทธิภาพในการจ่ายไฟที่น้อยลง ซึ่งส่งผลทำให้ iPhone รุ่นเก่าเครื่องดับเองเนื่องจากไฟไม่เพียงพอ
และล่าสุด Apple ได้ออกมายอมรับแล้วว่า มีการปรับลดประสิทธิภาพการทำงานของ iPhone รุ่นเก่าที่แบตเริ่มเสื่อมจริง ซึ่งสาเหตุที่ต้องทำเช่นนั้น ไม่ใช่ต้องการเร่งให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปซื้อ iPhone เครื่องใหม่ที่มีการประมวลผลที่ดีกว่า แต่เป็นเพราะต้องการทำให้ประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมดีขึ้น และใช้งานให้ได้นานที่สุด เนื่องจากแบตเตอรี่แบบ Lithium-Ion ยิ่งแบตเตอรี่ถูกใช้เป็นระยะเวลานาน ๆ ประสิทธิภาพในการเก็บประจุไฟจะน้อยลง ซึ่งส่งผลทำให้ตัวเครื่องปิดตัวเองแบบไม่ตั้งใจ
นอกจากนี้ Apple ยังเผยอีกด้วยว่า ในปีที่ผ่านมา ได้ออกอัปเดตบน iPhone รุ่นเก่าอย่าง iPhone 6, iPhone 6S และ iPhone SE เพื่อป้องกันไม่ให้ปิดเครื่องเองเมื่อเจอสภาวะดังกล่าว รวมถึงใน iOS 11.2 ก็มีอัปเดตป้องกันสำหรับ iPhone 7 รวมถึงอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในอนาคตอีกด้วย
---------------------------------------
ที่มา : theverge.com , 9to5mac.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 22/12/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |