ดูเหมือนว่าในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่งานเข้า Apple อย่างต่อเนื่องเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อก่อนหน้านี้ Apple ถูกผู้ใช้ iPhone จำนวนหนึ่งยื่นฟ้องกรณีลดประสิทธิภาพของ iPhone ลงเมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมโดยที่ไม่แจ้งให้ผู้ใช้ทราบ เรียกได้ว่า คดีเก่ายังไม่จบ ก็มีคดีใหม่ขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อล่าสุด Apple ถูกผู้ใช้ยื่นฟัองหลังจากมีการพบช่องโหว่ Meltdown และ Spectre ทั้งบน iOS และ macOS ซึ่งระบุว่า Apple ทราบเรื่องช่องโหว่ดังกล่าวมาก่อนแล้ว แต่กลับปกปิดข้อมูลและไม่ชี้แจงให้กับผู้ใช้ได้รับทราบ
Anthony Bartling และ Jacqueline Olson ได้ตัดสินใจยื่นฟ้อง Apple ที่ศาลในเมือง San Jose ในนามของผู้ใช้ทุกคนที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่ใช้ชิปเซ็ต ARM ตั้งแต่ชิปเซ็ต Apple A4 จนถึงชิปเซ็ต Apple A11 Bionic บน iPhone รุ่นปัจจุบัน
โดยทั้งคู่ให้เหตุผลว่า Apple ได้รับทราบปัญหาเรื่องช่องโหว่ Meltdown และ Spectre อย่างน้อยก็ในช่วงเดือนมิถุนายน 2017 เนื่องจากทาง ARM Holdings PLC ซึ่งเป็นบริษัทที่ออกใบอนุญาตลิขสิทธิ์ของสถาปัตยกรรม ARM ของ Apple ได้ออกมายอมรับว่า ได้รับทราบข้อมูลช่องโหว่ดังกล่าวจาก Project Zero ของ Google และได้แจ้งเตือนไปยังผู้ออกแบบชิปเซ็ตหลายราย ซึ่งรวมถึง Apple ทันทีตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2017 ฉะนั้น ในความเป็นจริงแล้ว Apple ควรจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้กับผู้ใช้ได้ทราบนับจากนั้น แต่กลับปกปิดข้อมูล
นอกจากนี้ ทั้ง Anthony Bartling และ Jacqueline Olson ยังเผยอีกว่า แทบจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ Apple จะออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ Meltdown และ Spectre โดยไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของตัวเครื่อง ตามที่ Apple ได้เคยออกมาเผยก่อนหน้านั้น
สำหรับการยื่นฟ้อง Apple ในครั้งนี้ คาดกันว่า จะมีผู้ใช้อย่างน้อย 100 คนเข้าร่วมการฟ้องร้องในครั้งนี้ด้วย และถ้าหาก Apple แพ้คดีจะต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี สื่อท้องถิ่นอย่าง Hamodia เผยว่า Apple จะไม่โดนฟ้องร้องเพียงแค่บริษัทเดียวเท่านั้น แต่ Intel และ ARM ที่ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่ Meltdown และ Spectre ก็ส่อแววถูกฟ้องด้วยเช่นกัน
---------------------------------------
ที่มา : macrumors.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 16/01/2018
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |