เปิดตัว Apple Watch Series 4 รุ่นใหม่ จอใหญ่กว่าเดิม พร้อมรองรับการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจและตรวจจับการล้ม จำหน่าย 21 ก.ย.นี้ เริ่มต้นที่ 13,200 บาท

เปิดตัวอย่างเป็นทางการตามคาดแล้ว สำหรับ Apple Watch Series 4 นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งรุ่นนี้มีการปรับดีไซน์ใหม่ ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 30% และยังเป็นจอแบบชิดขอบ โดยมีทั้งหมด 2 ขนาด ได้แก่ 40 มม. และ 44 มม. นอกจากนี้ ยังเพิ่มตัวเรือนสีใหม่ นั่นก็คือ สีทอง พร้อมกับอัปเกรดความสามารถด้านสุขภาพ ทั้งคุณสมบัติในการตรวจจับการล้มอย่างรุนแรง รวมถึงสามารถวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ได้โดยตรงผ่านแอปฯ​อีกด้วย

มาดูกันดีกว่าว่า Apple Watch Series 4 รุ่นนี้ มีฟีเจอร์และความน่าสนใจอย่างไรบ้าง

Apple Watch Series 4 มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 40 มม. และ 44 มม.

สำหรับดีไซน์ของ Apple Watch Series 4 แม้ว่าจะคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า แต่ได้รับการปรับปรุงให้มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 30% ด้วยการปรับขนาดขอบจอให้เล็กลง เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ด้านการโทร, การใช้ Siri, Walkie-Talkie รวมถึงย้ายตำแหน่งของไมโครโฟนเพื่อลดเสียงสะท้อน และทำให้มีคุณภาพเสียงดีขึ้นอีกด้วย

ในด้านดีไซน์นั้น ด้านหลังของ Apple Watch Series 4 ทำมาจากเซรามิกสีดำและผลึกแซฟไฟร์ ที่ช่วยทำให้การส่งผ่านคลื่นวิทยุระหว่างด้านหน้าและด้านหลังทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม ส่งผลทำให้การทำงานของระบบ Cellular ลื่นไหลมากขึ้น

ชิป S4 ประมวลผลได้เร็วกว่าเดิม 2 เท่า

Apple Watch Series 4 มาพร้อมกับชิป S4 แบบ Dual-Core (64-bit) ประมวลผลได้เร็วกว่าเดิม 2 เท่า และยังคงประหยัดพลังงานเหมือนเดิม ซึ่งแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวัน

อินเทอร์เฟสบนหน้าปัดใหม่ ฟอนต์ใหญ่ขึ้น อ่านได้ง่ายขึ้น

ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ทำให้อินเทอร์เฟสบน Apple Watch Series 4 มีการปรับใหม่ จึงสามารถแสดงไอคอน, แอปพลิเคชัน และฟอนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและอ่านได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มหน้าปัดแบบ Infograph ที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจ รวมถึงเพิ่มชุดหน้าปัดนาฬิกาแบบเคลื่อนไหวได้ ประกอบด้วย ไอระเหย, โลหะเหลว, ไฟ และน้ำ

สามารถอ่านค่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ได้จาก Apple Watch Series 4

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจบน Apple Watch Series 4 ก็คือ ผู้ใช้สามารถอ่านค่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้โดยตรงผ่านแอปพลิเคชัน ECG ด้วยการใช้ประโยชน์จากการเพิ่มขั้วไฟฟ้าลงในปุ่ม Digital Crown โดยตัวเซ็นเซอร์จะอยู่ด้านหลังตัวเรือนที่ครอบด้วยฝาแซฟไฟร์อีกชั้น วิธีการใช้งานก็คือ ให้สัมผัสปุ่ม Digital Crown ประมาณ 30 วินาที ตัวแอปฯ จะแสดงผลวิเคราะห์การเต้นของหัวใจว่า อัตราการเต้นของหัวใจของผู้ใช้อยู่ในระดับปกติ หรือมีสัญญาณผิดปกติ นอกจากนี้ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมเก็บไว้ในแอปฯ สุขภาพในรูปแบบของไฟล์ PDF ที่สามารถแชร์กับแพทย์ได้อีกด้วย

Apple Watch Series 4 สามารถตรวจจับการล้มได้

บน Apple Watch Series 4 สามารถวัดการล้มได้สูงสุด 32 แรงจี พร้อมกับส่งการแจ้งเตือนหาผู้ใช้หลังการล้ม พร้อมคำแนะนำในการเลือกโทรหาหน่วยบริการฉุกเฉินได้ทันทีอีกด้วย แต่ถ้าหาก Apple Watch ตรวจพบว่า หลังจากที่ผู้ใช้ล้มและไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลา 60 วินาทีหลังจากมีการแจ้งเตือน Apple Watch จะทำการโทรหาหน่วยบริการฉุกเฉินอัตโนมัติ พร้อมกับส่งข้อความระบุตำแหน่งของผู้ใช้ ไปยังผู้ติดต่อฉุกเฉินของผู้ใช้อีกด้วย

ฟีเจอร์อื่น ๆ บน Apple Watch Series 4

• ปุ่ม Digital Crown สามารถตอบสนองแบบสั่นได้แล้ว
• ลำโพงดังขึ้น 50%
• watchOS 5 เพิ่มการออกกำลังกายประเภทใหม่ ได้แก่ โยคะและปีนเขา พร้อมกับติดตามการเผาผลาญแคลอรี่ที่ใช้และระยะเวลาการออกกำลังกายอย่างแม่นยำ
• Walkie-Talkie รูปแบบใหม่ของการสื่อสารด้วยเสียงเพียงแค่สัมผัสที่ข้อมือแล้วคุย ด้วยการเชื่อมต่อแบบ watch-to-watch ระหว่าง Apple Watch ผ่านเครือข่าย Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือ นอกจากนี้ แอปฯ Walkie-Talkie บน Apple Watch จะแสดงรายชื่อเพื่อนที่โทรออก, ส่งข้อความ หรืออีเมลหากันบ่อย ๆ
• รองรับ Apple Podcasts
• Siri อัปเดตใหม่ให้ใช้งานได้ราบลื่นขึ้นซึ่งหน้าปัดจะมีการใช้ Machine Learning เรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้เพื่อให้แสดงข้อมูลและทางลัดเข้าสู่การใช้งานตามที่ผู้ใช้ต้องการได้ ยกตัวอย่างเช่น อัตราการเต้นของหัวใจภายหลังออกกำลังกาย, เวลาที่ใช้เดินทางด้วยแอปฯ แผนที่ หรืออาจจะเป็นคะแนนการแข่งขันกีฬาของทีมโปรด เป็นต้น
• บน watchOS 5 จะช่วยทำให้ Apple Watch เปลี่ยนร่างเป็นบัตรประจำตัวนักศึกษาได้ เพียงแค่ยกข้อมือขึ้นแตะ รวมถึงสามารถเข้าไปใช้บริการตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ห้องสมุด, หอพัก, จ่ายค่าซักรีด, ค่าอาหารได้ทั่ววิทยาเขต

ราคาและวันวางจำหน่าย Apple Watch Series 4

Apple Watch Series 4 มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 40 มม. และ 44 มม. โดยตัวเรือนอะลูมิเนียม มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Silver, Gold และ Space Gray ส่วนตัวเรือน Stainless Steel มีให้เลือกทั้งหมด 3 สีเช่นกัน ได้แก่ Silver, Gold และ Space Black ซึ่งสายนาฬิกาของรุ่นก่อน สามารถนำมาใช้กับ Apple Watch Series 4 ได้เช่นกัน

สำหรับราคาของ Apple Watch Series 4 เริ่มต้นที่ $399 (ประมาณ 13,200 บาท) สำหรับรุ่น GPS และเริ่มต้นที่ $499 (ประมาณ 16,900 บาท) สำหรับรุ่น LTE เปิดพรีออเดอร์วันที่ 14 กันยายนนี้ และวางจำหน่ายวันแรกในวันที่ 21 กันยายน 2018

ส่วน Apple Watch Series 4 จะเริ่มวางจำหน่ายในไทยเมื่อใดนั้น ทีมงานจะอัปเดตให้ทราบกันอีกครั้ง

-------------------------------------
เรียบเรียงข้อมูลโดย : techmoblog.com

Update : 13/09/2018

Apple Watch Series 4