เพิ่งจะเปิดตัวได้ไม่นาน Google Pixel และ Pixel XL ก็ครองใจผู้คนไปมากมาย เพียงแค่เปิดให้จองวันแรก ตัวเครื่องสี "น้ำเงินจริงอะไรจริง" Really Blue ก็หมดสต็อกไปอย่างรวดเร็วและยังคงมีความต้องการเข้ามาต่อเนื่อง แม้ในขณะนี้จะยังหาซื้อไม่ได้ในประเทศไทยแต่ก็ได้รับความสนใจจากผู้ใช้สมาร์ทโฟนในบ้านเราไม่น้อย อาจเป็นเพราะว่านี่คือสมาร์ทโฟน Android ที่แท้จริงซึ่ง Google ปั้นมาเองกับมือ หวังให้เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ iPhone จึงจัดเต็มด้วยฟีเจอร์เด็ดๆ มากมายแบบไม่มีกั๊ก โดยเฉพาะบริการ Google Photos สำรองรูปและวิดีโอขึ้น cloud ได้ไม่จำกัด และกล้องดิจิทัลที่ว่ากันว่าดีที่สุดในโลกแล้วในขณะนี้ การันตีด้วยคะแนน DxOMark ถึง 89 คะแนน หากบอกว่า Google Pixel คือที่สุดของสมาร์ทโฟน Android ก็คงจะไม่ผิดนัก
แต่อุปสรรคสำคัญสำหรับผู้ใช้ในบ้านเราที่สนใจ Google Pixel ก็คือมันยังหาซื้อยากและมีราคาสูงอยู่ อย่างต่ำก็ 23,000 บาท ในระหว่างนี้จึงน่าจะหาสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นแก้ขัดกันไปก่อน หากลองหันมามองสมาร์ทโฟนฝั่งจีนก็จะเห็นได้ว่ายังมีสมาร์ทโฟนอีกหลายรุ่นที่สเปคใกล้เคียงกับ Google Pixel แต่มีราคาถูกกว่ามาก ซึ่งในการใช้งานทั่วๆ ไปก็อาจจะทดแทนกันได้ ในครั้งนี้เราจึงได้คัดสมาร์ทโฟนแดนมังกร 6 รุ่นที่มีสเปคสูสีกับ Google Pixel มาให้ชมกันครับ
ก่อนอื่นเรามาดูสเปคและจุดเด่นของ Google Pixel/Pixel XL กันก่อนครับ
สำหรับสมาร์ทโฟนจากฝั่งจีนที่มีสเปคพอจะวัดกับ Google Pixel ทั้ง 2 รุ่นได้ มีดังต่อไปนี้ครับ
1. OnePlus 3
ราคาประมาณ 15,000 บาท
OnePlus 3 มีหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว แบบ Optic AMOLED ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน สามารถใช้งานในที่แสงจ้าได้เป็นอย่างดี ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 820 RAM 6 GB, หน่วยความจำภายใน 64 GB แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh พร้อมระบบ Dash charger ชาร์จจาก 0% ถึง 60% ในเวลาเพียง 30 นาที และมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Oxygen OS ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.1 Marshmallow ในภาพรวมนับว่าเปคสูงพอจะสู้กับ Pixel ได้อย่างสบาย ส่วนกล้องดิจิทัลก็ทำงานได้ดีและรวดเร็วไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นถึงแม้จะเทียบกับ Pixel ไม่ได้ก็ตาม นอกจากนี้ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากมายแต่ราคาถือว่าน่าคบหาครับ
2. Huawei P9
ราคา 16,900 บาท
Huawei เป็นแบรนด์จีนที่เติบโตเร็วมากในช่วงระยะหลังมานี้ จนอาจนับได้ว่าก้าวขึ้นมาแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung และ Apple ได้อย่างไม่น่าเกลียด และ Huawei P9 ก็นับเป็นผลงานชิ้นเอกในปีนี้ ด้วยหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล, ชิปเซ็ต Kirin 955 RAM สูงสุด 4 GB ความจุสูงสุด 64 GB รองรับ microSD Card มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และยังรองรับการใช้งาน2 ซิมการ์ด พร้อมพอร์ต USB Type-C และระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow สำหรับเรื่องกล้องซึ่งเป็นจุดขายของรุ่นนี้ เป็นกล้องคู่ที่ได้รับการออกแบบและควบคุมการผลิตโดย Leica ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, พิกเซลขนาด 1.25 ไมครอน, รูรับแสงกว้าง F/2.2, ไฟแฟลชแบบ Dual-LED และระบบโฟกัสภาพแบบ Hybrid Focus ซึ่งระบบกล้องคู่นี้ ตัวแรกจะถ่ายภาพสีแบบ RGB ส่วนกล้องตัวที่สองจะถ่ายภาพขาวดำ แล้วรวม 2 ภาพเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดของทั้งภาพสี และภาพขาวดำได้ดียิ่งขึ้น แต่หากเทียบกับ Pixel ในเรื่องกล้องแล้วก็ยังคงเป็นรองอยู่นิดหน่อย สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนดีๆ ประสิทธิภาพคุ้มราคา Huawei P9 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีครับ
3. ZTE Axon 7
ราคา 15,990 บาท
ZTE Axon 7 เป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่น่าสนใจ ที่มีจุดเด่นด้านระบบเสียงแบบ 360 องศา ด้วยระบบ Dolby Atmos 7.1 พร้อมชิปเสียงแบบ Dual ขับเสียงผ่านลำโพงคู่สเตอริโอ สำหรับหน่วยประมวลผลใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 820 พร้อม RAM 4 GB ความจุ 64 GB หน้าจอแสดงผล 5.5 นิ้วความละเอียด 2K มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย MiFavor UI 4.0 อีกที ในส่วนของกล้องหลังมีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (F/1.8) กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ความจุแบตเตอรี่ขนาด 3,250 mAh แต่สกิน Android ของ Axon 7 จะแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อาจต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยกันบ้าง ส่วนเรื่องกล้องนั้นแน่นอนว่าเทียบ Pixel ไม่ติด แต่ก็สามารถถ่ายรูปสวยๆ ออกมาได้สบายๆ
4. Meizu MX6
ราคาประมาณ 9,000 - 11,000 บาท
Meizu MX6 เป็นสมาร์ทโฟนบอดี้โลหะดีไซน์เรียบสวยไม่เป็นรองใครและมีราคาที่ไม่แรงมากเมื่อเทียบกับเรือธงแบรนด์อื่น ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ชิปเซ็ต Helio X20 RAM 4 GB ความจุ 32 GB รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3,060 mAh ที่มีระบบชาร์จเร็ว ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow สำหรับกล้องมาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX386 นอกจากนี้ ยังเป็นระบบโฟกัสภาพแบบ Phase Detection Autofocus และไฟแฟลชแบบ Dual-Tone Flash ซึ่งทาง Meizu บอกว่าคุณภาพเทียบเท่ากล้องของ Samsung Galaxy S7 เลยทีเดียว ทั้งหมดนี้สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาแค่หมื่นเดียวเท่านั้น ถือว่าคุ้มค่าใช้ได้ แต่หากเทียบกับสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนอื่นๆ แล้วก็อาจจะราคาสูงไปนิด ด้านการใช้งานก็นับว่าไหลลื่น น่าจะพอสู้กับ Pixel และ Pixel XL ได้สูสีในการใช้งานทั่วๆ ไป
5. LeEco Le Pro 3
ราคาประมาณ 9,000 - 11,000 บาท
LeEco เป็นแบรนด์จีนที่เพิ่งจะเข้ามาทำตลาดสมาร์ทโฟนได้ไม่กี่ปีแต่ก็ก้าวขึ้นมามีจุดยืนในวงการได้อย่างน่าจับตามอง เรือธงตัวล่าสุด Le Pro 3 โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีมีสไตล์ ส่วนถายในก็ทรงประสิทธิภาพด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 821 พร้อม RAM 4 GB และความจุภายใน 64 GB หากวัดกันที่สเปคก็สามารถสู้กับ Pixel ได้สบายๆ แต่จุดอ่อนสำคัญของ Le Pro 3 คือไม่มีช่องเสียบหูฟังมาให้ มีเพียงพอร์ต USB-C เท่านั้น ซึ่งหลายคนอาจจะทำใจยอมรับไม่ได้ตรงจุดนี้
6. Xiaomi Mi 5s / 5s Plus
ราคาประมาณ 14,000 บาท
Xiaomi เป็นหนึ่งในพี่ใหญ่แห่งวงการสมาร์ทโฟนจีนที่ขยันเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ๆ ออกมาตลอด สำหรับ Xiaomi Mi 5s และ Xiaomi Mi 5s Plus ได้รับการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพในหลายด้านโดยมาพร้อมบอดี้โลหะ ชิปเซ็ต Snapdragon 821 รวมทั้งยกระดับกล้องถ่ายภาพให้ยอดเยี่ยมขึ้นด้วยการเลือกใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX378 และมีระบบกล้องคู่ Dual-camera ในรุ่น Xiaomi Mi 5s Plus โดยใช้เซ็นเซอร์รับภาพทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน คือ เซ็นเซอร์รับภาพสีและขาวดำ คล้ายๆ กับ Huawei P9 แต่กล้องหน้ามีความละเอียดน้อยไปหน่อยที่ 4 ล้านพิกเซล สำหรับสเปคระดับนี้ก็นับว่าไม่เป็นรอง Pixel หรือ Pixel XL สำหรับการใช้งานทั่วไปก็น่าจะทำได้ดีไม่แพ้กัน
---------------------------------------
ที่มา : PhoneArena
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 21/10/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |