อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะเปิดภายในงาน กับ Apple Watch ซึ่งรุ่นสานต่อนี้ ใช้ชื่อว่า Apple Watch Series 2 ที่ถึงแม้จะมาพร้อมกับดีไซน์เดิม แต่ภายในยกเครื่องแบบปรับปรุงครั้งใหญ่ แถมด้วยฟีเจอร์ที่หลาย ๆ คนรอคอย มาดูกันดีกว่าว่า Apple Watch Series 2 รุ่นนี้ น่าใช้กว่ารุ่นเดิมขนาดไหน
เพิ่มคุณสมบัติด้านการกันน้ำที่ระดับ 50 เมตร สามารถใส่ว่ายน้ำได้
ปกติแล้ว Apple Watch รุ่นแรก ก็มีคุณสมบัติด้านการกันน้ำอยู่แล้ว แต่เป็นการกันน้ำในระดับ Splash Proof หรือลักษณะน้ำกระเซ็นเท่านั้น แต่ Apple Watch Series 2 เป็นการกันน้ำระดับ Swim Proof ในระดับน้ำลึก 50 เมตร สามารถใส่ว่ายน้ำ, เล่นกระดานโต้คลื่นได้สบาย ๆ
ลำโพงออกแบบใหม่ กันน้ำได้ดีเยี่ยม
เนื่องจาก Apple Watch Series 2 เพิ่มคุณสมบัติใหม่ด้านการกันน้ำ ทำให้ดีไซน์ภายในต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อป้องกันน้ำเข้า โดยลำโพงบน Apple Watch Series 2 ได้มีการออกแบบใหม่ ให้สามารถกันน้ำได้ และขับน้ำออกได้ในตัวด้วยการสั่นของลำโพง
ระบบ GPS ในตัว
ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ต่างรอคอย เมื่อ Apple Watch Series 2 มีระบบ GPS ในตัว สามารถบันทึกระยะทาง และข้อมูลการออกกำลังกายต่าง ๆ เช่น การวิ่ง, การเดิน, การขี่จักรยาน โดยที่ไม่ต้องพก iPhone ไป นอกจากนี้ ยังสามารถกลับมาดูข้อมูลต่าง ๆ ภายหลังออกกำลังเสร็จแล้วได้อีกด้วย
ชิปเซ็ต Apple S2 รุ่นที่สอง ประมวลผลเร็วกว่าเดิม 2 เท่า
Apple Watch Series 2 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple S2 รุ่นที่สอง แบบ Dual-Core Processor ประมวลผลได้เร็วขึ้น 50% พร้อมกับปรับปรุงการแสดงผลด้านกราฟิก ดีกว่าเดิมถึง 2 เท่า
จอภาพสว่างขึ้น 2 เท่า
นอกจากด้านการประมวลผลแล้ว ในด้านการแสดงผลยังได้ปรับปรุงใหม่ ด้วยจอภาพที่สว่างถึง 1,000 nits สว่างกว่าเดิม 2 เท่า สามารถมองเห็นได้ง่ายแม้ใช้งานท่ามกลางแสงจ้า
ทำงานบนระบบปฏิบัติการ WatchOS 3
สำหรับ WatchOS 3 นั้น มีการอัปเกรดฟีเจอร์ใหม่ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น หน้าปัดนาฬิกาที่มีให้เลือกมากขึ้น, Dock เพิ่มเข้ามาใหม่, เพิ่มแอปฯ Breath สำหรับฝึกการหายใจเข้าออก, แอปฯ Activity สามารถแชร์, แข่งขัน หรือเปรียบเทียบกับเพื่อน ๆ ได้
>> อ่านเพิ่มเติม ฟีเจอร์เด่นบนระบบปฏิบัติการ WatchOS 3
จับมือกับ Nike เปิดตัว Apple Watch Nike+
สำหรับสาวกแบรนด์ Nike ล่าสุด แอปเปิล ได้จับมือพร้อมกับเปิดตัว Apple Watch Nike+ ดีไซน์สปอร์ตหรู ซึ่งสายนาฬิกานั้น ผลิตจาก Fluoroelastomer ที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นแบบเดียวกับ Apple Watch Sport Band แต่โดดเด่นกว่าด้วยการเจาะรูเพื่อการระบายอากาศ และการจัดการเหงื่อที่ดีขึ้น น้ำหนักเบา มีให้เลือกถึง 4 สีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ/Volt, สีดำ/สีเทาโทนเย็น, สีเงิน/สีขาว และ สีเงิน/Volt ซึ่งสาย Nike Sport Band จะไม่มีวางจำหน่ายแยกต่างหาก ต้องซื้อพร้อม Apple Watch Nike+ เท่านั้น
นอกจากนี้ Apple Watch Nike+ ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันพิเศษ นั่นก็คือ Nike+ Run Club ซึ่งจะเป็นแอปฯ ที่รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ พร้อมกับแจ้งเตือน ทั้งการวิ่ง, แสดงสภาพอากาศ, ข้อมูลการฝึกซ้อม, ระยะทาง และอัตราการเต้นของหัวใจ
ส่วนสเปกของ Apple Watch Nike+ เหมือนกับ Apple Watch Series 2 ทั้งการกันน้ำ, ระบบ GPS ในตัว, ชิปเซ็ตแบบ Dual-Core และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Watch OS 3 มีให้เลือก 2 ขนาดหน้าจอคือ 38 มม. และ 42 มม.
Apple Watch Series 2 รุ่น Edition ตัวเรือนเซรามิกสีขาว
สำหรับ Apple Watch Series 2 รุ่น Edition ที่เป็นตัวเรือนเซรามิกสีขาวนั้น จะมีความแข็งแกร่งกว่า Stainless Steel ถึง 4 เท่า แต่มีน้ำหนักเบา โดยมีสเปกเหมือนกับ Apple Watch Series 2 มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 38 มม. ราคา 47,500 บาท และ 42 มม. ราคา 49,500 บาท
ราคา และกำหนดการวางจำหน่าย Apple Watch Series 2 และ Apple Watch Nike+
สำหรับราคาของ Apple Watch Series 2 และ Apple Watch Nike+ เริ่มต้นเท่ากันอยู่ที่ $369 ราคาไทยอยู่ที่ 13,900 บาท เปิดพรีออเดอร์ในวันที่ 9 กันยายน และวางจำหน่ายปลายเดือนตุลาคมนี้ ในประเทศออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, แคนาดา, จีน, คอสฅาริก้า, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, อินเดีย, ไอร์แลนด์, อิสราเอล, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ลักเซมเบิร์ก, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, เปอร์โตริโก, สิงคโปร์, สเปน, สวีเดน, สวิสเซอร์แลนด์, ไต้หวัน, UAE, สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ
ส่วนกำหนดการวางจำหน่ายในไทย ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่คาดว่า ช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ น่าจะมีข่าวดีกันครับ
---------------------------------------
บทความโดย : techmoblog.com
Update : 08/09/2016
Apple Watch Series 2 Apple Watch Nike+ Apple Watch Series 2 รุ่น Edition
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |