[1-พฤศจิกายน-2555] หลังจากที่ทาง Asus ได้ สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการสมาร์ทโฟน ด้วยการพัฒนาสมาร์ทโฟน ที่สามารถเปลี่ยนร่างเป็น Tablet ได้ด้วยอุปกรณ์เสริมอย่าง Tablet Docking ซึ่งแน่นอนว่า กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังคิดไม่ตกว่า อยากจะเลือกซื้อ Tablet หรือ Smartphone ดี แล้วจะดีหรือไม่ ถ้าหากคุณสามารถซื้อทีเดียว แต่ได้ทั้ง Tablet และ Smartphone ไปพร้อมๆ กัน?
สำหรับ PadFone 2 นั้นมีความโดดเด่นในด้านดีไซน์มากขึ้น การเชื่อมต่อเข้ากับ Tablet Docking ก็สามารถทำได้ง่ายดาย อีกทั้งยังมีดีไซน์ของตัวเครื่องที่ดูทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากนี้ สเปคของเครื่องนั้นก็ถือว่าไม่เบาเลยทีเดียว และยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่มันแปลงร่างได้ ก็ทำให้ ประโยชน์ใช้สอยของเจ้า Asus PadFone 2 นั้น มากขึ้นไปอีกหลายเท่า ลองจินตนาการดูว่า เมื่อเวลาที่คุณต้องการจะออกไปข้างนอก คุณก็สามารถใช้งานเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรงได้อย่างสะดวกสบาย แต่เมื่อใดที่คุณอยู่บ้าน หรือเป็นเวลาที่คุณต้องการใช้งานด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น คุณก็เพียงแค่เสียบมันเข้ากับ Tablet Docking เท่านั้นเอง และในวันนี้ ทีมงานเว็บไซต์ Techmoblog ก็ได้นำเอา รีวิว PadFone 2 จากเว็บไซต์ต่างประเทศ มาให้ได้ชมกัน ลองมาดูกันว่า ทั้งประสิทธิภาพ และการใช้งานจริง จะเป็นอย่างไร
เรามาเร่ิมต้นกันที่ Spec ของตัวเครื่องในเบื้องต้นกันก่อนครับ โดย PadFone 2 นั้นจะมาพร้อมกับ ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon S4 Pro APQ8064 สถาปัตยกรรมแบบ 28 นาโนเมตร หน่วยประมวลผลความเร็ว 1.5 GHz แบบ Quad-Core นอกจากนี้ หน่วยความจำ (RAM) ในตัวเครื่อง ยังสูงถึง 2GB เลยทีเดียว และนอกจากสเปคของเครื่องที่ค่อนข้างสูงแล้ว กล้องดิจิตอลด้านหลังของตัวเครื่องในส่วนของสมาร์ทโฟน ยังมีความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซลอีกด้วย และสำหรับกล้องด้านหน้า ก็จะมีความละเอียดอยู่ที่ 1.2 ล้านพิกเซล
สำหรับตัวเครื่อง PadFone 2 ในไต้หวันนั้น จะมีความจุให้เลือกตั้งแต่ 16GB, 32GB และ 64GB แต่สำหรับในยุโรป จะมีเพียงแค่รุ่น 32GB และ 64GB เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังคงน่าเสียดายนิดหน่อยตรงที่คุณจะไม่สามารถเพิ่ม SD Card ภายนอกได้ครับ
สำหรับการเชื่อมต่อนั้น PadFone2 ก็จะรองรับทั้ง GPRS/EDGE/3G และ 4G LTE รวมไปถึง Bluetooth ก็จะเป็นเวอร์ชั่น 4.0 รองรับเทคโนโลยี NFC และ GPS นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานฟังวิทยุได้อีกด้วย
สำหรับในเรื่องของหน้าจอนั้น PadFone 2 จะใช้หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ Super IPS ซึ่งสีสันที่ได้จากการทดลองใช้นั้นถือว่า มีความสว่างมากกว่ารุ่นก่อนหน้าอยู่พอสมควร รวมถึงสีสันมีความสดมากกว่าเดิมอีกด้วย
ส่วนในเรื่องของ แบตเตอรี่ นั้นจะมีขนาดอยู่ที่ 2140 mAh เป็นแบบ Lithium polymer ซึ่งในรุ่นก่อนนั้นจะมีขนาดอยู่ที่ 1520 mAh โดยเมื่อแกะฝาหลังของตัวเครื่องจะพบกับข้อความเตือนว่า Please Don't Remove the Battery และแน่นอนครับ แกะฝาหลังออกแล้วก็ยังไม่พบวี่แววของ Slot SDCard
สำหรับ PadFone Station หรือ Tablet Docking นั้น จะมาพร้อมกับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 10.1 นิ้ว แบบ IPS LCD Display และมีความละเอียดอยู่ที่ 1,280 x 800 พิกเซล นอกจากนี้ในตัวมันเองยังมีแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh อยู่ภายใน ซึ่ง PadFone Station ตัวนี้ มีการใช้กำลังไฟที่น้อยลงกว่าเดิมพอสมควร นอกจากนี้ น้ำหนักของ PadFone Station ยังลดลงจากเดิม โดยมีน้ำหนักอยู่ที่เพียง 514 กรัมเท่านั้น ถือว่าลดลงจากเดิมกว่า 30 เปอร์เซ็นเลยทีเดียว (น้ำหนักของรุ่นเก่าอยู่ที่ 724 กรัม)
นอกจากนี้ PadFone Station หรือ Tablet Docking ตัวนี้ ต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์และออกแบบมามากกว่าปีครึ่ง เพื่อให้มั่นใจว่า จะมีความลงตัวกับ PadFone 2 ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความพอดี เมื่อเสียบตัวโทรศัพท์เข้ากับ Docking รวมไปถึง ดีไซน์ที่เหมาะสม เมื่อตัวโทรศัพท์ได้เชื่อมต่อกับ Docking แล้ว
นอกจากนี้ ตัว PadFone Station เองยังมาพร้อมกับลำโพงแบบ Mono LoudSpeaker ซึงเป็นลำโพงที่มีขนาดใหญ่กว่า Tablet ตัวอื่นๆ ในตลาดพอสมควร จึงทำให้เสียงที่ได้นั้นมีความคมชัด และ มีคุณภาพมากขึ้น แต่หากคุณต้องการงานร่วมกับ Headphones ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ทาง ASUS ยังได้เตรียม Accessory อย่าง Keyboard Dock ที่สามารถใช้งานร่วมกับ PadFone ได้ รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ ที่เป็น Port USB อย่าง KeyBoard และอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย จึงทำให้ PadFone นั้นมีความสามารถที่หลากหลายกว่าเดิมอย่างมากเลยทีเดียว
สำหรับ แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 4.0 Ice Cream Sandwich นั้นถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกออกแบบมาด้วยความผสมผสานกันระหว่าง Tablet และ Smartphone และแน่นอนว่า บน Asus PadFone 2 จะทำให้คุณใช้งานระบบปฏิบัติการ Android 4.0 Ice Cream Sandwich ได้อย่างเต็มที่มากทั้งสุด ทั้งในหน้าตาแบบ Smartphone ทั่วไป และ หน้าตาแบบ Tablet
ในเรื่องของ Interface นั้นก็จะเป็นเหมือนกับ สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทั่วๆ ไป และในส่วนของ Notification Bar ก็จะมีออปชั่นสำหรับการตั้งค่าเปิดปิด Wi-Fi, Mobile Data, Smart Saving,Instant Dictionary, Wi-Fi Hotspot, Bluetooth, GPS, Bibrate และ Auto-Rotate เรียกได้ว่า เปิดปิดกันได้อย่างสะดวกสบาย
นอกจากนี้ยังมี ฟังก์ชั่นควบคุมเกี่ยวกับ ระบบเสียง กับฟังก์ชั่น Audio Wizard ที่คุณจะสามารถเลือกรูปแบบเสียงที่ต้องการได้ ทั้ง รูปแบบเสียงสำหรับฟังเพลง, รูปแบบเสียงสำหรับการชมภาพยนตร์, เกม และ เสียงสนทนาเป็นต้น ซึ่งเมื่อคุณเสียบเข้ากับ PadFone Station ด้วยลำโพงที่มีขนาดใหญ่พิเศษ จะช่วยให้เสียงที่ได้มีความคมชัดและสมจริงมากขึ้น
ส่วนในเรื่องของ Application ต่างๆ ที่มากับเครื่อง ก็ถือว่าครบครัน ไม่ว่าจะเป็น แอพพลิเคชั่นสำหรับ อ่านไฟล์ Word, Excel, Powerpoint อย่าง Polaris Office 4.0 รวมไปถึง Service ของแอนดรอยด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Google Map, Gmail และอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้อีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Instant Dictionary ที่คุณสามารถเลือกแปลคำศัพท์ต่างๆ ได้โดยการจิ้มไปที่คำนั้นๆ ระบบก็จะแปลคำดังกล่าวให้ทันที โดยเราสามารถเปิดปิดฟังก์ชั่น Instant Dictionary ได้ตามต้องการ เมื่อไม่ต้องการที่จะใช้งาน โดย Instant Dictionary ในตอนนี้จะรองรับภาษา จีน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, เกาหลี, โปรตุเกส, รัสเซีย และ สเปน
และแน่นอนว่ายังคงมีแอพพลิเคชั่นมากมาย รอคุณอยู่ที่ Google Play Store รวมไปถึงการรองรับไฟล์วีดีโอที่ถือว่า ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น MP4/WMV/AVI ส่วนเมื่อติดตั้งแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม ก็จะสามารถรองรับไฟล์ MKV ด้วยความละเอียด FULL HD ได้อย่างสบาย จึงถือได้ว่า ซอฟต์แวร์ต่างๆที่มากับ PadFone 2 ถือว่าครบครัน และหากต้องการแอพพลิเคชั่นอื่นๆ เพิ่มเติมก็สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติม ได้อีกมากมายในภายหลัง
สำหรับ Asus PadFone 2 นั้นจะมาพร้อมกับกล้องความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าเป็นความละเอียดที่สูงมากพอสมควร และนอกจากนี้ ยังสามารถวีดีโอได้ในระดับ Full HD (1080p) อีกด้วย โดยด้านล่างนี้จะเป็นภาพตัวอย่างการถ่ายภาพ และวีดีโอ ด้วยกล้องจาก Asus PadFone 2 ซึ่งในส่วนของภาพถ่าย จะมีการเปรียบเทียบกับ HTC One X อีกด้วย ลองมาชมกันก่อนเลยครับ
Asus PadFone 2 นั้นถือว่าเป็นรุ่นที่มีสเปคไม่เป็นรองใคร ซึ่งล่าสุดทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้มีการทดสอบ Benchmark ระหว่างรุ่นเก่า และรุ่นใหม่เพื่อเปรียบเทียบความแรง ด้วย Application ต่างๆ รวมไปถึงมีการเปรียบเทียบกันกับรุ่นอื่นๆ ด้วย ลองมาดูผลคะแนนที่ได้จากการทดสอบกันเลยครับ
นอกจากนี้ในเรื่องของระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ก็ได้มีการทดสอบกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ผลที่ออกมานั้น PadFone 2 กลับใช้งานได้นาน น้อยกว่า รุ่นก่อนหน้า เล็กน้อย ซึ่งก็ถือว่าไม่มากมายเท่าไหร่ครับ
สำหรับ Asus PadFone 2 นั้นถือว่าเป็นความลงตัวระหว่าง Tablet และ Smartphone ที่เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ทั้ง สองอย่าง แต่ไม่อยากซื้อ 2 เครื่อง ซึ่ง Asus PadFone 2 นั้นก็ยังมาพร้อมกับการเชื่อมต่อที่ครบครัน และรองรับเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่าง 4G LTE อีกด้วย ส่วนในเรื่องของสเปคนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงครับ ถือว่าแรงพอสมควร แต่อาจจะมีข้อด้อยเล็กน้อยก็ตรงที่ เราจะไม่สามารถเพิ่ม SDCard จากภายนอกได้เอง และสำหรับท่านที่สนใจ สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการวางจำหน่าย และข่าวสารอัพเดทอื่นๆ ของ Asus PadFone 2 ได้บนเว็บไซต์ Techmoblog แห่งนี้นะครับ ...
---------------------------------------
รายละเอียดเพิ่มเติม : engadget.com
Update : 06/11/2012
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |