ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีบนสมาร์ทโฟนที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่ นิยมถ่ายรูปด้วยกล้องบนสมาร์ทโฟน มากกว่าที่จะใช้กล้องคอมแพ็ค เนื่องจากมีความสะดวก รวดเร็ว และสามารถแชร์ภาพไปยัง Social Network ได้ง่ายกว่า แต่เมื่อเราถ่ายภาพ หรือคลิปวีดีโอเก็บไว้ในปริมาณที่มากขึ้น ปัญหาที่ตามมาก็คือ พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนสมาร์ทโฟนไม่เพียงพอ ซึ่งถ้าหากใช้สมาร์ทโฟน ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ได้ ก็คงจะหมดกังวลในเรื่องนี้ไปได้ เนื่องจากบางรุ่น สามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 128 GB แต่สำหรับสมาร์ทโฟน ที่ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมภายนอกได้ อย่างเช่น iPhone หรือ Samsung Galaxy S6 แน่นอนว่า ถ้าหากจัดสรรพื้นที่ในการเก็บข้อมูลที่ไม่ดี จะก่อให้เกิดปัญหา ตัวเครื่องเต็ม อย่างแน่นอน และล่าสุด ทางดีแทค ได้เปิดตัว Capture App ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับจัดเก็บรูปภาพ หรือคลิปวีดีโอ โดยจะถูกจัดเก็บไว้บน Cloud Storage ลักษณะเดียวกับ iCloud, Dropbox หรือ Google+ นั่นเอง
สำหรับจุดเด่นของ Capture App นั้น นอกเหนือไปจากการจัดเก็บรูปภาพจากทั้ง สมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ต แล้ว ยังมีความปลอดภัยต่อข้อมูล และรับประกันได้อีกด้วยว่า ข้อมูลทั้งหมดจะไม่สูญหาย ถ้าหากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตโดนขโมย นอกจากนี้ ยังใช้งานได้ง่าย และสะดวก พร้อมรับพื้นที่สูงสุดถึง 100 GB อีกทั้ง ยังสามารถใช้งานข้ามแพลทฟอร์ม ซึ่งได้แก่ Android, iOS และใช้งานบนเว็บไซต์ ได้อีกด้วย
โดยในวันนี้ ทีมงาน techmoblog จะทำการ รีวิวการใช้งาน แอปพลิเคชัน Capture App มาชมกันดีกว่า แอปพลิเคชันดีๆ จากดีแทคนี้ จะใช้งานได้ง่าย และมีประโยชน์มากแค่ไหน
เริ่มต้นใช้งานด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Capture App กันก่อน โดยสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ทั้งบน Android และ iOS
เมื่อดาวน์โหลดและติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระบบจะให้ลงทะเบียนด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ พร้อมกับระบุอีเมล หลังจากนั้น จะมีการส่งรหัส OTP 4 หลักมาทาง SMS เพื่อสมัครใช้บริการ
จากนั้นจะเป็นการตั้งค่าการอัพโหลดรูปภาพและคลิปวีดีโอ โดยจะถามว่า จะให้ทำการอัพโหลดรูปภาพและวีดีโอทั้งหมดเลยหรือไม่ และอัพโหลดผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ อย่างเช่น เครือข่าย 3G หรือ 4G ด้วยหรือเปล่า แต่จุดนี้ ถ้าเป็นไปได้ ขอแนะนำว่า อย่าเปิดการอัพโหลดผ่านทางเครือข่าย 3G หรือ 4G จะดีกว่า
มาเริ่มใช้งาน Capture App กันเลยดีกว่า โดยในส่วนนี้ จะเป็นส่วนของรูปภาพและคลิปวีดีโอทั้งหมด ที่ถูกอัพโหลดลงบน Capture App นั่นเอง
สำหรับเมนูด้านซ้ายมือ จะมีเมนูหลักๆ 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ Photos ซึ่งจะเป็นส่วนจัดการรูปภาพทั้งหมดบน Capture App ไม่ว่าจะเป็น เพิ่มรูป, แชร์รูป และลบรูป ถัดมาคือ Stories สำหรับการเขียนเรื่องราวผ่านทางรูปภาพต่างๆ และสุดท้าย Settings ตั้งค่าการใช้งาน
มาดูวิธีการอัพโหลดรูปลง Capture App กันครับ ด้วยการคลิกที่คำว่า Add จากนั้นให้เลือกรูปที่ต้องการจะอัพโหลด ทั้งจาก Album ที่อยู่ในสมาร์ทโฟน หรือจะถ่ายรูปใหม่เพื่อจัดเก็บก็ได้
ถัดมาเป็นการแชร์รูป ด้วยการคลิกภาพที่ต้องการแชร์ จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Share ก็จะมีให้เลือกว่า ต้องการแชร์ไปที่ใด เช่น Message, Mail, Twitter หรือ Facebook
ส่วนการลบรูปภาพก็เช่นเดียวกัน เลือกรูปภาพที่ต้องการลบ และกดปุ่ม Delete
สำหรับลูกเล่นที่น่าสนใจบน Capture App นั่นก็คือ Stories หรือการนำรูปภาพต่างๆ มาทำเป็น Photo Album แล้วแชร์ผ่าน Social Network นอกจากนี้ ยังสามารถคอมเมนต์ภาพต่างๆ ได้อีกด้วย
หลังจากเลือกรูปภาพที่ต้องการได้แล้ว (เพิ่มกี่รูปก็ได้) ให้ใส่ชื่อเรื่อง, ชื่อผู้สร้างอัลบั้ม จากนั้น ให้คลิก Share my Story หรือสามารถเลือกแชร์ได้ในภายหลัง
เมื่อสร้าง Story เสร็จแล้ว จะได้อัลบั้มที่มีลักษณะดังนี้ ซึ่งสามารถคอมเมนต์ภาพต่างๆ ได้อีกด้วย
ในส่วนของหน้าการตั้งค่า (Settings) สามารถตั้งค่าให้ Capture App สามารถอัพโหลดรูปแบบอัตโนมัติ (ถ่ายรูปแล้วอัพโหลดให้ทันที) หรือจะตั้งค่าให้อัพโหลดด้วยตนเอง (Manual) ก็ได้
จากการทดสอบใช้งานแอปพลิเคชัน Capture App จากดีแทคในเบื้องต้น พบว่า เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ซึ่งเหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ชอบถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนเป็นประจำ อีกทั้งขนาดไฟล์ของภาพถ่าย 1 รูปก็ประมาณ 3-4 MB เรียกได้ว่า ต่อให้สมาร์ทโฟนมีพื้นที่เยอะแค่ไหน ก็คงไม่เพียงพอ ส่วนการอัพโหลดรูปภาพ ก็ถือว่า ทำได้อย่างรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความเร็วของอินเทอร์เน็ต ณ เวลานั้นๆ ด้วยครับ
อย่างไรก็ดี แม้ว่า Capture App จะรองรับการใช้งานผู้ใช้ทุกเครือข่าย ซึ่งจะได้รับพื้นที่การใช้งาน 2 GB แต่เนื่องจากเป็นแอปพลิเคชันจาก ดีแทค แน่นอนว่า ผู้ใช้ดีแทคจะได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าอยู่แล้ว โดยลูกค้าแฮปปี้แบบเติมเงิน ได้พื้นที่ฟรี 25 GB จนถึงสิ้นปี 2558 และถ้าหากต้องการใช้งานต่อ จะต้องสมัครใช้บริการ Capture App ขนาด 25 GB ในราคา 39 บาทต่อเดือน
ส่วนลูกค้าดีแทคแบบรายเดือน ทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ จะได้รับพื้นที่การใช้งานแตกต่างกันตามแพ็กเกจที่เลือกใช้ รายละเอียดดังนี้
นอกจากแอปพลิเคชัน Capture App จะสามารถใช้งานได้ทั้ง สมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ต บนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS แล้ว ยังสามารถใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์ https://dtacplay.dtac.co.th/web/DtacplayApps/captureapp ทั้งบนเครื่อง Mac และ PC ได้อีกด้วย เรียกได้ว่า สะดวกมากเลยทีเดียวครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม : Capture App
---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 11/05/2015
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |