เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา Elon Musk ได้ออกมาประกาศจัดตั้งบริษัทแห่งใหม่ Neuralink ที่มุ่งเป้าไปที่การเชื่อมต่อสมองมนุษย์เข้ากับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นโปรเจ็กต์ที่ฟังดูก้าวล้ำ แต่ในขณะนั้นเจ้าตัวยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเบื้องลึกให้ทราบกันมากนัก แต่ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายงานฉบับเต็มผ่านทาง Wait But Why เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยทาง Elon Musk ระบุว่า เจ้าตัวจะเป็นก้าวขึ้นหัวเรือของ Neuralink โดยนั่งตำแหน่ง CEO ด้วยตนเอง ทำให้ในขณะนี้ ต้องดูแลทั้งหมด 3 บริษัทไปพร้อมๆ กัน ได้แก่ Tesla, SpaceX และ Neuralink แต่สำหรับบริษัทแห่งใหม่นี้ นับว่ามีเป้าหมายที่แตกต่างไปจากบริษัทก่อนๆ พอสมควร เนื่องจาก 2 บริษัทก่อนหน้านี้ ตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตมนุษย์ในอนาคต แต่ Neuralink ตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนแปลงความเป็นไปของมนุษย์ในอนาคตเลยทีเดียว
เป้าหมายระยะสั้นที่ Neuralink ต้องการจะทำนั้น คือการฝังอุปกรณ์ที่สมองเพื่อช่วยให้สมองเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ โดยสิ่งนี้จะมีประโยชน์ต่อทางการแพทย์ในด้านการรักษาโรคที่เกี่ยวกับสมองบางชนิด เช่น โรคหลอดเลือดในสมอง (Stroke) หรือ โรคแต่กำเนิด (Congenital) ซึ่งทาง Elon Musk คาดว่า จะสามารถทำโปรเจ็กต์นี้สำเร็จได้ภายใน 4 ปีข้างหน้า
แนวคิดการสื่อสารในอนาคต ไม่ต้องพูด แค่คิดก็พอแล้ว
แต่จุดที่น่าสนใจคือ เป้าหมายระยะยาวที่ Neuralink ตั้งเป้าพัฒนาไว้ คือการช่วยให้มนุษย์สามารถก้าวทันความล้ำหน้าของ AI ด้วยการผสาน AI เข้ากับสมองที่ความรู้สึกนึกคิดที่มนุษย์มีอยู่ในตัว ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว เทคโนโลยีจาก Neuralink จะช่วยให้มนุษย์ประยุกต์ใช้ AI เป็นตัวช่วยในการทำงานในอนาคต นอกจากนี้ เจ้าตัวยังตั้งเป้าที่พลิกโฉมการสื่อสารของมนุษย์ผ่านระบบ Cloud โดยให้เหตุผลว่า มนุษย์มักจะมีไอเดียต่างๆ กระจายในหัวอยู่เป็นจำนวนมาก แต่การส่งต่อความคิดเหล่านี้สู่โลกภายนอก เรากลับต้องแปลเป็นภาษาพูด หรือภาษาเขียนให้คนอื่นเข้าใจเท่านั้น แต่เทคโนโลยีของ Neuralink จะทลายกำแพงนี้ ด้วยการช่วยให้เราอัปโหลดความคิดของตัวเอง ไปใส่ในสมองคนอื่นได้โดยตรง เพื่อสื่อสารกันได้เร็วขึ้น นับว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายพอสมควร
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีที่กล่าวไปด้านต้น ยังคงห่างไกลกับการนำมาใช้งานจริง แต่ทาง Elon Musk คาดการณ์ว่า อีกราวๆ 8 - 10 ปี น่าจะสามารถผลิตอุปกรณ์สำหรับใช้งานกับบุคคลทั่วๆ ไป ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับข้อกำหนดด้านกฏหมายต่างๆ ด้วย ส่วนใครที่มีเวลาว่างอยากศึกษาเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ของ Neuralink แบบจัดเต็ม สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Wait But Why ครับ
---------------------------------------
ที่มา : TechCrunch, Fortune, mashable
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 21/04/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |