เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงเห็นอุปกรณ์ชิ้นนี้ผ่านตากันมาบ้างแล้ว สำหรับ Google Chromecast อุปกรณ์ด้านความบันเทิงจาก Google ที่ล่าสุด สามารถหาซื้อใช้งานกันได้ง่ายมากขึ้น ผ่านทาง AIS ที่นำ Chromecast เข้ามาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยมีราคาค่าตัวเพียงแค่ 1,650 บาทเท่านั้นเอง
สำหรับ Chromecast นั้น คืออุปกรณ์ที่จะแปลงทีวี หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่รองรับพอร์ต HDMI ให้กลายเป็น Smart TV โดยที่เราไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อ Smart TV ที่มีราคาแพงแสนแพงแต่อย่างใด ฟังดูแล้วคล้าย ๆ กับการทำ Mirror แต่ความสามารถของ Chromecast เหนือกว่าการทำ Mirror อีกขั้น ซึ่งปกติ การทำ Mirror คือการส่งคอนเทนต์จากสมาร์ทโฟนไปแสดงบนหน้าจอทีวี หรือจอมอนิเตอร์เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถปิดหน้าจอสมาร์ทโฟน หรือเล่นแอปพลิเคชันอื่นได้ แต่สำหรับ Chromecast นั้น นอกจากจะสามารถส่งคอนเทนต์ไปแสดงบนหน้าจอทีวีได้แล้ว ยังสามารถปิดหน้าจอสมาร์ทโฟน หรือเปิดแอปพลิเคชันอื่นเล่นได้ตามปกติ โดยที่คอนเทนต์นั้น ๆ ยังคงแสดงผลบนหน้าจอทีวี ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า การ Cast ตามชื่อ Chromecast นั่นเอง
มาดูกันดีกว่าว่า อุปกรณ์ด้านความบันเทิงในราคา 1,650 บาทอย่าง Chromecast นั้น จะมีความสามารถมากน้อยแค่ไหน ใช้งานอย่างไร กับ รีวิว Google Chromecast โดยทีมงาน techmoblog ครับ
ดีไซน์ของ Chromecast เป็นทรงกลม ผิวมันเงา ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 51.9 x 51.9 x 13.49 มิลลิเมตร และหนักเพียง 39.1 กรัมเท่านั้น ถือว่า มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา พกพาสะดวก
ด้านหลังตัวเครื่องจะเป็นผิวเรียบด้าน ซึ่งสาย HDMI ที่ติดมากับตัวเครื่องนั้น ปลายด้านในจะมีแถบแม่เหล็ก สามารถยึดติดกับตัวเครื่องเพื่อเก็บสายเมื่อไม่ใช้งาน
ส่วนพอร์ตและปุ่มต่าง ๆ รอบตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไฟ LED แสดงสถานะ, พอร์ต microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และปุ่ม Reset เครื่อง
สำหรับแพ็กเกจของ Google Chromecast เป็นกล่องพลาสติกสีขาว ระบุคำว่า Chromecast อย่างชัดเจน
ข้างกล่องทั้ง 2 ด้านจะมีการระบุคุณสมบัติต่าง ๆ ของ Chromecast ซึ่งรองรับทั้งบน Android, iPhone, iPad, Mac, Windows และ Chromebook
ภายในกล่องจะมีคู่มือการใช้งาน ทั้งวิธีการเชื่อมต่อและการตั้งค่าการเริ่มต้นใช้งาน
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่อง ประกอบด้วย สายชาร์จแบบ microUSB ความยาว 1.75 เมตร และ Adapter สำหรับเสียบชาร์จไฟ
สำหรับการใช้งาน Chromecast ครั้งแรก ก็ไม่ได้มีวิธีการติดตั้งที่ยุ่งยากแต่อย่างใด เพียงแค่ใช้สาย HDMI บน Chromecast เสียบเข้ากับพอร์ต HDMI บนทีวี หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ จากนั้นต่อสาย microUSB เพื่อชาร์จไฟ ซึ่งจอทีวีบางรุ่น จะมีพอร์ต USB มาให้ สามารถเสียบชาร์จไฟได้ แต่สำหรับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ให้เสียบกับ Adapter หรือ Powerbank
Chromecast คือตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่าง สมาร์ทโฟน กับทีวีหรือจอคอมพิวเตอร์ ฉะนั้น เราจะต้องมีตัวควบคุมการทำงานเสียก่อน นั่นก็คือ แอปพลิเคชัน Google Home นั่นเอง โดยสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีทั้งบน Android และ iOS
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว มาเริ่มตั้งค่าการใช้งาน Chromecast ตามขั้นตอนที่ปรากฏ
สามารถตั้งชื่อ Chromecast ใหม่ได้
เลือกเครือข่าย Wi-Fi ที่ต้องการเชื่อมต่อ จากนั้นเริ่มใช้งาน Chromecast กันได้เลย
ทีมงานได้ลองทดสอบใช้งาน Chromecast กับ iPhone ผ่านทางแอปพลิเคชัน YouTube จะเห็นว่า มุมบนด้านขวานั้น จะมีปุ่ม Cast ปรากฏ ซึ่งหมายความว่า แอปพลิเคชันนี้รองรับการ Cast นั่นเอง จากนั้นให้แตะที่ปุ่ม Cast เพื่อส่งภาพและเสียงไปยังจอทีวี หรือจอคอมพิวเตอร์ เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นกระบวนการ Cast
โดยในระหว่างที่คลิปบน YouTube กำลังเล่นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้สามารถใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมตในการควบคุมการทำงานต่าง ๆ เช่น หยุดเล่นคลิป หรือกดข้ามไปดูส่วนอื่น ๆ ของคลิป นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานแอปพลิเคชันอื่นระหว่างที่คลิปบน YouTube กำลังเล่นอยู่ได้ โดยที่คลิปยังคงเล่นอย่างต่อเนื่องจนจบ เรียกได้ว่า สะดวกอย่างมากสำหรับคนที่อยากดูทั้งคลิป และอยากจะแชทไปด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่ง Chromecast รองรับความละเอียดของสัญญาณวีดีโอสูงสุดที่ระดับ Full HD (1080p)
ส่วนการ Cast ไฟล์วีดีโอที่ถูกเก็บไว้ในสมาร์ทโฟน ก็สามารถทำได้เช่นกันผ่านทางแอปพลิเคชัน Google Play
Google Chromecast เป็นอุปกรณ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานด้านความบันเทิงโดยเฉพาะ ซึ่งหน้าที่หลัก ๆ ก็คือ การ Streaming ด้วยการส่งคอนเทนต์จากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไปยังหน้าจอทีวี หรือหน้าจอมอนิเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ฟังแล้วเหมือนกับการทำ Mirror แต่จริง ๆ ความสามารถของ Chromecast มีมากกว่านั้น เพราะนอกจากจะสามารถส่งคอนเทนต์ขึ้นจอใหญ่ได้แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้ตามปกติ โดยที่คอนเทนต์เหล่านั้นยังคงแสดงผลได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคุณสมบัตินี้เรียกว่าการ Cast นั่นเอง โดย Chromecast รองรับการ Cast กับหลาย ๆ อุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น Android, iOS, Mac, Windows รวมไปถึง Chromebook ถือว่าค่อนข้างครอบคลุม
Chromecast เหมาะกับใคร? สำหรับผู้ที่ชอบการชมคลิปวีดีโอจากแอปพลิเคชัน YouTube อยู่แล้ว ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์ ถึงแม้ว่าสมาร์ทโฟนปัจจุบันหลายรุ่น จะรองรับการใช้งานแบบ Multi-Window กับคุณสมบัติในการเปิด 2 แอปฯ พร้อมกันในหน้าจอเดียว แต่ก็ไม่สะดวกมากนัก เนื่องจากหน้าจอถูกแบ่งอย่างละครึ่ง ทำให้เหลือพื้นที่การใช้งานแค่ครึ่งจอเท่านั้น แต่ถ้าหากใช้ Chromecast ส่งคอนเทนต์จาก YouTube ไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือจอทีวี ในขณะที่ยังสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้ตามปกติ น่าจะช่วยทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น
ฟังดูแล้ว Chromecast น่าจะเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ไม่มี Smart TV และอยากรับชม YouTube แบบจอใหญ่ ๆ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างตรงที่ รองรับแค่บางแอปพลิเคชันเท่านั้น เบื้องต้นแอปฯ ที่รองรับ Chromecast ก็ได้แก่ YouTube, Facebook, Spotify, Google Play Music, Google Chrome, Netflix, IFLIX, TED, Twitch, AIS PLAY, HOOQ และอื่น ๆ แต่คาดว่าในอนาคตน่าจะมีแอปฯ ที่รองรับ Chromecast มากกว่านี้
สำหรับราคาของ Chromecast อยู่ที่ 1,650 บาท
จุดเด่นของ Chromecast
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 18/08/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |