[รีวิว] dtac Phone Eagle X 4G สมาร์ทโฟนรุ่นสุดคุ้ม มาพร้อมกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และรองรับเครือข่าย 4G LTE ในราคาเพียง 5,990 บาท

ในปีนี้ ถือว่าเป็นยุคของ สมาร์ทโฟนราคาประหยัด เลยก็ว่าได้ครับ อีกทั้งในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนราคาประหยัดบางรุ่น มีฟังก์ชันการใช้งานเทียบเท่า สมาร์ทโฟนระดับกลาง หรือระดับไฮเอนด์บ้างแล้ว เหมือนกับสมาร์ทโฟนที่ทีมงาน techmoblog จะนำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ นั่นก็คือ dtac Phone Eagle X 4G ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่ เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ dtac ที่รองรับการใช้งานเครือข่าย 4G LTE ในราคาเบาๆ สบายกระเป๋าเพียง 5,990 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่า มาเจาะตลาดสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งานเครือข่าย 4G LTE ด้วยจุดขาย นั่นก็คือ มีราคาเพียงห้าพันกว่าบาทเท่านั้น

โดย dtac Phone Eagle X 4G พร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว แบบ แบบ In-Cell IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core ARM Cortex-A53 Processor (Qualcomm MSM8916 Snapdragon 410 chipset) ความเร็ว 1.2 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 8 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 32 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED, แบตเตอรี่ขนาด 2400 mAh และรันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop) นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดอีกด้วย โดย dtac Phone Eagle X 4G จะมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจอะไรอีกบ้าง มาพิสูจน์ไปพร้อมๆ กันกับ รีวิว dtac Phone Eagle X 4G โดยทีมงาน techmoblog ครับ

• จอแสดงผลกว้าง 5.0 นิ้ว แบบ In-Cell IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล
• หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core ARM Cortex-A53 Processor (Qualcomm MSM8916 Snapdragon 410 chipset) ความเร็ว 1.2 GHz
• หน่วยประมวลผลภาพ Adreno 306 GPU
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
• หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 8 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 32 GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
• แบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 2400 mAh
• รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop)
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียว
• รองรับการใช้งานเครือข่าย 4G LTE

>> สเปค dtac Phone Eagle X 4G อย่างละเอียด คลิกที่นี่

dtac Phone Eagle X 4G หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ZTE Blade S6 Lite มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลกว้าง 5.0 นิ้ว แบบ In-Cell IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, มีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 144 x 70.7 x 7.7 มิลลิเมตร และน้ำหนักอยู่ที่ 132 กรัม โดยตัวเครื่อง เป็นพลาสติก จับได้ถนัดมือ

ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (เซ็นเซอร์จาก Toshiba), ลำโพงสำหรับสนทนา และ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่ม Home และปุ่มเมนู โดยปุ่มย้อนกลับและปุ่มเมนู สามารถตั้งค่าเพื่อสลับการทำงานได้ ขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้ใช้ ส่วนปุ่ม Home ยังทำหน้าที่เป็นไฟแจ้งเตือนสถานะต่างๆ เช่น ชาร์จแบตเตอรี่, มีข้อความ หรือสายเรียกเข้า เป็นต้น

ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อคหน้าจอแสดงผล และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นถาดใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM โดยซิมการ์ดที่ 1 จะรองรับเครือข่าย 2G/3G/4G ส่วนซิมการ์ดที่ 2 จะรองรับเฉพาะเครือข่าย 2G เท่านั้น และถัดมา จะเป็นถาดสำหรับใส่หน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card รองรับสูงสุด 32 GB

ด้านบนตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างตัวเครื่อง จะเป็นไมโครโฟนตัวหลักสำหรับสนทนา และพอร์ต microUSB

dtac Phone Eagle X 4G มาพร้อมกับกล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (เซ็นเซอร์จาก Samsung), ไฟแฟลชแบบ LED และไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ตรงกลางเป็นโลโก้ dtac และแบรนด์ ZTE ส่วนด้านล่างเป็นลำโพงเสียง โดย dtac Phone Eagle X 4G รุ่นนี้ ไม่สามารถถอดแกะฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ครับ ส่วนแบตเตอรี่ มีขนาดความจุอยู่ที่ 2400 mAh

dtac Phone Eagle X 4G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop) ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งมาพร้อมกับอินเทอร์เฟสที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ปลดล็อคหน้าจอด้วยการปัดขึ้น ส่วนการกดปุ่ม Power ค้างไว้ ก็จะเข้าสู่เมนูลัดครับ ซึ่งได้แก่ เริ่มใหม่, ปิดเครื่อง, โหมดเครื่องบิน, เปิด-ปิดเสียง, เปิด-ปิดระบบสั่น เป็นต้น

มากันที่หน้า Homescreen กันบ้าง โดยมาพร้อมกับแอปพลิเคชันพื้นฐานมากมาย ซึ่งรุ่นนี้ เป็นอีกรุ่นที่ไม่มี App Drawer ครับ

การปัดหน้าจอจากด้านบนลงล่าง จะเป็น Notification Center แถบแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ ประกอบด้วย เมนูลัดตั้งค่าการใช้งาน เช่น เปิด-ปิด Wi-Fi, เปิด-ปิด Bluetooth, เปิด-ปิดโหมดใช้งานบนเครื่องบิน และอื่นๆ

ส่วนการปัดจากด้านล่างขึ้นบน จะเป็นการปรับแต่งลูกเล่นบนหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น ภาพวอลเปเปอร์, เอฟเฟกต์การเลื่อนหน้าจอ และเมนูการตั้งค่า

การแตะปุ่มเมนูค้างไว้ จะเป็น Multitasking สลับไปใช้งานแอปพลิเคชันอื่น หรือปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งาน เพื่อเป็นการเพิ่ม RAM ให้กับตัวเครื่อง ส่วนการแตะปุ่ม Home ค้างไว้ จะเป็นการเปิดใช้งาน Google Now ครับ

สำหรับบริการต่างๆ จากกูเกิล ก็มีให้เลือกใช้มากมายทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Chrome, Gmail, Google+, Google Maps, YouTube และอื่นๆ

ส่วนบริการต่างๆ จาก dtac ก็มีให้ใช้งานเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น dtacPlay, dtac music, Game Room และอื่นๆ

แอปพลิเคชันพื้นฐานอย่าง ไฟฉาย, เครื่องคิดเลข และวิทยุ FM ก็มีให้ใช้งานบน dtac Phone Eagle X 4G ด้วยเช่นกัน

ทดสอบการใช้งานเบราว์เซอร์กันบ้าง โดยเบราว์เซอร์ที่มีมาให้ในตัวเครื่อง มีทั้ง Google Chrome และ Opera แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดเบราว์เซอร์อื่นเพิ่มเติมได้จาก Play Store

มาทดสอบการเล่นเกมกันบ้างครับ โดย dtac Phone Eagle X 4G รุ่นนี้ มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core ARM Cortex-A53 Processor (Qualcomm MSM8916 Snapdragon 410 chipset) ความเร็ว 1.2 GHz, หน่วยประมวลผลภาพ Adreno 306 GPU และหน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB ซึ่งประมวลผลได้อย่างลื่นไหล แต่ถ้ามีการเปิดหลายแอปพลิเคชันพร้อมกัน ก็มีอาการหน่วงเล็กน้อย

ปิดท้ายด้วยผลการทดสอบ Benchmark บน dtac Phone Eagle X 4G กันบ้าง โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant วัดความเร็วในการทำงานของ CPU และกราฟฟิค อยู่ที่ 2,495 คะแนน และ AnTuTu ทดสอบ CPU, 2D & 3D graphics, SD card และ Database อยู่ที่ 21,516 คะแนน

ส่วนมัลติทัช รองรับ 10 จุดครับ

นอกจาก dtac Phone Eagle X 4G จะมีจุดเด่นตรงที่ รองรับการใช้งานเครือข่าย 4G LTE แล้ว ในส่วนของการถ่ายภาพ ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดการถ่ายภาพ 3 โหมดด้วยกัน ได้แก่ ปกติ, สวยงาม และยิ้ม เรียกได้ว่า ชาวเซลฟี่ (Selfie) น่าจะถูกใจมากเลยทีเดียว

ส่วนกล้องด้านหลัง มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0 นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับโหมดการถ่ายภาพให้เลือกถึง 9 โหมดด้วยกัน ได้แก่ ปกติ, อัตโนมัติ, HDR, พาโนรามา, สวยงาม, ยิ้ม, ภาพที่ชัดเจน, กลุ่ม และตั้งให้ตรง

มาชมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล บน dtac Phone Eagle X 4G กันครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ dtac Phone Eagle X 4G สมาร์ทโฟนราคาประหยัด ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่คุ้มค่าเกินราคา นั่นก็คือ ความสามารถในการรองรับเครือข่าย 4G LTE และจุดเด่นในเรื่องของ ราคา เพียงห้าพันกว่าบาทเท่านั้น นอกจากนี้ dtac Phone Eagle X 4G ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว แบบ แบบ In-Cell IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core ARM Cortex-A53 Processor (Qualcomm MSM8916 Snapdragon 410 chipset) ความเร็ว 1.2 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 8 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 32 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (เซ็นเซอร์จาก Toshiba) พร้อมโหมดใบหน้าสวย, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (เซ็นเซอร์จาก Samsung) พร้อมไฟแฟลชแบบ LED, แบตเตอรี่ขนาด 2400 mAh และรันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop) นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดอีกด้วย

โดย dtac Phone Eagle X 4G มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 5,990 บาท พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มสำหรับลูกค้ารายเดือน เปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน หรือลูกค้าใหม่ รับส่วนลดค่าบริการรายเดือนสูงสุดถึง 3,600 บาท และสามารถรับสิทธิ์ผ่อนค่าเครื่องได้ 0% นาน 20 เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจ Love & Roll เน็ต 4G/3G ครับ นอกจากนี้ ยังรับประกันนานถึง 15 เดือนอีกด้วย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac.co.th

จุดเด่นของ dtac Phone Eagle X 4G

• เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับเครือข่าย 4G LTE ที่มีราคาประหยัด เพียง 5,990 บาท
• จอแสดงผลกว้าง 5.0 นิ้ว แบบ In-Cell IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล
• หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core ARM Cortex-A53 Processor (Qualcomm MSM8916 Snapdragon 410 chipset) ความเร็ว 1.2 GHz
• หน่วยประมวลผลภาพ Adreno 306 GPU
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
• หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 8 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 32 GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์จาก Toshiba และโหมดใบหน้าสวย
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และเซ็นเซอร์จาก Samsung
• แบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 2400 mAh
• รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 (Lollipop) ตั้งแต่แกะกล่อง
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียว
• ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
• มีวิทยุ FM ในตัว
• รับประกันตัวเครื่องนาน 15 เดือน

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

• ซิมการ์ดที่ 2 รองรับเฉพาะเครือข่าย 2G เท่านั้น
• ไม่รองรับเครือข่าย 3G คลื่นความถี่ 900 MHz
• ไม่สามารถถอดแกะฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้

 

 

---------------------------------------
ข้อมูลโดย : techmoblog.com