สำหรับ iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน ปี 2017 ที่ผ่านมา ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาและถือว่าแตกต่างจาก iPhone รุ่นอื่น ๆ นั่นก็คือ iPhone ทั้ง 3 รุ่นนี้รองรับการชาร์จแบบไร้สายนั่นเอง โดย Apple เองก็มีแท่นชาร์จแบบไร้สายในชื่อ AirPower ที่สามารถชาร์จอุปกรณ์ได้พร้อมกันถึง 3 ตัว (เตรียมวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้) ซึ่งถือว่าทำให้การชาร์จแบตเตอรี่สะดวกสบายมากขึ้น และไม่มีสายมาเกะกะกวนใจ แต่จากการเปิดเผยล่าสุดจากกูรูเว็บชื่อดัง ระบุว่า ภายใต้ความสะดวกสบายเหล่านี้ ก็มีข้อเสียที่ผู้ใช้ iPhone จะต้องแลกด้วยแบตเตอรี่ที่จะเสื่อมเร็วขึ้น
AirPower
โดย Adrian Kingsley-Hughes จากเว็บไซต์ ZDNet ได้เปรียบเทียบการชาร์จแบตเตอรี่บน iPhone 8 Plus ระหว่างการชาร์จแบบไร้สาย กับเสียบสายชาร์จ และพบว่า การชาร์จแบบไร้สายนั้น ส่งผลต่ออายุของแบตเตอรี่ในระยะยาว ซึ่ง Adrian เผยว่า ในระยะเวลา 4 เดือนนั้น iPhone ที่ชาร์จแบบไร้สาย รอบชาร์จไอโฟน (Recharge Cycle) ผ่านไปแล้วถึง 90 ครั้ง และอีก 6 สัปดาห์ถัดมา แตะที่ 135 ครั้ง
เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลจาก Apple เผยว่า แบตเตอรี่บน iPhone ถูกออกแบบให้สามารถชาร์จที่ระดับ 80% ได้ทั้งหมด 500 รอบชาร์จไอโฟน ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปจะใช้เวลาราว ๆ 2-3 ปีจนกว่าจะครบ 500 รอบชาร์จ แต่จากพฤติกรรมการชาร์จแบตเตอรี่บน iPhone ของ Adrian Kingsley-Hughes คาดว่า อาจครบรอบชาร์จ 500 ครั้งภายในระยะเวลา 1 ปีกับ 6 เดือนเท่านั้น
ปกติแล้ว การชาร์จ iPhone ด้วยสายชาร์จกับแท่นชาร์จไร้สาย มีอัตราการรับปริมาณกระแสไฟที่แตกต่างกัน ซึ่งการชาร์จแบบไร้สายนั้น กระแสไฟจะถูกส่งเข้าตัวเครื่องในระดับสูงสุด และจะไม่มีการตัดกระแสไฟเมื่อแบตใกล้เต็ม นั่นหมายความว่า เมื่อเราชาร์จ iPhone แบบไร้สาย ต่อให้ชาร์จจนเต็ม 100% แล้ว ก็ยังรับกระแสไฟตลอดเวลา ส่งผลทำให้รอบชาร์จลดลง และแบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น ซึ่ง Adrian Kingsley-Hughes ยอมรับว่า ที่ผ่านมาวาง iPhone ไว้บนแท่นชาร์จตลอดเวลาแม้จะไม่ได้ใช้งานก็ตาม อีกทั้งยังชาร์จแบตไอโฟนบ่อยขึ้นอีกด้วย
--------------------------------------
ที่มา : idropnews.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 15/03/2018
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |