ถ้าหากใครที่ติดตามข่าวสารของ
BlackBerry Playbook มาโดยตลอด จะพบว่า
BlackBerry Playbook นั้นเป็น แท็บเล็ต (Tablet) ที่มีปัญหามากที่สุดรุ่นหนึ่งครับ โดยเฉพาะเรื่องของการเชื่อมต่อ และเครือข่าย ที่ตอนนี้ยังมีหลายคนที่ไม่ชอบใจเรื่องนี้อยู่พอสมควรเหมือนกัน หนก่อน ผมได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ
BlackBerry Bridge ไปแล้ว ซึ่งคาดว่า น่าจะกระจ่างในหลายๆ เรื่อง สำหรับคนที่อยากจะซื้อ
BlackBerry Playbook มาใช้ จริงๆ แล้ว
BlackBerry Playbook มีข้อจำกัดในหลายๆ ด้าน สำหรับคนที่ไม่มี โทรศัพท์มือถือ BlackBerry แล้วอยากจะใช้
BlackBerry Playbook แต่ที่ต่างประเทศ นอกจากจะมีปัญหาในเรื่องนี้แล้ว คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือ BlackBerry อยู่แล้ว ก็กลับไม่สามารถใช้งาน
BlackBerry Playbook ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเช่นเดียวกัน วันนี้ผมขอนำบทความจากเว็บไซต์
InfoWorld มาให้ได้อ่านกันครับ มาดูกันว่า เค้าคนนี้ เผชิญปัญหาอะไรเกี่ยวกับ
BlackBerry Playbook บ้าง
ระบบการเชื่อมต่อ
แน่นอนว่า
ปัญหาแรกของ BlackBerry Playbook ก็คือ การที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบอีเมล ปฏิทิน หรือรายชื่อผู้ติดต่อได้ โดยปราศจากการใช้โทรศัพท์มือถือ BlackBerry นั่นหมายความว่า ถ้าหากไม่มี โทรศัพท์มือถือ BlackBerry แล้ว
BlackBerry Playbook ก็เป็นแค่ แท็บเล็ต (Tablet) ธรรมดาๆ เครื่องนึง ที่ไม่มีอะไรพิเศษหรือแตกต่างไปจาก แท็บเล็ต (Tablet) รุ่นอื่นๆ เนื่องจากสามารถเช็คอีเมลผ่านทาง Webmail Client ต่างๆ ได้อยู่แล้ว แต่จุดนี้ ผู้เขียนเค้าไม่ได้เผชิญปัญหาแค่ส่วนนี้เท่านั้นครับ ปัญหาอีกเรื่องหนึ่งก็คือ
โทรศัพท์มือถือ BlackBerry ที่เค้าใช้อยู่นั้น เป็นของเครือข่าย AT&T ซึ่งถูกบล็อก BlackBerry Bridge App แปลว่า ถึงเค้าจะมี โทรศัพท์มือถือ BlackBerry แต่ก็ยังไม่สามารถใช้งาน BlackBerry Playbook ได้อยู่ดี
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องระวัง เมื่อเชื่อมต่อ โทรศัพท์มือถือ BlackBerry กับ
BlackBerry Playbook ก็คือ
ระยะห่างระหว่าง 2 เครื่องจะต้องไม่เกิน 10 ฟุตนะครับ
App ที่สามารถใช้ได้บน แท็บเล็ต (Tablet) มีจำกัด
ถ้าถามว่า App บน
BlackBerry Playbook แทบไม่แตกต่างจากบน แอนดรอยด์ หรือ iOS เท่าไหร่ครับ พวก Twitter, YouTube, Bing Maps, Adobe Reader และก็โปรแกรม Office ก็สามารถใช้ได้ อีกทั้งนักพัฒนา ระบบจาวา และ แอนดรอยด์ ก็ยังสามารถปรับ App ให้สามารถใช้บน
BlackBerry Playbook ได้ด้วย แต่ปัญหาก็คือว่า
กระบวนการในการสร้าง App ให้กับ RIM ที่ค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อน อาจจะทำให้นักพัฒนาหมดกำลังใจที่จะทำเลยก็เป็นได้ครับ เหมือนกับว่า ถ้าหากจะลงมือสร้าง App บน
BlackBerry Playbook จะต้องคิดให้ดี ตัดสินใจให้ดี ก่อนลงมือทำ ไม่งั้นอาจจะเสียเวลาได้
ระบบความปลอดภัยที่ไม่แน่นอน
จริงๆ แล้ว บนโทรศัพท์มือถือ BlackBerry จะมีระบบป้องกันที่เรียกว่า BlackBerry Enterprise Server (BES) ซึ่งบังคับให้ตั้งพาสเวิร์ด
แต่ BlackBerry Playbook ไม่มีระบบ BES ครับ หมายความว่า เมื่อใดก็ตามที่
BlackBerry Playbook หาย ถูกขโมย หรือถูกยืมไปใช้ ข้อมูลส่วนตัว ความลับ อีเมล ก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป เพราะใครก็สามารถอ่านได้โดยไม่ต้องใส่พาสเวิร์ดเลย ซึ่งจุดนี้ ผู้เขียนมองว่า เป็นสิ่งที่ RIM พลาดมากที่สุดครับ
แต่อย่างน้อย UI ก็น่าใช้
ใช่ว่า ผู้เขียนท่านนี้เค้าจะมอง
BlackBerry Playbook ในแง่ร้ายเสมอไปครับ อย่างน้อย ก็มี User Interface (UI) ที่ถูกใจ ใช้งานง่าย และแยกเป็นสัดส่วน แต่ผมคิดว่า ที่ผู้เขียนท่านนี้มองว่า ใช้ง่าย อาจจะเป็นเพราะตัวเค้าใช้ โทรศัพท์มือถือ BlackBerry อยู่แล้วด้วย จึงอาจจะคุ้นเคยกับ UI มากกว่า นอกจากนี้
BlackBerry Playbook นั้น รองรับ Flash Player อีกด้วยครับ
ราคาเท่ากับ iPad
ผู้เขียนท่านนี้มองว่า ถึงแม้ราคาของ
BlackBerry Playbook รุ่น Wi-Fi จะเท่ากับ iPad 2 นั่นคือ 16GB = 499$, 32GB = 599$ และ 64GB = 699$ แต่จริงๆ แล้วราคานี้ยังถือว่า แพงไปครับ เพราะว่า
จะใช้ BlackBerry Playbook ให้สมบูรณ์ได้ ก็จะต้องมี โทรศัพท์มือถือ BlackBerry อีกเครื่องนึงด้วย หมายความว่า ต้องไปหาซื้อโทรศัพท์เพิ่มนั่นเองครับ
ได้อ่านบทวิเคราะห์จากผู้ใช้ในต่างแดนกันไปแล้ว ถึงแม้ในประเทศไทยเราจะยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับ
BlackBerry Playbook และประสิทธิภาพในการใช้งาน แต่คาดว่า เมื่อถึงวันนั้น
BlackBerry Playbook อาจจะถูกปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ก็เป็นได้ครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม :
macworld.com Update : 27/04/2011
PC and Notebook
Blackberry
BlackBerry PlayBook
BlackBerry Bridge