โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 ใหม่ล่าสุด ขับเคลื่อนประสิทธิภาพพร้อมประสบการณ์การใช้งานที่เหนือชั้น ในแล็ปท็อปกว่า 300 รุ่น
กรุงเทพฯ 4 มกราคม 2566 - อินเทลได้ประกาศเปิดตัวตระกูลโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 13 ใหม่ล่าสุดที่งาน CES 2023 หรือ Consumer Electronics Show 2023 พร้อมขุมพลังที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่เหนือชั้นสำหรับการใช้งานกับแพลตฟอร์มโมบายล์ต่าง ๆ โดยเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 รุ่นใหม่ จำนวน 32 ตัว ชูฟีเจอร์อัดแน่นพร้อมมอบศักยภาพการทำงานที่ตอบโจทย์แล็ปท็อปในทุกเซกเมนต์
นางสาวมิเชล จอห์นสตัน โฮลท์เฮาส์ (Michelle Johnston Holthaus) รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไปฝ่าย Client Computing Group ของอินเทล กล่าวว่า "ประสิทธิภาพการทำงานอันเหนือชั้นและความสามารถในการขยายขนาดได้ตามต้องการของตระกูลโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 ช่วยขับเคลื่อนศักยภาพแพลตฟอร์มชั้นนำให้กับแล็ปท็อปได้ทุกรุ่น ด้วยเทคโนโลยีที่มีคุณสมบัติชั้นนำในอุตสาหกรรมและระบบนิเวศเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกของอินเทล ทุกคนจะสามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งานชั้นยอดได้ทุกที่บนอุปกรณ์พีซีในขนาดใหม่ ๆ ที่หลากหลายและแตกต่างกัน ไม่ว่าผู้ใช้จะเล่นเกมหรือสร้างสรรค์ผลงานจากที่ใดก็ตาม”
โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core H-ซีรีส์ เจนเนอเรชั่น 13 โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพเทคโนโลยีชั้นนำในอุตสาหกรรม
อินเทลยังคงเดินหน้าก้าวข้ามขีดจำกัด พร้อมขยายขุมพลังประสิทธิภาพและศักยภาพแห่งการประมวลผลเพื่อเหล่าเกมเมอร์และนักสร้างสรรค์เนื้อหาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core H-ซีรีส์ เจนเนอเรชั่น 13 รวมถึงโปรเซสเซอร์ตัวแรกที่มีจำนวนคอร์ถึง 24 คอร์สำหรับการใช้งานกับแล็ปท็อป เมื่อผสานเข้ากับฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่างเครื่องมือรองรับหน่วยความจำ DDR4 และ DDR5 ฟังก์ชันการเชื่อมต่อที่เหนือชั้นและรองรับการใช้งาน PCIe Gen 5 จึงทำให้โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core HX เจนเนอเรชั่น 13 กลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับโมบายล์เกมที่ดีที่สุดในโลกในตอนนี้2
ไฮไลต์เด่นของโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core HX ใหม่ มีดังต่อไปนี้
ด้วยขุมพลังประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 ที่ให้ความเร็วแรงมากกว่าเจนเนอเรชั่น 12 ถึง 5 เท่า ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้แล็ปท็อปที่ใช้โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core HX กว่า 60 รุ่น ในการสตรีม สร้างสรรค์ผลงาน หรือเล่นเกมได้เป็นอย่างดีและราบรื่นตามกำลังสูงสุด
โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core P-ซีรีส์ และ U-ซีรีส์ เจนเนอเรชั่น 13 เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้แล็ปท็อปดีไซน์บาง-น้ำหนักเบา
นอกจากนี้ อินเทลยังได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core P-ซีรีส์ และ U-ซีรีส์ เจนเนอเรชั่น 13 ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่มองหาแล็ปท็อปที่มีประสิทธิภาพการใช้งานสูงพร้อมดีไซน์บางเฉียบให้สร้างสรรค์งานหรือเล่นเกมได้ทุกที่ โดยมีไฮไลต์สำคัญดังนี้
นับเป็นครั้งแรกที่แล็ปท็อปที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 จะมาพร้อมกับฟีเจอร์อย่างหน่วยประมวลผลวิสัยทัศน์ Intel® Movidius vision processing unit (VPU) ซึ่งเป็นผลจากการประสานงานด้านวิศวกรรมร่วมกับบริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) ในโหมด Window Studio Effects ใหม่ล่าสุด หน่วย VPU ใหม่นี้สามารถช่วยในการประมวลผลที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligent: AI) เพื่อการทำงานร่วมกันของระบบและการสตรีมระดับมืออาชีพโดยเฉพาะ ทำให้หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit: CPU) และหน่วยประมวลผลภาพกราฟิก (Graphics Processing Unit: GPU) มีพื้นที่ว่างสำหรับเวิร์กโหลดอื่น ๆ หรือการทำงานแบบมัลติทาสกิ้งอื่น ๆ แทนได้
โปรเซสเซอร์โมบายล์ H-ซีรีส์, P-ซีรีส์ และ U-ซีรีส์ใหม่ จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพของแล็ปท็อปรุ่นใหม่ให้ทำงานได้ราบรื่นกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อปที่มีดีไซน์บางเฉียบและน้ำหนักเบาแต่ประสิทธิภาพสูง หรืออุปกรณ์ 2-in-1 แบบพับได้ และฟอร์มแฟคเตอร์อื่น ๆ อีกมากมาย โดยในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีแล็ปท็อปดีไซน์ใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำกันกว่า300 รุ่นเปิดตัวในตลาด เช่น Acer, Asus, Dell, HP, Lenovo, MSI, Razer, Republic of Gamers, Samsung และอื่น ๆ
สำหรับ IoT edge นั้น โปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 มีฟีเจอร์รูปแบบใหม่ ๆ ที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์การใช้งานในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย รวมถึงระบบปฏิบัติการที่ควบคุมอุณหภูมิของอุปกรณ์ให้ทำงานได้ต่อเนื่องยาวนานมากขึ้น และ CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมความสามารถด้านกราฟิกและประสิทธิภาพ AI ที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมค้าปลีก การศึกษา การดูแลสุขภาพ การบินและอวกาศ อุตสาหกรรม และเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยโปรเซสเซอร์ตัวใหม่นี้จะเพิ่มประสิทธิภาพการผสานรวมเวิร์กโหลดที่ดีขึ้นด้วยคอร์และเธรดที่มากขึ้น ส่งผลให้แอปพลิเคชันสามารถทำงานบนอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในเครื่องเดียว
แล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่ผสานพลัง Intel Evo มาพร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น และประสบการณ์การใช้งานที่เหนือชั้น
อินเทลยังคงเดินหน้าในการยกระดับมาตรฐานแล็ปท็อปและอุปกรณ์แบบพกพาอื่น ๆ ตามมาตรฐานสัญลักษณ์ Intel® Evo™ ภายใต้ข้อกำหนดใหม่นี้ แล็ปท็อปมาตรฐาน Intel Evo ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่
นอกจาก Intel Evo จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับบนแล็ปท็อปแล้ว โครงการ Engineered for Intel Evo ยังได้ขยายมาตรฐานระดับสูงในการตรวจสอบรับรอง และร่วมมือกับผู้ผลิตชั้นนำมากมาย นอกจากแท่นเชื่อมต่อ Thunderbolt 4, จอภาพ, ที่เก็บข้อมูล และชุดหูฟังไร้สายแล้ว อุปกรณ์เสริมใหม่ ๆ เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด และอุปกรณ์กระจายสัญญาณ Wi-Fi จากพันธมิตรหลักยังเข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย
โปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 ตอกย้ำความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล
อินเทลตอกย้ำประสบการณ์การใช้งานโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปที่ดีที่สุดในโลก ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในวันนี้10 ต่อเนื่องจากการเปิดตัวตระกูลเดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์เจนเนอเรชั่น 13 ครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา กับโปรเซสเซอร์ K-ซีรีส์ และล่าสุดกับเดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 ที่ใช้พลังงานขนาด 35 วัตต์ และ 65 วัตต์ที่ช่วยให้ผู้ใช้พีซีทั่วไปมีทางเลือกสำหรับประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้นในขณะที่ยังคงให้ประสิทธิภาพชั้นยอดสำหรับการเล่นเกม การสร้างสรรค์เนื้อหา และประสิทธิภาพการใช้งาน
โดยมีไฮไลต์สำคัญดังต่อไปนี้
อินเทลเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Intel N-ซีรีส์ ใหม่ สำหรับการประมวลผลระดับเริ่มต้น
หลังจากประกาศเลิกใช้ชื่อ Intel Pentium and Intel Celeron branding ในการทำตลาด วันนี้อินเทลได้เปิดตัว Intel Processor และ Intel Core i3 รุ่นใหม่ในตระกูล N-ซีรีส์ สำหรับใช้งานด้านการศึกษา การ์ประมวลผลระดับเริ่มต้น และแอปพลิเคชัน IoT แบบ Edge Native โดยมีฟีเจอร์สำคัญดังนี้
โปรเซสเซอร์เหล่านี้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ในแวดวงการศึกษาและผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการอุปกรณ์ที่เน้นความคุ้มค่าในราคาที่จับต้องได้ โดยยังคงต้องการสมรรถนะและการใช้งานที่มีคุณภาพสูงในด้านต่าง ๆ เช่น การทำงานผ่านวิดีโอและประสิทธิภาพการใช้งาน ซึ่งในปี 2566 นี้ คาดว่า Acer, Dell, HP, Lenovo และ ASUS จะนำเสนอแล็ปท็อปรุ่นใหม่ ๆ กว่า 50 รุ่นออกสู่ตลาด โดยที่อินเทลยังคงความเป็นผู้นำด้านความร่วมมือเพื่อสร้างระบบนิเวศสำหรับ ChromeOS และ Windows ต่อไปในอนาคต
สำหรับแอปพลิเคชัน IoT แบบ Edge Native นั้น โปรเซสเซอร์ Intel Atom® x7000E Series, โปรเซสเซอร์ Intel N-ซีรีส์ และ Intel Core i3 N-ซีรีส์ ช่วยอนุมานข้อมูลการเรียนรู้เชิงลึก รวมถึงประมวลผลกราฟิก และประมวลผลสื่อได้ด้วยโปรเซสเซอร์ที่ประหยัดพลังงานได้ดีที่สุดจากอินเทล โดยโปรเซสเซอร์เหล่านี้ใช้สำหรับป้ายดิจิทัลร้านค้า ตู้คีออสก์ ระบบชำระเงิน อุปกรณ์สร้างภาพทางการแพทย์แบบพกพา อุปกรณ์เครื่องใช้แบบอัตโนมัติในสำนักงาน เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร รวมไปถึงอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย เช่น อุปกรณ์บันทึกวิดีโอบนเครือข่ายและกล่อง AI สำหรับการใช้งานขั้นพื้นฐาน
เสียงสนับสนุนจากองค์กรต่าง ๆ
นายปานอส ปาเนย์ (Panos Panay) รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “เรายังคงเดินหน้าผนึกความร่วมมือกับอินเทลในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังบนระบบ Windows 11 รวมถึงทุกผลิตภัณฑ์ที่อินเทลได้เปิดตัวในวันนี้ เรายินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเพิ่มประสิทธิภาพสำคัญในโซลูชันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงการสนับสนุน Windows ให้รองรับการใช้งาน Intel Hybrid Guided Scheduler ได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงฟีเจอร์การใช้งานใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพและคุณค่า เช่น Intel Movidius VPU ที่ปลดล็อกการทำงานของ AI ไปสู่มิติใหม่ที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม ด้วยโหมด Windows Studio ซึ่งถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น”
หมายเหตุ
1 Intel Core i9-13980HX เจนเนอเรชั่น 13 เป็นโปรเซสเซอร์โมบายล์ที่เร็วที่สุดที่ความเร็ว 5.6GHz จากข้อมูลเมื่อเดือนธันวาคม 2565.
2 เมื่อวัดจากคุณสมบัติเฉพาะด้านและประสิทธิภาพการทำงานในโหมดเปรียบเทียบสมรรถนะในขณะเล่นเกมระหว่าง Intel® Core™ i9-13950HX เจนเนอเรชั่น 13 ที่ใช้ร่วมกับ GPU ของ NVIDIA RTX 3080 Ti เทียบกับ Intel® Core™ i9-12900HX เจนเนอเรชั่น 12 ที่ใช้ GPU รุ่นเดียวกัน และเมื่อเทียบกับ AMD R9-6900HX ที่ใช้ GPU รุ่นเดียวกัน จากข้อมูลเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565
3 เมื่อวัดประสิทธิภาพของ Intel® Core™i9-13950HX เจนเนอเรชั่น 13 เทียบกับ Intel® Core™i9-12900HX เจนเนอเรชั่น 12 โดยใช้เกณฑ์ SPECrate*2017_fp_base (1 copy)
4 เมื่อวัดประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ Intel® Core™i9-13950HX เจนเนอเรชั่น 13 ที่ใช้ GPU ของ NVIDIA RTX 3080 Ti เทียบกับ Intel® Core™i9-12900HX เจนเนอเรชั่น 12 ที่ใช้ GPU รุ่นเดียวกัน โดยใช้เกณฑ์ SPECrate*2017_fp_base (1 copy)
5 ขึ้นอยู่กับความพร้อมใช้งานในย่านความถี่ระดับ 6 GHz การรองรับของระบบปฏิบัติการ และความเข้ากันได้ของเราเตอร์
6 Intel® Connectivity Performance Suite ใช้งานได้เฉพาะกับ Windows เท่านั้น
7 เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ I/O แบบสองทิศทางในเครื่องลูกข่ายที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น eSATA และ USB ต้องเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์เสริม Thunderbolt 3 หรือรุ่นใหม่กว่าเพื่อการใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
8 Intel® Connectivity Performance Suite ใช้งานได้เฉพาะบน Windows เท่านั้น
9 โซลูชัน Intel® Unison™ ใช้ได้เฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์แล็ปท็อป Intel® Evo™ ที่ใช้งานได้กับพีซี Windows ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 หรือใหม่กว่า และจับคู่กับโทรศัพท์ที่ใช้ Android หรือ iOS เท่านั้น อุปกรณ์ทั้งหมดต้องใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นที่รองรับเท่านั้น ดูรายละเอียดและข้อกำหนดในการตั้งค่า ได้ที่ intel.com/performance-evo ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไป
10 อิงตามประสิทธิภาพและคุณสมบัติเฉพาะด้านของโปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 ซึ่งรวมถึงการเปรียบเทียบกับ Intel Core i9-12900K เจนเนอเรชั่น 12, AMD Ryzen 9 5950X และ AMD Ryzen 7 5800X3D จากข้อมูลเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2565
11 ข้อมูลของ Intel ระบุว่า จากการประเมินผลตามเกณฑ์ SPECint_rate_base2017_IC2022.1 (1-copy และ n-copy) โดยใช้แพลตฟอร์ม Intel validation Platforms ในการเปรียบเทียบ Core i9 13900 กับ Core i9 12900
12 เมื่อวัดคะแนนรวมประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ Intel N200 เทียบกับ Pentium Silver N6000 โดยใช้เกณฑ์ของ CrossMark และเมื่อวัดประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์สองรุ่นดังกล่าว โดยใช้ 3DMark Wildlife Unlimited
13 เมื่อวัดคะแนนรวมประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ Intel Core i3 N-305 เทียบกับ Intel Processor N200 โดยใช้เกณฑ์ของ CrossMark และเมื่อวัดประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ Intel Core i3 N-305 เทียบกับ Intel Processor N200 โดยใช้ 3DMark Wildlife Unlimited
14 เมื่อวัดการใช้พลังงานของอุปกรณ์ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel N200 บนแพลตฟอร์ม Intel Internal Validation ด้วยการทดสอบระดับแบตเตอรี่ขณะสตรีม Netflix ที่ความละเอียดระดับ 1080p
Update : 04/01/2023
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |