ปัจจุบันนี้การช็อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เพราะเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีความเสถียรมากกว่าแต่ก่อน และทางเลือกในการชำระเงินที่สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น ทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะช็อปปิ้งอยู่กับบ้านผ่านหน้าจอมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และสินค้าอื่นๆ ด้วยวิธีนี้ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และไม่ต้องเหนื่อยเปล่าหากไปแล้วไม่เจอสิ่งที่ต้องการ นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกดูสินค้าได้ตลอดเวลา เปรียบเทียบราคาได้ง่าย และหลายๆ ร้านก็มักมีโปรโมชันพิเศษแบบ exclusive เฉพาะการสั่งซื้อออนไลน์อีกด้วย หากเลือกซื้อสินค้ากับร้านที่มีชื่อเสียงก็มักจะมีนโยบายรับผิดชอบหลังการขาย รวมถึงประกันสินค้าต่างๆ ทำให้หลายคนรู้สึกมั่นใจที่จะสั่งสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้การช็อปปิ้งผ่านหน้าจอกลายเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับใครหลายๆ คน ในสมัยก่อนคนที่ไม่มั่นใจไม่กล้าสั่งซื้ออาจจะกลัวว่าเราไม่สามารถตรวจเช็คสินค้าก่อนจ่ายเงินได้ แต่ในปัจจุบันหลายร้านค้าสามารถที่จะส่งสินค้าเพื่อขอเปลี่ยนกรณีที่สินค้ามีปัญหาได้ทำให้ผู้บริโภคหันมานิยมซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น
สินค้ายอดนิยมอย่างหนึ่งที่นิยมสั่งซื้อออนไลน์กันก็คืออุปกรณ์ไอทีต่างๆ โดยเฉพาะแก็ดเจ็ตและสมาร์ทโฟน นอกจากร้านค้าออนไลน์ดังๆ แล้ว ปัจจุบันนี้โอเปอเรเตอร์ค่ายต่างๆ ในไทยก็เริ่มจะหันมาให้บริการช็อปปิ้งออนไลน์แล้วเช่นกัน ซึ่งล่าสุด dtac ก็กำลังจะเปิดบริการสั่งซื้อสมาร์ทโฟนออนไลน์ โดยชูจุดเด่นเป็นเจ้าแรกของประเทศไทยที่เปิดให้ชำระค่าบริการล่วงหน้า (Advance Payment) ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่ไม่สะดวกจะเดินทางเข้าไปเลือกซื้อภายในศูนย์บริการ นอกจากนี้ผู้ใช้ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจากธนาคารชั้นนำที่ร่วมรายการ จะมีสิทธิรับเครดิตเงินคืนด้วยเช่นกัน
วันนี้เราจึงจะลองมาเปรียบเทียบกันให้เห็นความแตกต่างว่าระหว่างการซื้อผ่านโอเปอเรเตอร์กับการซื้อผ่านร้านทั่วๆ ไป นั้นมีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร เรามาดูตารางสรุปกันเลยครับ
ตารางเปรียบเทียบราคา iPhone 7 ระหว่างร้านค้าทั่วไปกับ dtac online store
จากตารางเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่า ในส่วนของราคาเครื่องเปล่าจะเริ่มต้นเท่ากันที่ 30,500 แต่ถ้าคุณเป็นลูกค้าดีแทคอยู่แล้ว (ใช้แพคเกจ 399 บาทขึ้นไป) จะได้ส่วนลดเพิ่ม 1,600 บาท ทำให้ดีแทคมีราคาที่ถูกกว่าเหลือเพียง 28,900 บาท บางคนอาจจะบอกว่าถ้าเราไม่ใช่ลูกค้าดีแทคและไม่ต้องการเปิดเบอร์หล่ะ ราคาเครื่องก็เท่ากันอยู่ดี ในส่วนของราคาเครื่องอาจจะเท่ากันครับแต่แต่ถ้าคุณต้องการผ่อนชำระ dtac สามารถผ่อนชำระ 0% ได้ถึง 24 เดือน ในขณะที่ร้านค้าทั่วไปสามารถผ่อนชำระ 0% ได้เพียง 10 เดือนเท่านั้น อีกเรื่องนึงที่ผมคิดว่าคนที่ซื้อออนไลน์ต้องให้ความสำคัญนั่นคือเรื่องการรับประกันสินค้าซึ่งกรณีที่เราซื้อกับโอเปอเรเตอร์ไม่ว่าค่ายใดหรือ dtac เองเวลาที่เครื่องมีปัญหาเราสามารถที่จะเคลมได้ที่ศูนย์บริการในขณะที่ร้านค้าทั่วไปจะต้องส่งเครื่องไปเคลมซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลานานกว่า
ผมจะลองยกตัวอย่างการซื้อ iPhone 7 รุ่นความจุ 128 GB ผ่าน dtac Online Store ว่ากรณีที่เราต้องการซื้อพร้อมแพคเกจจะได้ส่วนลดพิเศษอะไรบ้าง ตอนนี้มีโปรโมชั่น UP ของ dtac iPhone 7 รุ่นความจุ 128GB ที่วางจำหน่ายในบ้านเรามีราคาเครื่องเปล่าอยู่ที่ 30,500 บาท แต่หากสั่งซื้อผ่านโปรโมชั่น UP ของ Dtac จะได้รับส่วนลดทันที 6,000 บาท เหลือเพียง 24,500 บาท
หากเรามีการย้ายค่ายเบอร์เดิมกับทาง dtac ก็จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 1,500 บาท รวมเป็นส่วนลดทั้งหมด 7,500 บาท เบ็ดเสร็จแล้ว สามารถสั่งซื้อ iPhone 7 รุ่นความจุ 128 GB กับทาง dtac ได้ในราคาเพียง 23,000 บาท เท่านั้น
นอกจากนี้ หากสมัครแพ็กเกจรายเดือน Super Non-Stop 1,299 บาทขึ้นไป และชำระค่าบริการล่วงหน้า 3,000 บาท (เงินที่ชำระล่วงหน้าจะลดค่าบริการเดือนละ 300 บาท นาน 10 เดือน ชำระออนไลน์ได้) เมื่อใช้งานครบปีจะได้รับสิทธิพิเศษในการอัปเกรดเป็น iPhone รุ่นใหม่ในปีหน้า โดยนำเครื่องเดิมมาแลกรับส่วนลดมูลค่า 23,000 บาทสำหรับ iPhone เครื่องใหม่ หรือถ้าอยากจะเก็บเครื่องเก่าเอาไว้ ก็สามารถเลือกรับส่วนลดค่าเครื่อง iPhone รุ่นใหม่ 50% มูลค่า 11,500 บาทแทนได้
บทสรุปสั่งซื้อมือถือออนไลน์เหมาะกับใครและซื้อกับที่ไหนดีกว่ากัน ?
ปัจจุบันต้องบอกว่าการซื้ออนไลน์ช่วยให้เราประหยัดเวลา สามารถรู้ได้ว่ามีรุ่นไหนสีไหนเหลืออยู่บ้าง ไม่ต้องเสียเวลาไปเดินถามเอง และได้รับสินค้าเช่นเดียวกับการซื้อหน้าร้าน นอกจากนี้นโยบายการรับประกันหรือคืนสินค้าก็ยังมีมาตรฐานที่ดีขึ้นทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าจะได้สินค้าที่ไม่ดีหรือมีตำหนิ
การเลือกซื้อเราควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่ไว้ใจได้รวมถึงเลือกซื้อโดยดูความต้องการของตัวเองเช่น ต้องการผ่อนชำระหรือไม่ ? ต้องการผ่อนนานเท่าไหร่ ? รวมถึงการใช้งานปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ? หากคุณเป็นคนที่ใช้จ่ายมือถือตั้งแต่ 599 บาทขึ้นไป หรือเป็นคนที่ใช้มือถือค่ายนั้นอยู่แล้ว การเลือกซื้อจากโอเปอเรเตอร์ย่อมเป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่า และยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ใช้งานเยอะและกำลังคิดจะย้ายค่ายด้วยแล้วหล่ะก็การซื้อผ่านโอเปอเรเตอร์ก็จะยิ่งประหยัดเงินได้มากยิ่งขึ้น (จากตัวอย่างที่เรายกขึ้นมาประหยัด 7,500 บาท)
ในส่วนของค่าบริการที่บางคนกังวลว่าต้องจ่ายล่วงหน้าก่อนแต่จริงๆ ถ้าเราไม่จ่ายล่วงหน้าเราก้ต้องจ่ายค่าเครื่องโดยที่ไม่ได้อะไร การจ่ายล่วงหน้านอกจากจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในอนาคตแล้วยังทำให้เราสามารถใช้งานมือถือของเราได้คุ้มค่ามากกว่าอีกด้วย (สมมุติซื้อ iPhone มาจ่ายรายเดือน 200 ได้เน็ตนิดเดียวแต่ซื้อผ่านโอเปอเรเตอร์จ่าย 200 ได้เน็ตใน 500 บาทในราคา 200 บาท)
ถ้าจะสรุปกันตรงนี้ สำหรับคนที่ใช้งานเป็นประจำอยู่ในระดับที่ค่ายมือถือจัดโปรโมชัน การซื้อเครื่องผ่านค่ายมือถือประหยัดกว่าแน่นอนครับ แต่จะมีส่วนที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมอย่างเดียวคือการติดสัญญา 1 ปี แต่ถ้าคุณเป็นลูกค้าเก่าและไม่ใช่คนที่ย้ายค่ายบ่อยส่วนนี้ก็คงไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด ผมเองก็เชื่อว่าในอนาคตทุกค่ายก็คงจะต้องเร่งพัฒนาเครือข่ายให้ดีและเร็วมากยิ่งขึ้นกันอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีในการเลือกซื้อทุกครั้งอยากให้ทุกคนศึกษาข้อกำหนดหรือเงื่อนไขให้ชัดเจนรวมถึงดูความเหมาะสมในการใช้งานของตัวเองด้วย เพื่อให้ประหยัดเงินและสามารถใช้ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุด สำหรับวันนี้ทีมงานคงต้องขอลาไปก่อนพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับ สวัสดีครับ
--------------------------------------
บทความโดย : techmoblog.com
ที่มา - Dtac Online Store
- โปรโมชัน UP จาก Dtac
Update : 15/12/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |