ASUS ถือว่าเป็นแบรนด์ผู้ผลิตโน้ตบุ๊คที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คให้เลือกมากมายหลายรุ่น ตามลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าเป็นโน้ตบุ๊คดีไซน์บางเบาอย่างซีรี่ส์ VivoBook, โน้ตบุ๊คสายทำงานระดับโปรอย่างซีรี่ส์ ZenBook รวมถึงเกมมิ่งโน้ตบุ๊คระดับเทพอย่างตระกูล ROG เรียกได้ว่า ใครที่กำลังจะซื้อโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่สักรุ่น จะต้องมีชื่อของแบรนด์ ASUS เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน และที่สำคัญ โน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ ๆ ยังใช้ชิปประมวลผล 10th Gen Intel® Core™ รุ่นล่าสุดอีกด้วย
โดยบทความนี้ จะมาแนะนำโน้ตบุ๊ค ASUS รุ่นที่ใช้ซีพียู 10th Gen Intel® Core™ ทั้ง 3 ซีรี่ส์ ซึ่งมีทั้งโน้ตบุ๊คระดับเริ่มต้น, โน้ตบุ๊คสำหรับสายทำงาน และโน้ตบุ๊คสำหรับเกมเมอร์ มาดูกันดีกว่าว่า แต่ละรุ่นจะมีสเปกและตอบโจทย์ต่อการใช้งานอย่างไร
ASUS ROG Strix SCAR 17
เห็นรูปลักษณ์ข้างต้น คงจะคาดเดากันได้ไม่ยากว่า ASUS ROG Strix SCAR 17 รุ่นนี้ เป็น Gaming Notebook อย่างแน่นอน เพราะจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ คีย์บอร์ดไฟหลากสีด้วยเทคโนโลยี AuraRGB ที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ ROG อีกทั้งยังมีไฟแบบ Light Bar ทั้งด้านหน้า, ด้านซ้าย และด้านขวา ซึ่งไฟ RGB เหล่านี้สามารถปรับแต่งแสงสีได้ผ่านทางซอฟท์แวร์ AURA Creator
นอกเหนือจากดีไซน์ที่โดดเด่นแล้ว ยังมาพร้อมกับสเปกแบบจัดเต็มสมชื่อ Gaming Notebook เลยก็ว่าได้ โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel® Core™ i9-10980HK, ชิปกราฟิก NVIDIA® GeForce® RTX 2080 SUPER™ ขนาด 8GB GDDR6 VRAM, หน่วยความจำ RAM ขนาด 16 GB แบบ DDR4 3200MHz และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ขนาด 512 GB + SSD ขนาด 512 GB (รองรับ RAID 0)
ชิปเซ็ต Intel® Core™ H-Series เป็นโปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพในระดับเดสก์ท็อป เหมาะสำหรับการเล่นเกม และการทำคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่ต้องการการประมวลผลในระดับสูง ซึ่ง Intel® Core™ i9-10980HK ที่ใช้บน ASUS ROG Strix SCAR 17 รุ่นนี้ ถือว่าเป็นโปรเซสเซอร์ตัวท็อปแบบ 8 Cores 16 Threads ประมวลผลได้เร็วสูงสุดที่ 5.3 GHz โดยตัวอักษร HK นั้น สื่อถึงรุ่นที่สามารถปรับแต่งประสิทธิภาพของทั้ง CPU และ GPU ได้ตามการใช้งานนั่นเอง
โดยประสิทธิภาพของชิปประมวลผล Intel® Core™ i9-10980HK เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์รุ่นเก่าที่มีอายุ 3 ปี แตกต่างกันดังนี้
สำหรับหน้าจอแสดงผล เป็นจอภาพอัตรารีเฟรช 300Hz บนจอขนาด 17.3 นิ้ว แบบ IPS ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยเป็นดีไซน์ขอบจอบาง 3 ด้านคือ ด้านบน, ด้านซ้าย และด้านขวา ทำให้รุ่นนี้จำเป็นต้องตัดกล้อง Webcam ออกไป
ด้านแป้นพิมพ์ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งแถวแรกจะเป็นปุ่มแบบ Hot Keys เพื่อเข้าถึงการควบคุมระดับเสียงไมโครโฟน, โหมดพัดลม และ Armoury Crate สำหรับควบคุมประสิทธิภาพของเครื่อง อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี ROG Overstroke กดแป้นใช้งานแต่ละคีย์ได้เร็วขึ้น, เทคโนโลยี N-key Rollover กดแป้นพิมพ์ได้พร้อม ๆ กันหลายปุ่มโดยไม่มีผิดพลาด พร้อมระบบป้องกันคีย์ลั่น นอกจากนี้ แป้นพิมพ์ยังถูกออกแบบให้มีความทนทาน รองรับการกดได้มากกว่า 20 ล้านครั้งเลยทีเดียว
สำหรับไฟ RGB บนแป้นพิมพ์ ASUS ROG Strix SCAR 17 มาพร้อมกับเทคโนโลยี AuraRGB แบบ Per Key RGB ที่สามารถปรับแต่งเองสีสันแต่ละปุ่มเองได้ผ่านทางซอฟท์แวร์ AURA Creator หรือสามารถปรับสีสันของแป้นพิมพ์และรูปแบบของเล่นแสงสีได้ง่าย ๆ ด้วยการปุ่ม FN และปุ่มลูกศรซ้าย/ขวา
การเชื่อมต่อและระบบระบายความร้อน ถือว่าเป็นปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับเกมมิ่งโน้ตบุ๊ค ซึ่ง ASUS ROG Strix SCAR 17 รุ่นนี้ ใช้ชิป Wi-Fi 6 พร้อมเทคโนโลยี Gig+ (802.11ax) ทำให้สามารถเล่นเกมบนเครือข่ายไร้สายด้วยความเร็วที่เทียบเท่ากับการเสียบสาย LAN ส่วนระบบระบายความร้อน เป็นโลหะเหลวแบบ Liquid Metal ที่ช่วยลดอุณหภูมิของโปรเซสเซอร์ ทำให้สามารถเร่งประสิทธิภาพออกมาได้สูงสุด
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถือว่าเป็นจุดขายหลัก ๆ ของ ASUS ROG Strix SCAR 17 ก็คือ Keystone II ซึ่งเป็นกุญแจ NFC ที่บันทึกโปรไฟล์การตั้งค่าการใช้งานเฉพาะของผู้ใช้ ซึ่งรองรับฟีเจอร์ Shadow Drive โดยเป็นโฟลเดอร์สำหรับเก็บข้อมูลส่วนตัว และถูกเข้ารหัสไว้ ซึ่งจะเข้าถึงได้ก็ต่อเมื่อเสียบใช้งาน Keystone ตัวนี้เท่านั้น
สรุปแล้ว ASUS ROG Strix SCAR 17 รุ่นนี้ ถือว่าเป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊คที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง เพราะนอกจากจะมาพร้อมกับสเปกแบบจัดเต็มแล้ว ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเล่นเกม บนดีไซน์สวยหรูไม่เหมือนใคร ด้วยไฟ RBG บนแป้นพิมพ์และรอบตัวเครื่อง
โดย ASUS ROG Strix SCAR 17 จะมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นที่ 84,990 บาท รายละเอียดดังนี้
ASUS ZenBook Duo
สำหรับ ASUS ZenBook Duo ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊คสำหรับสายทำงานระดับมือโปรที่มีความโดดเด่นมากกว่ารุ่นอื่น ๆ เนื่องจากรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีหน้าจอในการใช้งานได้ถึง 2 หน้าจอ ประกอบด้วย หน้าจอหลักขนาด 14 นิ้วแบบสัมผัส และหน้าจอที่สองที่มีชื่อเรียกว่า ScreenPad Plus ขนาด 12.6 นิ้วแบบสัมผัส พร้อมรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา Stylus อีกด้วย
แม้จะเป็นโน้ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว แต่ขนาดตัวเครื่องจะเทียบเท่าโน้ตบุ๊ตจอ 13 นิ้วเท่านั้น เนื่องจากมาพร้อมกับขอบจอบางแบบ NanoEdge นั่นเอง ส่วนความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ระดับ Full HD แสดงสีได้เที่ยงตรงตามมาตรฐาน PANTONE Validated Display และ sRGB 100% ซึ่งถือว่าตอบโจทย์อย่างมากสำหรับการใช้งานด้านออกแบบ ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 1.5 กิโลกรัม พกพาไปใช้งานนอกบ้านได้อย่างคล่องตัว
สำหรับหน้าจอที่สอง มีชื่อเรียกว่า ScreenPad Plus จะอยู่ด้านล่างของหน้าจอหลัก และอยู่เหนือคีย์บอร์ด โดยมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 12.6 นิ้ว แบบสัมผัสเช่นเดียวกับหน้าจอหลัก และสามารถทำงานร่วมกับหน้าจอหลักได้อย่างไร้รอยต่อ
หน้าจอ ScreenPad Plus นั้น ถือว่ามีประโยชน์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การลากแถบเครื่องมือจากโปรแกรมในจอหลักไปยังจอ ScreenPad Plus ส่วนใครที่เป็นเกมแคสเตอร์ ก็ถือว่าตอบโจทย์อีกเช่นกัน เพราะสามารถใช้หน้าจอหลักในการเล่นเกม ส่วนหน้าจอ ScreenPad Plus ก็มีไว้พิมพ์โต้ตอบกับผู้ชม หรือสาย Content Creator ก็สามารถใช้จอ ScreenPad Plus สำหรับเปิดเครื่องมือจากโปรแกรมที่กำลังใช้งานอยู่ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเปิดโปรแกรมและแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้พร้อมกันสูงสุด 5 หน้าจอ โดยที่ไม่ต้องสลับหน้าต่างไปมา
นอกเหนือจากหน้าจอ ScreenPad Plus แล้ว สิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างของ ASUS ZenBook Duo ก็คือ บานพับแบบ ErgoLift ซึ่งจะทำการยกตัวเครื่องขึ้นเมื่อเปิดฝาพับ โดยจะเป็นองศาที่เหมาะสมสำหรับการวางมือเพื่อพิมพ์งาน อีกทั้งยังช่วยในการระบายความร้อนอีกด้วย
มาดูเรื่องของการประมวลผลกันบ้าง รุ่นนี้ใช้ชิปประมวลผล 10th Gen Intel® Core™ ซึ่งมีให้เลือกทั้งรุ่น Intel® Core™ i5-10210U และ Intel® Core™ i7-10510U, ชิปกราฟิก NVIDIA® GeForce® MX250, หน่วยความจำ RAM ขนาด 16 GB, พื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ SSD สูงสุด 1 TB และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6
และจากสเปกพร้อมฟีเจอร์การใช้งานในข้างต้น ถือว่า ASUS ZenBook Duo เป็นโน้ตบุ๊คที่ตอบโจทย์สายทำงานอย่างแท้จริง โดยเฉพาะสายงานด้านกราฟิก รวมถึงงานตัดต่อ เพราะรุ่นนี้มาพร้อมกับซิปประมวลผล 10th Gen Intel® Core™ พร้อม RAM 16 GB รองรับการทำงานที่ต้องประมวลผลหนัก ๆ ได้อย่างสบาย ๆ อีกทั้งยังมีหน้าจอที่สองอย่าง ScreenPad Plus เป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน พร้อมดีไซน์ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก บนหน้าจอขนาด 14 นิ้ว
โดย ASUS ZenBook Duo มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย แตกต่างกันที่ชิปประมวลผล, ขนาดของ SSD และหน้าจอหลักแบบ Touch Screen เริ่มต้นที่ 34,990 บาท สรุปได้ดังนี้
ASUS VivoBook S15 (S533)
สำหรับ ASUS VivoBook S15 (S533) โดดเด่นในเรื่องของความเพรียวบาง น้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก พร้อมชิปประมวลผล 10th Gen Intel® Core™ บนดีไซน์สวยหรูด้วยขอบตัวเครื่องแบบ Diamond Cut และเล่นสีสันที่ปุ่ม Enter ด้วยไฮไลท์สีเหลือง ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานด้านพื้นฐาน, ดูหนังฟังเพลง, เล่นเกม รวมถึงงานประเภทตัดต่อได้อย่างสบาย ๆ
โดย ASUS VivoBook S15 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แบบ IPS Display ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล บนอัตราส่วนขนาด 16:9 ซึ่งเป็นหน้าจอแบบ NanoEdge Display ขอบจอบางพิเศษทั้ง 3 ด้าน ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่ 86% ส่วนตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 16.1 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.8 กิโลกรัม พกใส่กระเป๋าได้อย่างสบาย ๆ
นอกเหนือจากดีไซน์สวยหรูด้วยบอดี้ที่ทำจากโลหะแล้ว จุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ ปุ่ม Enter ดีไซน์ใหม่ที่มีการเล่นสีสันด้วยไฮไลท์สีเหลืองรอบปุ่มกด เห็นได้อย่างชัดเจน อีกทั้งแผงคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED ปรับได้ 3 ระดับสำหรับใช้งานในตอนกลางคืนหรือในที่แสงน้อย
ด้านการประมวลผล รุ่นนี้มาพร้อมกับชิป Intel® Core™ i5-1035G1 Processor, ชิปกราฟิก NVIDIA® GeForce® MX350, หน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ขนาด 512 GB อีกทั้งใช้ชิป Wi-Fi 6 พร้อมเทคโนโลยี Gig+ (802.11ax) ซึ่งให้ความเร็วเทียบเท่ากับการเสียบสาย LAN ทำให้ถ่ายโอนไฟล์ได้ไวขึ้น, วิดีโอคอลไม่สะดุด และเล่นเกมแบบออนไลน์ได้ดีขึ้นอีกด้วย
โดย ASUS VivoBook S15 มีให้เลือกมากถึง 4 สีด้วยกัน ได้แก่ Indie Black, Gaia Green, Resolute Red และ Dreamy White ซึ่งตัวเครื่องจะมีการติดตั้ง Windows 10 Home และ Microsoft Office มาให้แล้ว เคาะราคาที่ 25,990 บาท
เมื่อดูสเปกและคุณสมบัติในเบื้องต้นของทั้ง 3 รุ่น จะเห็นว่าแต่ละรุ่นตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไป ซึ่ง ASUS VivoBook S15 รุ่นนี้ จะเป็นโน้ตบุ๊ครุ่นคุ้มค่า ที่รองรับการใช้งานได้หลากหลาย ทั้งงานเอกสาร, เล่นเกมออนไลน์ รวมถึงงานตัดต่อในระดับเบื้องต้น อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไป จับต้องได้ง่ายขึ้น
แต่สำหรับคนที่มองหาโน้ตบุ๊คที่เน้นใช้งานแบบเฉพาะด้าน หรือสายงานระดับโปรมากขึ้น ASUS ZenBook Duo รุ่นนี้จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะนอกจากจะเป็นหน้าจอแบบสัมผัสแล้ว ยังรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา Stylus, มี ScreenPad Plus หน้าจอที่สอง อีกทั้งหน้าจอยังแสดงสีได้เที่ยงตรงตามมาตรฐาน PANTONE Validated Display และ sRGB 100% ใครที่ทำงานสายออกแบบน่าจะชื่นชอบในจุดนี้
ส่วนคนที่เน้นใช้งานด้านเล่นเกมโดยเฉพาะ ASUS ROG Strix SCAR 17 ราคาเฉียดแสนรุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์เกมเมอร์ระดับมืออาชีพที่ต้องการความแรงเหนือใคร เพราะรุ่นนี้ถือว่ามาพร้อมกับสเปกแบบจัดเต็มที่สุดเท่าที่ตัวเครื่องจะสามารถทำได้ ทั้งชิปประมวลผล Intel® Core™ i9, ชิปกราฟิก NVIDIA® GeForce® RTX 2080 SUPER™, หน่วยความจำ RAM ขนาด 16 GB, คีย์บอร์ดไฟ RGB ปรับแต่งได้ พร้อมปุ่ม Hot Keys แถมยังเป็นจอ 300Hz เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล สบายตาแน่นอน
**บทความนี้เป็น Advertorial
-------------------------------------
นำเสนอบทความโดย : techmoblog.com
Update : 05/10/2020
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |