สำหรับ มือถือเอซุส (Asus) ในซีรี่ส์ ZenFone นั้น ถือเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีระดับราคาเริ่มต้นที่ไม่แพงแล้ว ยังมีหลายรุ่นให้เลือกอีกด้วย โดย Asus ZenFone เดินทางมาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว ซึ่งมือถือที่ทีมงาน techmoblog จะนำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ นั่นก็คือ Asus Zenfone 3 Ultra ที่ถือว่า เป็นรุ่นระดับท็อปในซีรี่ส์ ZenFone 3 เลยก็ว่าได้
โดยจุดเด่นของ Asus ZenFone 3 Ultra รุ่นนี้ก็คือ มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 6.8 นิ้ว เรียกได้ว่า มีขนาดที่เล็กกว่าแท็บเล็ตหน้าจอ 7 นิ้วเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และด้วยหน้าจอขนาดใหญ่แบบนี้ ทำให้ Asus ZenFone 3 Ultra เหมาะกับการใช้งานด้านความบันเทิงเป็นพิเศษ อย่างเช่น ดูหนัง, เล่นเกม และเปิดเว็บไซต์ต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ ลำโพงแบบสเตอริโอ 2 ตัว และเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับระบบเสียง 7.1-Channel Surround และ DTS Headphone:X เรียกได้ว่า ครบครันด้านความบันเทิงอย่างแท้จริง
สำหรับสเปกของ Asus ZenFone 3 Ultra (ZU680KL) รุ่นนี้ อยู่ในระดับไฮเอนด์เลยก็ว่าได้ โดยมาพร้อมกับ ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.8 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 510 GPU, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 64 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 2 TB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED และแบตเตอรี่ขนาด 4600 mAh นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับเครือข่าย 4G LTE, มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow)
มาดูกันดีกว่าว่า แฟบเล็ตหน้าจอใหญ่รุ่นนี้ จะมีของเด็ดอะไรซ่อนอยู่บ้าง กับ รีวิว Asus ZenFone 3 Ultra โดยทีมงาน techmoblog ครับ
>> สเปก Asus ZenFone 3 Ultra อย่างละเอียด คลิกที่นี่
สำหรับบอดี้ของ Asus ZenFone 3 Ultra รุ่นนี้ เป็นอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ซึ่งเป็นวัสดุเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน ทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงและทนทานเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังมีตัวรับสัญญาณอยู่ในตัวเครื่อง ทำให้ตัวเครื่องด้านหลังไม่มีเส้นเสาสัญญาณพาดผ่าน ส่วนขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.8 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล
ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไฟ LED สำหรับแจ้งเตือน, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ลำโพงสำหรับสนทนา และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ
ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่ม Home ที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว และปุ่ม Recent Apps
ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอแสดงผล และถาดใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM
โดยรุ่นนี้ รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และรองรับเครือข่าย 4G LTE ทั้ง 2 ซิม แต่ไม่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 2 พร้อมกับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงคู่ทั้งด้านซ้ายและขวา, พอร์ต USB Type-C และไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา
ด้านหลังตัวเครื่อง ประกอบด้วย กล้องด้านหลัง ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล, Laser Focus และไฟแฟลชแบบ Dual-LED ถัดลงมา เป็นปุ่มปรับระดับเสียง ที่สามารถใช้เป็นชัตเตอร์เวลาถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยกล้องด้านหน้า
สำหรับ Asus ZenFone 3 Ultra รุ่นนี้ โดดเด่นกันตั้งแต่แพ็กเกจเลยทีเดียว โดยมาพร้อมกับกล่องแพ็กเกจสีน้ำเงินสวยหรู พร้อมโลโก้คำว่า ZenFone 3 Ultra ตรงกลางกล่อง
เมื่อเปิดกล่องออกมา จะพบกับตัวเครื่อง Asus ZenFone 3 Ultra ส่วนด้านข้าง สามารถดึงออกได้ ภายในบรรจุอุปกรณ์พื้นฐานต่าง ๆ
โดยอุปกรณ์ภายในกล่อง ได้แก่ สายพอร์ตแบบ USB Type-C, หูฟัง ZenEars และ Adapter สำหรับชาร์จไฟ
เมื่อเปรียบเทียบ Asus ZenFone 3 Ultra (ขวา) กับ iPhone 6 Plus (ขวา) จะเห็นว่า ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่กว่ามากเลยทีเดียว
Asus ZenFone 3 Ultra ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow)
โดยมาพร้อมกับอินเทอร์เฟส ASUS ZenUI 3.0 สามารถปรับแต่งหน้า Homescreen ได้ดั่งใจ และมี Widget ให้เลือกใช้มากมาย
Recent Apps สลับไปใช้แอปพลิเคชันอื่น หรือปิดใช้งานแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการ
การปัดจากล่างขึ้นบน จะเป็นเมนู จัดการหน้าจอโฮม สามารถเลือกวอลเปเปอร์ที่ชื่นชอบ, เพิ่ม Widget รวมไปถึงธีมต่าง ๆ
โดยธีมนั้น มีให้เลือกใช้งานมากมายเลยทีเดียว
Notification ระบบการแจ้งเตือน ทั้งอีเมล, ข้อความ และการอัปเดตต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานได้จากส่วนนี้เช่นกัน
หน้ารวมแอปพลิเคชัน จะเห็นว่า มีการติดตั้งแอปพลิเคชันมาให้พร้อมใช้งานกันอย่างมากมายเลยทีเดียว
แอปพลิเคชันพื้นฐานอย่าง เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง รวมไปถึงวิทยุ FM ก็มีให้ใช้งานบน Asus ZenFone Ultra เช่นกัน
แอปพลิเคชัน Asus Manager (ตัวจัดการเครื่องมือ) สำหรับจัดการระบบการทำงานต่าง ๆ ภายในตัวเครื่อง อย่างเช่น เร่งความเร็ว ด้วยการเคลียร์ cache ให้ตัวเครื่องประมวลผลได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ ยังสามารถจัดการกับแบตเตอรี่ กับโหมดการใช้งานต่าง ๆ ที่สามารถตั้งค่าให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละวัน รวมไปถึงสามารถจัดการกับแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งาน เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ให้กับตัวเครื่อง
ในขณะที่เล่นเกมนั้น จะมีเมนูที่เรียกว่า Game Tool Bar (ไอคอนรูปจอยเกม) สามารถสตรีมมิ่งหรือบันทึกวีดีโอไปยัง YouTube ได้ หรือถ้าหากเล่นเกมแล้วรู้สึกว่า ตัวเครื่องเริ่มช้าแล้ว ให้คลิกที่ ตัวเร่งความเร็ว ระบบก็จะทำการเคลียร์ cache ออกไป ทำให้สามารถเล่นเกมได้ลื่นขึ้น ไม่มีสะดุด
ปิดท้ายด้วยผลการทดสอบ Benchmark กันบ้าง โดยการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant ทำได้ 39,115 คะแนน และการทดสอบด้วยโปรแกรม AnTuTu ทำได้ 79,197 คะแนน
ส่วนการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 3 ทำได้ 1,437 คะแนนสำหรับการทดสอบแบบ Single-Core และ 2,972 คะแนน สำหรับการทดสอบแบบ Multi-Core ในขณะที่มัลติทัช รองรับ 10 จุด
นอกเหนือจากเรื่องของการประมวลผลแล้ว จุดขายอีกอย่างหนึ่งสำหรับ Asus ZenFone 3 รุ่นนี้ก็คือ กล้องถ่ายรูป นั่นเอง โดยกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0 และมุมมองกว้าง 85 องศา พร้อมโหมด Beauty ทั้งปรับผิวเนียน, หน้าเรียว เรียกได้ว่า ถูกใจคนชอบเซลฟี่อย่างแน่นอน
ส่วนกล้องด้านหลัง ความละเอียดสูงถึง 23 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพ PixelMaster 3.0, รูรับแสงกว้าง F/2.0 และไฟแฟลชแบบ Dual-LED นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับโหมดการถ่ายภาพให้เลือกมากมาย รวมไปถึงโหมดการถ่ายภาพความละเอียดสูง (Super Resolution Mode) ที่ให้ความละเอียดของภาพถ่ายถึงระดับ 4K และระบบกันภาพสั่นแบบ OIS และ EIS
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
สำหรับ Asus ZenFone 3 Ultra รุ่นนี้ เรียกได้ว่า จัดเต็มครบทุกการใช้งาน ด้วยคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่อัดแน่นมาให้อย่างเหลือเฟือ เหมาะกับการใช้งานด้านความบันเทิงเป็นพิเศษ ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล เล็กกว่าแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 7 นิ้วเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตอบสนองต่อการใช้งานด้านมัลติมีเดีย ทั้งดูหนัง, ฟังเพลง, เล่นเกม หรือแม้แต่การใช้งานด้านเว็บไซต์ ถือว่า สะดวกมากเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับลำโพงแบบสเตอริโอ 2 ตัว และระบบเสียง 7.1-Channel Surround และ DTS Headphone:X รุ่นแรกของโลก เรียกได้ว่า Asus ZenFone 3 Ultra รุ่นนี้ เกิดมาเพื่อความบันเทิงอย่างแท้จริง
ด้านสเปกอื่น ๆ บน Asus ZenFone 3 Ultra อยู่ในระดับไฮเอนด์ โดยมาพร้อมกับ ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.8 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 510 GPU, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 64 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 2 TB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED และแบตเตอรี่ขนาด 4600 mAh นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับเครือข่าย 4G LTE, มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow)
ส่วนราคาค่าตัวของ Asus ZenFone 3 Ultra อยู่ที่ 21,990 บาท แม้จะดูราคาสูงพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับคุณสมบัติต่าง ๆ และประสิทธิภาพแล้ว ถือว่าคุ้มค่าสมราคามากเลยทีเดียว
จุดเด่นของ Asus ZenFone 3 Ultra
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ข้อควรทราบ: “เครื่อง Asus ZenFone 3 Ultra ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง เอซุส เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”
---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 04/10/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |