เป็นโน้ตบุ๊คตัวท็อปอีกรุ่นที่ตอบโจทย์สายครีเอทีฟเลยก็ว่าได้ สำหรับ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 โน้ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ที่สร้างเสียงฮือฮาไปทั่วโลกจากงาน IFA 2018 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจของโน้ตบุ๊คตัวท็อปรุ่นนี้ นอกเหนือจากสเปกสุดแรงแล้ว ยังเป็นโน้ตบุ๊ครุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับ ScreenPad ซึ่งเป็นทัชแพด (TouchPad) ที่เป็นหน้าจอแบบทัชสกรีน อีกทั้งยังสามารถใช้งานเป็นหน้าจอที่สองได้อีกด้วย
โดย ASUS ZenBook Pro 15 UX580 รุ่นที่นำมารีวิวในวันนี้ เป็นรุ่นท็อปของ ZenBook-UX Series ที่นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของดีไซน์สุดหรู และวัสดุระดับพรีเมียมแล้ว ยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต Intel Core i9-8950HK แบบ Hexa-Core Processor (with 12MB cache) ความเร็ว 2.9 GHz ที่สามารถเร่งประสิทธิภาพได้สูงสุด (Turbo Boost) ถึง 4.8 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก NVIDIA GeForce GTX 1050Ti 4GB GDDR5 VRAM, หน่วยความจำ RAM ขนาด 16 GB DDR4 onboard และหน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 512 GB PCIe SSD
ในส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้น มีขนาดอยู่ที่ 15.6 นิ้ว แบบ LED-backlit ความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล (4K UHD), อัตราส่วน 16:9 ซึ่งเป็นหน้าจอแบบทัชสกรีน ทำให้การใช้งานคล่องตัวมากกว่าเดิม โดยมีความสม่ำเสมอของเม็ดสีในจอภาพ ด้วยค่า Delta E < 2 รวมถึงสนับสนุนช่วงสีที่กว้างพิเศษ Adobe RGB 100% และ sRGB ถึง 132% อีกทั้งยังได้รับการการันตีความแม่นยำของสีสันจาก PANTONE อีกด้วย
ด้าน ScreenPad นั้น มีขนาดอยู่ที่ 5.5 นิ้ว แบบ Super IPS+ Display ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (FHD+) ซึ่งเป็นกระจกกันรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือ โดยนอกจากจะใช้งานเป็น TouchPad แล้ว ScreenPad ยังสามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นหน้าจอที่สอง รวมถึงเข้าถึงแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
มาดูกันดีกว่าว่า โน้ตบุ๊ครุ่นท็อปรุ่นนี้ จะตอบโจทย์การทำงานในด้านใดบ้าง และ ScreenPad จะสะดวกในการใช้งานมากน้อยแค่ไหน กับรีวิว ASUS ZenBook Pro 15 UX580 โดยทีมงาน techmoblog ครับ
สำหรับ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 ที่นำมารีวิวกันในวันนี้ เป็นตัวเครื่องสี Deep Dive Blue ซึ่งบอดี้ตัวเครื่องเป็นแบบ All-Metal Unibody ไร้รอยต่อ ที่ผลิตจากโลหะเกรดพรีเมียมทั้งชิ้น ที่มีความหรูหรา และแข็งแกร่ง แต่มีน้ำหนักเบาเพียง 1.88 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15 นิ้วระดับโปรรุ่นอื่น ๆ
ขอบตัวเครื่องตัดขอบด้วยสีทอง Rose Gold ที่มีความบางของตัวเครื่องอยู่ที่ 18.9 มิลลิเมตร ตัดกับสีน้ำเงิน Deep Dive Blue อย่างลงตัว ส่วนฝาปิดมีโลโก้ ASUS ขนาดใหญ่ มองเห็นได้อย่างชัดเจน
ASUS ZenBook Pro 15 UX580 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้ว แบบ แบบ NanoEdge Display (ขอบจอบาง) LED-backlit ความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล (4K UHD) ในอัตราส่วน 16:9 โดยมีความสม่ำเสมอของเม็ดสีในจอภาพ ด้วยค่า Delta E < 2 รวมถึงสนับสนุนช่วงสีที่กว้างพิเศษ Adobe RGB 100% และ sRGB ถึง 132% นอกจากนี้ ยังมีมุมมองกว้างถึง 178 องศา พร้อมเทคโนโลยี ASUS Eye Care ในการกรองแสงสีฟ้าได้มากถึง 30% ทำให้ใช้งานได้สบายตามากขึ้น
โดยหน้าจอแสดงผลนั้น เป็นระบบสัมผัส (Touchscreen) ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน ซึ่งถือว่าตอบสนองได้ดีและไม่มีอาการหน่วงให้เห็น อีกทั้งยังรองรับการใช้งานคู่กับปากกา ASUS Pen แต่อุปกรณ์เสริมชิ้นนี้ไม่ได้แถมมาให้ในชุดจำหน่ายมาตรฐาน ต้องซื้อเพิ่มต่างหาก
ขอบจอบาง 7.3 มิลลิเมตร ทำให้มีสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง (Screen-to-Body Ratio) มากถึง 83%
หน้าจอสามารถกางออกได้สุดตามภาพข้างต้น ไม่สามารถกางจนแบนราบไปกับพื้นโต๊ะได้
เหนือหน้าจอแสดงผล จะเป็นกล้อง VGA Webcam พร้อมไมโครโฟนทั้งด้านซ้ายและด้านขวาอย่างละ 1 ตัว
สำหรับระบบความปลอดภัย นอกเหนือจากการใส่รหัสผ่าน (Password) แล้ว ยังสามารถใช้การสแกนลายนิ้วมือเพื่อทำการยืนยันตัวตนได้อีกทางหนึ่ง
มาดูพอร์ตการเชื่อมต่อรอบ ๆ ตัวเครื่องกันบ้าง โดยด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, microSD Card Slot และ USB Type A 3.1 Gen 2 จำนวน 2 พอร์ต
ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง ประกอบด้วย DC-Jack สำหรับชาร์จไฟ, พอร์ต HDMI และ USB Type-C 3.1 Gen 2 (Thunderbolt 3) จำนวน 2 พอร์ต
ด้านคีย์บอร์ดนั้น ตัวแป้นมีความห่างเหมือนกับแป้นพิมพ์บนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป อีกทั้งยังตอบสนองต่อการสัมผัสได้อย่างรวดเร็วด้วยค่า Key Travel ที่ 1.5 mm. โดยตัวแป้นมีการสกรีนตัวอักษรสีทอง ด้านล่างเป็นไฟแบบ LED-Backlit สำหรับใช้งานในที่แสงน้อยหรือตอนกลางคืน ที่สามารถปรับความสว่างได้ถึง 3 ระดับ (กดที่ปุ่ม F7)
ด้านบนของแป้นพิมพ์มาพร้อมกับปุ่มฟังก์ชัน และปุ่มคีย์ลัดสำหรับควบคุมการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น ปรับระดับเสียง, ปรับความสว่างของหน้าจอ, ปรับความสว่างของแป้นพิมพ์ และปุ่ม ScreenPad Modes (F6)
สำหรับ ScreenPad นั้น ถือว่าเป็นจุดขายหลักของ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 รุ่นนี้เลยก็ว่าได้ โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แบบ Super IPS+ Display ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (FHD+) ซึ่งเป็นกระจกที่กันรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือ โดยมีมุมมองกว้าง 178 องศา และรองรับการใช้งานแบบ Gestures ได้สูงสุด 4 นิ้ว
โดย ScreenPad มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย นอกเหนือจากใช้งานเป็น TouchPad เพียงอย่างเดียว ซึ่งสามารถใช้งานเป็นหน้าจอที่สอง รวมถึงเป็นเมนูลัดสำหรับเข้าใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ
นอกจากนี้ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 ยังรองรับการเชื่อมต่อกับจอภายนอกได้สูงสุดถึง 3 หน้าจอ และเมื่อรวมกับ ScreenPad และหน้าจอหลัก ทำให้สามารถแสดงผลได้พร้อมกันถึง 5 หน้าจอ
ด้านระบบระบายความร้อน จะถูกซ่อนไว้ระหว่างตัวเครื่องกับหน้าจอ ภายในจะประกอบด้วยพัดลมคู่ที่ทำงานร่วมกับท่อระบายความร้อนทั้งหมด 3 ตัว ทำให้มีการไหลเวียนของอากาศที่ดีขึ้น
ด้านล่างตัวเครื่อง มีฐานรองทั้ง 4 มุมเพื่อรองรับแรงกระแทกขณะวางบนโต๊ะ พร้อมลำโพงเสียงคู่แบบสเตอริโอจาก harman/kardon ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า ScreenPad คือจุดขายหลักของ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 รุ่นนี้ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกโหมดการทำงานของ ScreenPad ได้ทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ด้วยการกดที่ปุ่ม F6 โดยจะมีโหมดให้เลือกใช้งานดังนี้
สำหรับอินเทอร์เฟสของโหมด ScreenPad นั้น จะมีหน้าตาดังรูปข้างต้น ซึ่งด้านบนคือเมนูทางลัดสำหรับเข้าใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ (เปิดเมนูด้วยการปัดลงจากขอบด้านบน) ซึ่งผู้ใช้สามารถเพิ่มแอปพลิเคชันอื่น ๆ รวมถึงตั้งค่าการใช้งาน ScreenPad ได้ด้วยการเข้าไปที่เมนู Settings (รูปเฟือง)
ส่วนตัวอย่างของแอปพลิเคชันที่รองรับบน ScreenPad ก็ได้แก่
เครื่องคิดเลข ถือว่าเป็นตัวเลือกที่สะดวกอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องใช้เครื่องคิดเลขควบคู่กับการทำงานปกติ
Numkey หรือแป้นตัวเลข จริงอยู่ที่บนคีย์บอร์ดก็มีปุ่มตัวเลขให้กดใช้งานกันอยู่แล้ว แต่ก็มีผู้ใช้งานหลายท่านที่คุ้นเคยกับการใช้งานแป้น Numkey ซึ่งการแยกแสดงผลในส่วนของ ScreenPad ก็ช่วยทำให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น
ปฏิทิน พร้อมกับการแสดงรายละเอียดของการนัดหมายในวันนั้น ๆ
เครื่องเล่นเพลง โดยเพลงจะถูกเก็บไว้ที่โฟลเดอร์ Music
Launcher เป็นแถบเมนูลัดสำหรับแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อย (สามารถเลือกตั้งค่าเองได้) เมื่อแตะที่แอปฯ ก็จะเปิดขึ้นมาที่หน้าจอหลักและพร้อมใช้งานทันที
ในกรณีที่เลือกใช้ ScreenPad ในโหมด Extension Display หรือหน้าจอแยก จะเป็นการเปลี่ยน ScreenPad ให้กลายเป็นหน้าจอที่ 2 สำหรับแสดงผลแอปพลิเคชันอื่นได้ ยกตัวอย่างเช่น เปิด YouTube ก็สามารถใช้หน้าจอที่สองเป็นตัวควบคุมการเล่นคลิปวิดีโอ หรือสามารถลากเบราว์เซอร์ที่เปิด YouTube เอาไว้อยู่ให้มาแสดงบน ScreenPad ได้เช่นกัน หรือทำงานที่หน้าจอหลัก ส่วนหน้าจอที่สองเปิดแอปฯ LINE สำหรับแชท เป็นต้น โดยโหมดนี้แนะนำให้ต่อเมาส์แยก จะใช้งานได้สะดวกมากกว่า
มาดูกันที่ประสิทธิภาพของตัวเครื่องกันบ้าง โดย ASUS ZenBook Pro 15 UX580 รุ่นที่นำมารีวิวนี้ ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ของแท้ตั้งแต่แกะกล่อง ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องติดตั้ง OS ใหม่ด้วยตนเอง
ASUS ZenBook Pro 15 UX580 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i9-8950HK ความเร็วในการประมวลผล 2.9 GHz ที่สามารถเร่งประสิทธิภาพได้สูงสุดถึง 4.8 GHz และเป็นชิปประมวลผลแบบ 6 Core 12 Threads ส่วนหน่วยความจำ RAM อยู่ที่ 16 GB แบบ DDR4
สำหรับการประมวลผลด้านกราฟิก จะมีทั้งการ์ดจอแบบ On-board อย่าง Intel UHD Graphics 630 รองรับการทำงานกราฟิกแบบ 3 มิติได้อย่างสบาย ๆ ส่วนกราฟิกแบบ 2 มิติรองรับได้ในระดับเบื้องต้น แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 รุ่นนี้เนื่องจากมีการ์ดจอแยกรุ่นยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ซึ่งตอบโจทย์ต่อการใช้งานด้าน 3 มิติ หรือเล่นเกมกราฟิกสูงที่กินทรัพยากรตัวเครื่องได้อย่างสบาย ๆ
ทดสอบประสิทธิภาพในการประมวลผลของซีพียูด้วยโปรแกรม CINEBENCH R15 พบว่าทำคะแนนได้ 116.72 fps และ 1,088 cb เรียกได้ว่าเป็นคะแนนทดสอบที่น่าประทับใจ และตอบโจทย์การทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลหนัก ๆ ได้อย่างสบาย ๆ อีกเช่นกัน
ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม PCMark 10 สามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้ 4,588 คะแนน ซึ่งการใช้งานทั่วไปถือว่าสอบผ่าน ทั้งในส่วนของงานเอกสาร, เล่นเว็บไซต์, ตกแต่งรูป และอื่น ๆ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโออีกด้วย
สำหรับ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 รุ่นนี้ เรียกได้ว่า เป็นโน้ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานแนวกราฟิกระดับสูง ท้าชนรุ่นท็อปของตลาดอย่าง MacBook Pro (2018) เลยก็ว่าได้ ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้ นอกเหนือจากชิปเซ็ต Intel Core i9-8950HK แบบ Hexa-Core Processor (with 12MB cache) ความเร็ว 2.9 GHz แล้ว ยังมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1050Ti 4GB GDDR5 VRAM พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 16 GB DDR4 onboard เข้ามาเสริมทัพ ทำให้สามารถใช้งานด้านการประมวลผลหนัก ๆ ได้หลายอย่างพร้อม ๆ กัน รวมถึงด้านความบันเทิงอย่างเช่น ดูหนัง, ฟังเพลง, เล่นเกม ก็ถือว่าครอบคลุมอีกเช่นกัน เรียกได้ว่า สเปกโดยรวมของ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 เหมือนกับกำลังใช้งานคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปสเปกแรง ๆ แต่เหนือกว่าตรงที่สามารถพกพาไปใช้งานนอกบ้านได้ด้วย
นอกเหนือจากสเปกแล้ว จุดขายของ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 รุ่นนี้ก็คือ ScreenPad ซึ่งเป็น TouchPad แบบจอสัมผัสรุ่นแรกของโลก ที่เรียกได้ว่า เข้ามาเปลี่ยนการใช้งานโน้ตบุ๊คไปอย่างสิ้นเชิง โดย ScreenPad มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย นอกจากจะใช้งานเป็น TouchPad แบบปกติแล้ว ยังสามารถเปลี่ยน ScreenPad ให้กลายเป็น Numkey หรือแป้นตัวเลข, เป็นโหมดเครื่องคิดเลข, เป็นเครื่องเล่นเพลง รวมถึงเปลี่ยนให้ ScreenPad ให้กลายเป็นหน้าจอที่สอง แสดงผลแยกจากหน้าจอหลัก ซึ่งช่วยทำให้การใช้งานสะดวกมากกว่าเดิม
ด้านจอแสดงผลหลักนั้น มีขนาดอยู่ที่ 15.6 นิ้ว แบบ LED-backlit ความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล (4K UHD) ในอัตราส่วน 16:9 โดยมีความสม่ำเสมอของเม็ดสีในจอภาพ ด้วยค่า Delta E < 2 รวมถึงสนับสนุนช่วงสีที่กว้างพิเศษ Adobe RGB 100% และ sRGB ถึง 132% นอกจากนี้ ยังมีมุมมองกว้างถึง 178 องศา พร้อมเทคโนโลยี ASUS Eye Care ในการกรองแสงสีฟ้าได้มากถึง 30% ทำให้ใช้งานได้สบายตามากขึ้น
สรุปแล้ว ASUS ZenBook Pro 15 UX580 เป็นโน้ตบุ๊คที่เหมาะกับใช้ทำงานเป็นหลัก เล่นเกมเป็นรอง โดยมีราคาอยู่ที่ 89,990 บาท ซึ่งถือว่ามีราคาค่อนข้างสูงพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับสเปกที่ได้ก็ถือว่าคุ้มค่าไม่น้อย แต่ถ้าหากใครที่มีงบประมาณไม่ถึง ยังมีรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Intel Core-i7 8750H แบบ Hexa-Core Processor ความเร็ว 2.2 GHz พร้อมการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1050 ที่มีราคาอยู่ที่ 69,990 บาท ซึ่งดีไซน์โดยรวมนั้นเหมือนกับรุ่น Core-i9 แต่ด้านประสิทธิภาพของรุ่น Core-i9 จะเหนือชั้นกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลักด้วยเช่นกัน
โดยผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 ได้ที่ร้านไอทีชั้นนำทั่วประเทศ
จุดเด่นของ ASUS ZenBook Pro 15 UX580
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ข้อควรทราบ : เครื่อง ASUS ZenBook Pro 15 UX580 ในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบเท่านั้น คุณสมบัติบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์ 100% และอาจไม่ตรงกับตัวเครื่องที่วางจำหน่ายจริง
------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 19/12/2018
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |