ย้อนรอยกล้องดิจิตอลตัวแรกของโลก นวัตกรรมพลิกวงการที่ถูกเก็บเป็นความลับมาตั้งแต่ปี 1975 จนถึงวันที่ Kodak ล้มละลาย

เราอาจจะเริ่มรู้จักกล้องดิจิตอลกันตั้งแต่ช่วงปี 1990-2000 และเชื่อว่านั่นคือจุดเริ่มต้นของยุคการถ่ายภาพด้วยระบบดิจิตอล แต่จริงๆ แล้ว กล้องดิจิตอลมีประวัติยาวนานกว่านั้นมาก เพราะกล้องดิจิตอลตัวแรกของโลกมีการประดิษฐ์ขึ้นมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ทว่ามันกลับถูกปกปิดเป็นความลับสุดยอด และไม่เคยวางจำหน่ายเลยแม้แต่เครื่องเดียว ทำไมนวัตกรรมพลิกวงการเช่นนี้ถึงถูกเก็บซ่อนไว้นานนับสิบๆ ปี วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังครับ

กล้องดิจิตอลตัวแรกของโลกประดิษฐ์ขึ้นในปี 1975 โดย Steven Sasson วิศวกรหนุ่ม (ในตอนนั้น) ที่เพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัท Kodak ผู้ครองตลาดอุปกรณ์การถ่ายภาพครบวงจรจนแทบจะไม่มีคู่แข่ง งานชิ้นแรกที่ Kodak มอบหมายให้เขาทำคือ ให้ลองศึกษาดูว่าอุปกรณ์ถ่ายเทประจุ (charge-coupled device - CCD) เอามาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง

เซ็นเซอร์ CCD

CCD เป็นอุปกรณ์เคลื่อนย้ายประจุไฟฟ้าไปสู่วงจรเพื่อแปลงเป็นสัญญาณดิจิตอล คิดค้นขึ้นในปี 1969 สำหรับวิศวกรหนุ่มไฟแรงอย่าง Sasson งานนี้ไม่ใช่เรื่องท้าทายเท่าไหร่ เขาคิดว่าบริษัทมอบหมายงานนี้ให้เขาเพราะกลัวว่าเขาจะไม่มีอะไรทำมากกว่า แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องทำมันให้สำเร็จ และแล้วเขาก็ประดิษฐ์กล้องดิจิตอลตัวแรกของโลกขึ้นมา

Steven Sasson กับกล้องดิจิตอลตัวแรกของเขา และกล้องดิจิตอลยุคใหม่

แม้กล้องดิจิตอลของเขาจะมีขนาดใหญ่เท่าเครื่องปิ้งขนมปัง เขาก็ยังเชื่ออยู่ลึกๆ ว่า สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้มีศักยภาพพอที่จะปฏิวัติวงการได้ แต่เมื่อเขานำไปเสนอกับบอร์ดบริหารของ Kodak เขากลับต้องผิดหวัง เพราะบอร์ดบริหารมองว่า กล้องดิจิตอลของเขาจะเข้ามาทำลายอาณาจักรอุปกรณ์ถ่ายภาพของ Kodak เนื่องจากในขณะนั้น Kodak ขายทุกอย่างที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพ และสิ่งที่ขายดีเป็นอันดับต้นๆ คือฟิล์มซึ่งใช้บันทึกภาพ (เปรียบเหมือน SD Card ในปัจจุบันแต่ต้องเปลี่ยนเรื่อยๆ) กล้องจะถ่ายอะไรไม่ได้เลยถ้าไม่มีฟิล์ม ฟิล์มจึงเป็นสินค้าที่ขายได้อย่างต่อเนื่อง แต่กล้องดิจิตอลของ Sasson ไม่ต้องใช้ฟิล์ม หมายความว่าหากกล้องดิจิทัลของเขาถูกนำไปพัฒนาต่อยอดและออกสู่ตลาด Kodak จะขายฟิล์มไม่ออกโดยปริยาย นอกจากนี้การจะนำภาพออกจากฟิล์มยังต้องใช้น้ำยาล้างฟิล์ม รวมไปถึงอุปกรณ์เฉพาะอื่นๆ สินค้าเหล่านี้ก็จะขายไม่ได้ตามไปด้วย

ฟิล์มเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกล้องยุคก่อน เมื่อถ่ายจนหมดม้วนแล้วก็ต้องเปลี่ยนใหม่เรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม บอร์ดบริหารอนุญาตให้เขาพัฒนากล้องดิจิตอลต่อไป และได้ยื่นจดสิทธิบัตรในปี 1978 แต่ในขณะเดียวกัน Sasson กลับถูกบังคับให้ปิดเรื่องกล้องของเขาไว้เป็นความลับสุดยอด ทำให้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ถึงการมีอยู่ของกล้องดิจิตอลตัวนี้

หลังจากนั้นแบรนด์กล้องถ่ายรูปและเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีกล้องดิจิตอลเป็นของตนเอง Kodak จึงทำเงินได้มหาศาลจากสิทธิบัตรที่ถืออยู่ แต่แล้วสิทธิบัตรก็หมดอายุลงในปี 2007 จังหวะนั้น Kodak ยังไม่พร้อมจะแข่งขันในตลาดดิจิตอล 5 ปีต่อมา แบรนด์สามัญประจำบ้านที่ครองตลาดมายาวนานอย่าง Kodak ก็ถึงคราวล้มละลาย และจำต้องขายสิทธิบัตรหลายรายการ ก่อนจะกลับมาตั้งตัวใหม่เป็นบริษัทที่เล็กกว่าเดิมมากในปี 2013

ปัจจุบันกล้องดิจิตอลของ Sasson ถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Smithsonian’s National Museum of American History ส่วน Sasson ก็ได้รับรางวัล National Medal of Technology and Innovation ในปี 2009 เพื่อเป็นเกียรติแก่เขาในฐานะบิดาแห่งเทคโนโลยีการถ่ายภาพดิจิตอลตัวจริง

จะว่าไปแล้วก็อดเสียดายแทน Kodak ไม่ได้ ทั้งที่มีนวัตกรรมปฏิวัติวงการอยู่ในมือแต่กลับมองไม่เห็นความสำคัญ และยังยึดติดกับสิ่งเดิมๆ หากในวันนั้นบอร์ดบริหารมองเห็นศักยภาพของกล้องตัวนี้ Kodak อาจจะยังเป็นผู้นำในวงการถ่ายภาพอยู่ก็เป็นได้ครับ

-------------------------------------- 
ที่มา : Vintagenews
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 25/07/2017

Digital camera kodak