สำหรับโน้ตบุ๊กสายทำงาน นอกเหนือจากสเปกและฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์การทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ดีไซน์ก็ถือว่าเป็นปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อด้วยเช่นกัน ซึ่งโน้ตบุ๊กที่ทางทีมงานจะนำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ นั่นก็คือ ASUS VivoBook 15 X512F โน้ตบุ๊กสายทำงานรุ่นใหม่ในซีรี่ส์ VivoBook นั่นเอง
โดย ASUS VivoBook 15 X512F นอกจากจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 15.6 นิ้วแล้ว ยังเป็นดีไซน์หน้าจอแบบ NanoEdge Display หรือขอบจอบางทั้ง 4 ด้าน บางสุดที่ 5.7 มิลลิเมตร ส่งผลทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป แม้ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊กไซส์ 15 นิ้วก็ตาม นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับนวัตกรรม ErgoLift แบบเดียวกับซีรี่ส์ ZenBook ที่ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นทำมุม 2 องศา ส่งผลทำให้การพิมพ์งานสะดวกและถนัดมือมากขึ้น รวมถึงช่วยระบายความร้อนอีกด้วย
ด้านสเปกของ ASUS VivoBook 15 X512F รุ่นที่นำมารีวิวนี้ มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i5-8265U (Whiskey Lake U) ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz ที่สามารถเร่งประสิทธิภาพได้สูงสุดถึง 3.9 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB และฮาร์ดดิสก์ขนาด 512 GB PCle (SSD) ส่วนการประมวลผลด้านกราฟิกนั้น จะมีทั้ง Intel UHD Graphics 620 ซึ่งเป็นการ์ดจอแบบออนบอร์ด กับ NVIDIA GeForce MX250 ขนาด 2 GB แบบ GDDR5 ซึ่งถือว่า ตอบโจทย์ด้านการใช้งานทั่วไป ทั้งงานเอกสาร, เว็บไซต์, ดูหนังฟังเพลง, รองรับการทำงานด้าน 3 มิติ รวมถึงเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างสบาย ๆ
นอกจากนี้ ASUS VivoBook 15 X512F ยังรองรับการใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวัน ด้วยแบตเตอรี่ที่ทนทานมากขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว (Fast Charging) สามารถชาร์จที่ระดับ 60% ได้ในเวลาเพียง 49 นาที รวมถึงยังมี เทคโนโลยี ASUS Battery Health Charging ที่ถูกออกแบบมาให้ควบคุมกำลังไฟระหว่างทำการชาร์จ เพื่อให้แบตเตอรี่อยู่ในสภาพที่ดี ไม่เสื่อมเร็ว และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
มาดูกันดีกว่าว่า โน้ตบุ๊กสายทำงานรุ่นนี้จะมีดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน และตอบโจทย์การใช้งานต่าง ๆ ได้ดีแค่ไหน กับรีวิว ASUS VivoBook 15 X512F โดยทีมงาน techmoblog.com
สำหรับ ASUS VivoBook 15 X512F รุ่นที่นำมารีวิวในวันนี้ เป็นตัวเครื่องสี Slate Grey มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แบบ LED-backlit ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (FHD) ในอัตราส่วน 16:9 โดยเป็นดีไซน์หน้าจอแบบ NanoEdge Display ขอบจอบางทั้ง 4 ด้าน บางสุดที่ 5.7 มิลลิเมตร พร้อมสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง (Screen-to-Body Ratio) ถึง 87% และมุมมองกว้าง 178 องศา ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่ค่อนข้างกะทัดรัด แม้จะเป็นรุ่นที่มีขนาดหน้าจอ 15 นิ้วก็ตาม
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมให้การใช้งานเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นก็คือ บานพับ ErgoLift ซึ่งเป็นนวัตกรรมเดียวกับซีรี่ส์ ZenBook ที่ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นทำมุม 2 องศา ที่นอกจากจะทำให้พิมพ์งานได้สะดวกขึ้นแล้ว ยังช่วยระบายความร้อน และลำโพงเสียงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งหน้าจอสามารถเปิดได้กว้างสุดถึง 145 องศา
เหนือหน้าจอแสดงผล จะเป็นกล้อง HD Webcam, ไฟแสดงสถานะกล้อง และไมโครโฟน 2 ตัวซ้ายและขวา
สำหรับคีย์บอร์ดบน ASUS VivoBook 15 X512F เป็น Chiclet Keyboard แบบ Full Size ซึ่งแต่ละแป้นถูกออกแบบมาให้ขนาดพอดีกับนิ้วมือ ช่วยทำให้พิมพ์ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังตอบสนองต่อการสัมผัสได้อย่างรวดเร็วด้วยค่า Key Travel ที่ 1.4 mm.
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับแผงปุ่ม NumPad ด้านขวามือ ซึ่งถือว่าเป็นฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกอย่างมากสำหรับผู้ที่ใช้งานด้านเอกสารเป็นหลัก หรืองานที่ต้องใช้ปุ่มกดตัวเลข แต่น่าเสียดายที่แป้นพิมพ์ไม่มีการติดตั้งไฟ LED-Backlit มาให้
ด้าน TouchPad ถือว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่ ดีไซน์เป็นชิ้นเดียวกัน ไม่มีปุ่มกดแยกทั้งคลิกซ้ายและคลิกขวา โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยี Precision Touchpad (PTP) ที่รองรับการสัมผัสด้วยท่าทางได้สูงสุดถึง 4 นิ้ว ยกตัวอย่างเช่น ใช้ 2 นิ้วเลื่อนขึ้น-ลงสำหรับการ Scroll Up หรือ Scroll Down, ใช้ 3 นิ้วปัดไปทางซ้าย-ขวาสำหรับสลับหน้าต่างโปรแกรมที่เปิดค้างไว้ หรือใช้ 4 นิ้วลากเข้าหากัน เพื่อพับหน้าต่างโปรแกรมที่เปิดไว้ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Intelligent Palm-Rejection ที่ผู้ใช้สามารถวางอุ้งมือบน Touchpad ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าตัวเครื่องจะสั่งการในด้านอื่น ๆ โดยไม่ตั้งใจ เรียกได้ว่า สะดวกต่อการใช้งานมากเลยทีเดียว ซึ่งจากการทดสอบใช้งานก็ถือว่ามีความลื่นไหลและแม่นยำพอสมควร
สำหรับลำโพงบน ASUS VivoBook 15 X512F ยังคงมาพร้อมเทคโนโลยี ASUS SonicMaster พร้อมซอฟท์แวร์ Audio Wizard ในการปรับจูนเสียงให้ตรงกับการใช้งานของผู้ใช้ เช่น เสียงสำหรับการเล่นเกม, เสียงสำหรับการชมภาพยนตร์ หรือฟังเพลง เป็นต้น
มาดูที่พอร์ตการเชื่อมต่อรอบ ๆ ตัวเครื่องกันบ้าง โดยด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย (จากซ้ายไปขวา) microSD Card Reader, ช่องหูฟัง/ไมโครโฟน, พอร์ต USB 3.0 Type-C (USB 3.1 Gen 1), พอร์ต HDMI, พอร์ต USB 3.1 Type-A (Gen 1) และพอร์ตพลังงาน (DC) ขาเข้า
ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง ประกอบด้วย พอร์ต USB 2.0 Type-A จำนวน 2 พอร์ต และไฟบอกสถานะการทำงาน
ด้านล่างของตัวเครื่อง นอกจากจะมีปุ่มยางรองฐาน 2 มุมซ้ายขวาแล้ว ยังมีแผงปุ่มยางขนาดยาวที่ด้านบนด้วยเช่นกัน ส่วนแผงระบายความร้อนที่ด้านล่างตัวเครื่องนั้น มีไว้สำหรับนำลมเย็นเข้าไป ซึ่งจะทำงานควบคู่กับแผงระบายความร้อนที่สันเครื่องเพื่อระบายความร้อนออกมา
มาดูกันที่ประสิทธิภาพของตัวเครื่องกันบ้าง โดย ASUS VivoBook 15 X512F รุ่นที่นำมารีวิวนี้ ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ของแท้ถูกลิขสิทธิ์ตั้งแต่แกะกล่อง ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อ Windows เพื่อติดตั้งใหม่ด้วยตนเอง
ASUS VivoBook 15 X512F มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i5-8265U (Whiskey Lake U) ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz ที่สามารถเร่งประสิทธิภาพได้สูงสุดถึง 3.9 GHz และเป็นชิปประมวลผลแบบ 4 Core 8 Threads อีกทั้งยังเป็นซีพียูที่ใช้พลังงานไฟต่ำ และประหยัดพลังงาน ซึ่งตอบโจทย์การทำงานทั่วไป ทั้งงานเอกสาร รวมถึงการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลมากเป็นพิเศษก็รองรับได้อย่างสบาย ๆ เช่นกัน ส่วนหน่วยความจำ RAM อยู่ที่ 8 GB DDR4 2400MHz SDRAM สามารถเพิ่มได้สูงสุดที่ 16 GB
สำหรับการประมวลผลด้านกราฟิกนั้น จะมีทั้ง Intel UHD Graphics 620 ซึ่งเป็นการ์ดจอแบบออนบอร์ด กับ NVIDIA GeForce MX250 ขนาด 2GB แบบ GDDR5 ซึ่งรองรับการทำงานด้านการตัดต่อ หรือการเล่นเกมออนไลน์ทั่วไปในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่เหมาะกับการนำไปเรนเดอร์กราฟิก หรือเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เหมือนกับโน๊ตบุ๊กเกมมิ่งที่เลือกใช้การ์ดจอตระกูล GTX ที่มีความเร็วแรงกว่า
มาทดสอบประสิทธิภาพของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CINEBENCH R15 กันบ้าง ซึ่งถือว่า เป็นระดับคะแนนที่ตอบโจทย์การทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลหนัก ๆ ได้อย่างสบาย ๆ
ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม PCMARK 10 พบว่า สามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้ถึง 4,132 คะแนน ซึ่งนอกจากจะรองรับการใช้งานทั่วไป อย่างเช่น งานเอกสาร, ตกแต่งรูป หรือเล่นเว็บไซต์แล้ว ยังรองรับการใช้งานที่ต้องการประมวลผลสูง อย่างเช่น งานตัดต่อวิดีโอ หรือชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง เป็นต้น
ทดสอบระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่ด้วยโปรแกรม BatteryMon กับการเปิดใช้งานทั่วไป และเปิดความสว่างของหน้าจอในระดับปานกลาง พบว่า สามารถใช้งานได้ราว ๆ 8-9 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการนำไปใช้งานนอกสถานที่ นอกจากนี้ ASUS VivoBook 15 X512F ยังรองรับเทคโนโลยี Fast Charging สามารถชาร์จได้ 60% ในเวลาเพียง 49 นาที รวมถึงรองรับเทคโนโลยี ASUS Battery Health Charging ที่ถูกออกแบบมาให้ควบคุมกำลังไฟระหว่างการชาร์จ ทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ไม่เสื่อมสภาพเร็ว
สำหรับ ASUS VivoBook 15 X512F ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กในซีรี่ส์ VivoBook ที่เน้นความบาง, พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก พร้อมประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งรุ่นนี้เลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i5-8265U (Whiskey Lake U) ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz ที่สามารถเร่งประสิทธิภาพได้สูงสุดถึง 3.9 GHz พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB DDR4 2400MHz SDRAM และหน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Intel UHD Graphics 620 และ NVIDIA GeForce MX250 ขนาด 2 GB แบบ GDDR5 ตอบโจทย์การใช้งานทั้งงานเอกสาร, เว็บไซต์, เล่นเกมออนไลน์ รวมถึงงานด้านตัดต่อ ก็รองรับได้อย่างสบาย ๆ เช่นกัน
หน้าจอของ ASUS VivoBook 15 X512F มีขนาดอยู่ที่ 15.6 นิ้ว แบบ LED-backlit ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (FHD) ในอัตราส่วน 16:9 ซึ่งเป็นดีไซน์แบบ NanoEdge Display ขอบจอบางทั้ง 4 ด้าน บางสุดที่ 5.7 มิลลิเมตร ทำให้มีสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 87% นอกจากนี้ ยังเป็นหน้าจอแบบ Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อน พร้อมมุมมองกว้าง 178 องศา
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ นั่นก็คือ นวัตกรรม ErgoLift แบบเดียวกับซีรี่ส์ ZenBook ที่ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นทำมุม 2 องศา ส่งผลทำให้การพิมพ์งานสะดวกและถนัดมือมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยระบายความร้อน และทำให้ลำโพงเสียงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้านคีย์บอร์ดเป็นแบบ Full Size ซึ่งแต่ละแป้นถูกออกแบบมาให้ขนาดพอดีกับนิ้วมือ ช่วยทำให้พิมพ์ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังตอบสนองต่อการสัมผัสได้อย่างรวดเร็วด้วยค่า Key Travel ที่ 1.4 mm. นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับแผงปุ่ม NumPad ซึ่งถือว่าเป็นฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกอย่างมากสำหรับผู้ที่ใช้งานด้านเอกสารเป็นหลัก หรืองานที่ต้องใช้ปุ่มกดตัวเลข
ด้านพอร์ตการเชื่อมต่อนั้น ถือว่าให้มาอย่างครบครันทั้งพอร์ต USB 3.1 Type-A (Gen 1), USB 3.0 Type-C (USB 3.1 Gen 1), USB 2.0 Type-A รวมถึงยังมีพอร์ต HDMI, ช่องอ่าน MicroSD Card และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรมาให้
โดย ASUS VivoBook 15 X512F วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 20,990 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Transparent Silver, Slate Grey, Peacock Blue และ Coral Crush สามารถหาซื้อได้ที่ร้านไอทีชั้นนำทั่วประเทศ
จุดเด่นของ ASUS VivoBook 15 X512F
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ข้อควรทราบ : เครื่อง ASUS VivoBook 15 X512F ในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบเท่านั้น คุณสมบัติบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์ 100% และอาจไม่ตรงกับตัวเครื่องที่วางจำหน่ายจริง
------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 14/06/2019
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |