เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว สำหรับ iOS 12 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Group FaceTime รองรับการสนทนาได้พร้อมกันสูงสุด 32 คน, Memoji ลูกเล่นการใช้งาน Animoji ใหม่ที่มีใบหน้าและรูปลักษณ์เหมือนผู้ใช้, Measure แอปฯ วัดขนาดวัตถุแบบ 3 มิติผ่านกล้องถ่ายรูป, ARKit 2.0 สร้างแอปฯ AR ให้ล้ำหน้ามากขึ้น, Siri Shortcuts แอปฯ รวมคำสั่งเสียงจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ผู้ใช้สามารถกำหนดคำสั่งเสียงเองได้ รวมถึงแอปฯ ที่ช่วยลดการเสพติดการเล่นมือถืออย่าง Do Not Disturb, Screen Time และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานให้รวดเร็วมากขึ้น
นอกเหนือจากคุณสมบัติในข้างต้นแล้ว iOS 12 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์และลูกเล่นใหม่อีกมากมาย มาดูกันดีกว่า 10 ฟีเจอร์บน iOS 12 ที่ Apple ไม่ได้กล่าวถึงในงาน มีอะไรบ้าง
1. Animation ต่าง ๆ ดูนุ่มนวลมากขึ้น
บน iOS 12 นอกจากจะทำให้การใช้งานทั้งบน iPhone และ iPad รวดเร็วและตอบสนองได้ไวขึ้น ทั้งการเปิดกล้องเร็วขึ้น, เปิดแอปฯ เร็วขึ้น รวมถึงคีย์บอร์ดปรากฏเร็วขึ้นแล้ว ทางฝั่งของ Animations ก็มีการทำงานที่รวดเร็วขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดใช้งาน Control Center หรือการสลับไปใช้งานแอปฯ อื่นในโหมด Multitasking เป็นต้น
2. iPad ปรับรูปแบบการปัดหน้าจอให้เหมือน iPhone X
I like the new gestures on iPad. Works very well with the 120fps screen #wwdc18 pic.twitter.com/JRw12nYo1e
— Guilherme Rambo (@_inside) June 5, 2018
iPhone X ถือว่าเป็นไอโฟนรุ่นแรกที่มีวิธีการใช้งานที่แตกต่างจาก iPhone รุ่นอื่น ๆ และบน iOS 12 นั้น ได้ปรับให้ iPad มีรูปแบบการทำงานคล้ายกับ iPhone X แล้ว ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งาน Control Center ให้ปัดที่มุมบนขวาลงมา หรือการกลับสู่หน้า Home ให้ปัดขึ้นตรงส่วนของ Dock
สำหรับการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานบน iPad ในครั้งนี้ น่าจะเป็นการบอกใบ้ iPad รุ่นถัดไปว่า อาจจะรองรับ Face ID และไม่มีปุ่ม Home ก็เป็นได้
3. SMS one-time passcodes
ปกติแล้ว เวลาที่แอปฯ ส่งรหัสผ่าน หรือรหัส OTP มาให้ผู้ใช้ผ่านทาง SMS ผู้ใช้จะต้องเข้าไปในแอปฯ Messages และจำรหัสดังกล่าวมาพิมพ์ใส่ในตัวแอปฯ อีกที แต่บน iOS 12 จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ SMS one-time passcodes ซึ่งจะทำงานร่วมกับฟีเจอร์ AutoFill suggestions กรอกรหัสดังกล่าวให้อัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องจำรหัสนั้นหรือพิมพ์ซ้ำ
4. Password Manager API
What a wonderful present for us at WWDC this year! Thank you to all our friends at Apple for this great new API. #1PasswordAutofill pic.twitter.com/jpvRVogslS
— 1Password (@1Password) June 5, 2018
ฟังก์ชันใหม่สำหรับนักพัฒนา กับ Password Manager API ที่บน iOS 12 สามารถแสดงรหัสผ่านจากแอปฯ จัดการรหัสผ่านอย่าง 1Password หรือ Last Pass และกรอกเข้าไปในเว็บไซต์ต่าง ๆ ให้อัตโนมัติผ่านทางฟีเจอร์ QuickType suggestion ซึ่งนักพัฒนาแอปฯ จะต้องเปิดใช้งานฟังก์ชันนี้ก่อน จึงจะใช้งานได้
5. แชร์รหัสผ่านระหว่างอุปกรณ์ iOS และ Mac ที่วางอยู่ใกล้กันให้อัตโนมัติ
นับว่าเป็นฟีเจอร์ที่สะดวกมาก กับการแชร์รหัสผ่านระหว่างอุปกรณ์ที่วางอยู่ใกล้กัน ไม่ว่าจะเป็น iOS กับ iOS, iOS กับ Mac หรือ iOS กับ Apple TV
6. สร้างรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยากให้อัตโนมัติ พร้อมแจ้งเตือนถ้าหากรหัสผ่านถูกใช้ซ้ำกัน
ปกติแล้วบน Safari ผู้ใช้สามารถบันทึกรหัสผ่านที่ใช้งานทั้งหมดได้ผ่านทาง iCloud Keychain ซึ่งรหัสผ่านเหล่านี้จะขึ้นให้อัตโนมัติเมื่อมีการเข้าใช้งานในครั้งถัดไป โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องพิมพ์รหัสผ่านเอง ซึ่งบน iOS 12 ทาง Apple ได้นำคุณสมบัติดังกล่าวไปใช้งานกับแอปพลิเคชันแล้ว พร้อมกับทำเครื่องหมายแจ้งเตือนถ้าหากรหัสผ่านดังกล่าวถูกใช้ซ้ำกันในหลาย ๆ แอปฯ และผู้ใช้สามารถเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่เองได้
7. Siri ช่วยค้นหารหัสผ่านได้
สำหรับผู้ใช้ที่มีบัญชีการเข้างานหลายบัญชี แล้วเกิดจำรหัสผ่านไม่ได้ ให้ลองถาม Siri ดู
8. Siri ฉลาดมากขึ้น สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหาร, การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต รวมถึงประวัติของดาราศิลปิน
ดูเหมือนว่าบน iOS 12 Siri ได้มีการพัฒนาให้ดีขึ้นในหลาย ๆ ด้าน โดยสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลสำคัญ, ศิลปินดารา, เซเลป, การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต รวมถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอาหาร เช่น สอบถามปริมาณคาเฟอีนในกาแฟ เป็นต้น
9. การแจ้งเตือนแบบฉุกเฉิน
ถึงแม้ว่าบน iOS 12 จะมาพร้อมกับโหมด Do Not Disturb หรือโหมดห้ามรบกวน กับการปิดการแจ้งเตือน และสายเรียกเข้า เพื่อไม่ให้รบกวนผู้ใช้ในเวลาพักผ่อน หรืออยู่ในห้องเรียน, ที่ประชุม แต่ในกรณีที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉิน ยกตัวอย่างเช่น ทางโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลส่งข้อความแจ้งเตือนฉุกเฉินให้กับผู้ใช้ ข้อความเหล่านี้สามารถปรากฏบน iPhone ของผู้ใช้ได้แม้ว่าจะเปิดใช้โหมด Do Not Disturb อยู่ในตอนนั้นก็ตาม
10. ปรับปรุงการรองรับไฟล์ภาพ RAW
จริง ๆ แล้ว การรองรับไฟล์ภาพแบบ RAW หรือไฟล์ภาพจากกล้องที่ยังไม่ผ่านการประมวลผลใด ๆ มีมาตั้งแต่ iOS 10 แล้ว โดยบน iOS 12 ได้ปรับปรุงการรองรับไฟล์ภาพดังกล่าว ให้สามารถแก้ไขภาพบน iPhone และ iPad ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
--------------------------------------
ที่มา : theverge.com , apple.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 05/06/2018
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |