สำหรับหนอนหนังสือตัวยง คงจะคุ้นเคยกับคำว่า e-book กันดีนะครับ ซึ่ง Apple ได้ออกแบบ
iPad ให้สามารถอ่าน e-book ได้ โดยผ่าน App ที่มีชื่อว่า iBook โดยในตอนแรกที่
iPad เปิดตัวนั้น iBook เป็น App ที่ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดนอกประเทศสหรัฐอเมริกา เลยทำให้ผู้ใช้ iPad ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในอเมริกานั้น ใช้ iBook ได้ จึงเกิด App หนึ่งที่มีชื่อว่า Kindle for iPad นั่นเองครับ (ผมเคยเขียนบทความ App ตัวนี้เอาไว้
ลองอ่านดูนะครับ )
แต่ตอนนี้ iBook สามารถใช้งานได้ทั่วโลกแล้วครับ อ่านแล้วอย่าเพิ่งสับสนกัน...
กลับมาที่ Kindle กันบ้าง จริงๆ แล้ว Kindle นั้น เป็นเหมือนแท็บเล็ต e-book อย่างนึงครับ ลักษณะหน้าตาก็คล้ายๆ iPad นี่แหละ เพียงแต่ Kindle จะไม่มี App ตัวอื่นๆ เหมือนอย่าง
iPad เพราะ Kindle เอาไว้เพื่ออ่านหนังสือออนไลน์อย่างเดียวเท่านั้น พูดง่ายๆ ก็คือ เหมือนกับคุณเปิดหนังสืออ่านตามปกตินั่นแหละครับ
ผมว่า มีหลายคนที่ชอบอ่านหนังสือ แต่ไม่อยากพกหนังสือหนักๆ ไปไหนมาไหน เลยสรรหา e-book มาไว้ทดแทนกัน ซึ่งบางคนก็ลังเลครับว่า iPad ดี หรือว่า Kindle ดี เพราะทั้งคู่ก็สามารถอ่าน e-book ได้เหมือนกัน งั้นผมจะแจกแจงให้ฟังแบบง่ายๆ นะครับ คือ
ถ้าหากคุณชอบอ่านอย่างเดียว ไม่อยากเล่น App อื่นๆ ล่ะก็ ให้ซื้อ Kindle ครับ ซึ่ง Kindle เวลาใช้งาน จะสบายตากว่า iPad เนื่องจากถูกออกแบบให้เหมือนหนังสือ อีกทั้งสามารถอ่านท่ามกลางแสงแดดจ้าๆ ได้ ส่วนคนที่ชอบอ่านหนังสือด้วย เล่น App เล่นเกม เปิดเว็บ แนะนำให้ซื้อ iPad ครับ
ปิดท้ายด้วยคลิปวิดีโอโปรโมต Kindle ของทาง Amazon จะช่วยทำให้เห็นภาพการใช้งานของ Kindle มากขึ้นครับ
Update : 31/03/2011
Cool Gadgets
Kindle
iPad
eBook
iPad 2
iPad 2
ipad
ibook