หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[Tip & Trick] แบตเสื่อมหรือเปล่า? เคล็ดลับง่ายๆ ในการสังเกต แบตเสื่อม ที่ผู้ใช้มือถือต้องรู้

เจอแต่บทความ ชาร์จแบตเตอรี่อย่างไร ไม่ให้แบตเสื่อมเร็ว มาก็เยอะแล้ว คราวนี้ ทีมงาน techmoblog ขอเปลี่ยนแนว มาแนะนำ วิธีการสังเกต แบตเตอรี่บนสมาร์ทโฟนว่า ยังสภาพดีอยู่ หรือเสื่อมสภาพแล้ว มาฝากกันบ้าง ซึ่งปกติแล้ว สมาร์ทโฟนที่ถูกใช้มานานกว่า 2 ปี มักจะเจอปัญหา แบตเตอรี่เสื่อม กันอยู่แล้ว สำหรับรุ่นที่สามารถถอดแบตเตอรี่ได้ คงจะสังเกตได้ง่ายสักหน่อย แต่รุ่นที่ไม่สามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้อย่างเช่น iPhone จะมีวิธีสังเกตได้อย่างไร มาดูกันครับ

สังเกตด้วยตาเปล่า

สำหรับสมาร์ทโฟนที่สามารถถอดแกะฝาหลังได้นั้น คงจะได้เปรียบในจุดนี้ไป เนื่องจากสามารถถอดแบตเตอรี่ออกมาสังเกตได้นั่นเอง โดยก่อนที่จะแกะแบตเตอรี่ออกมาจากตัวเครื่องนั้น ให้ปิดเครื่องเสียก่อน จากนั้น ให้มาสังเกตดูว่า แบตเตอรี่ที่ใช้อยู่นั้น มีอาการบวม หรือมีของเหลวไหลออกมาหรือไม่ ถ้าเป็นไปในลักษณะนี้ นั่นหมายความว่า ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่กันแล้ว ส่วนแบตเตอรี่ที่มีของเหลวปะปนมาด้วย ห้ามนำไปใช้งานต่อโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำลายวงจรภายใน สมาร์ทโฟน ได้ และก่อนจะทิ้ง ควรห่อหุ้มถุงพลาสติกอีกชั้น ก่อนนำไปรีไซเคิลครับ

แบตเตอรี่เริ่มบวมหรือยัง? ให้ลองปั่นดู

ถ้าหากแบตเตอรี่บนมือถือที่ใช้อยู่ ยังไม่ออกอาการบวมมากนัก แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า แบตเตอรี่เริ่มบวมแล้วหรือยัง ให้ลองหมุนแบตเตอรี่ดูครับ ถ้าหากทดสอบแล้วพบว่า แบตเตอรี่สามารถหมุนได้ นั่นหมายความว่า แบตกำลังเริ่มบวมแล้ว เพราะแบตเตอรี่ปกติ จะมีลักษณะที่แบนราบไปกับพื้นผิว ไม่สามารถหมุนได้นั่นเอง

ระดับของแบตเตอรี่ลดลงเร็วมากน้อยแค่ไหน

ถ้าหากก่อนออกจากบ้าน ชาร์จแบตเตอรี่มาเต็มร้อย แต่ยังไม่พ้นเที่ยงวัน แบตเตอรี่กลับเหลือแค่ 10-20% ทั้งๆ ที่ไม่ได้หยิบมาใช้งานแบบนี้ ถือว่า เป็นอาการของแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมแล้วครับ ให้รีบเปลี่ยนใหม่โดยด่วน

เทคนิคการตรวจสอบแบตเตอรี่ สำหรับ iPhone และ Android ที่ไม่สามารถถอดแกะฝาหลังได้

สำหรับเคล็ดลับข้างต้นนี้ เหมาะสำหรับ สมาร์ทโฟน ที่สามารถถอดแกะฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ แต่สำหรับ สมาร์ทโฟน ที่ไม่สามารถแกะฝาหลังได้ อย่างเช่น iPhone จะมีวิธีการตรวจสอบ แบตเสื่อม ได้อย่างไรบ้าง? ให้ดาวน์โหลดโปรแกรม iBackupBot ซึ่งรองรับทั้งบน Mac และ PC มาใช้งานกันดู

หลังจากดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่ More Information ซึ่งด้านในจะมีข้อมูลของแบตเตอรี่อยู่ ให้สังเกตตรงคำว่า FullChargeCapacity ครับ ถ้าหากมีตัวเลขน้อยกว่า DesignCapacity นั่นหมายความว่า สมควรจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่ได้แล้ว ซึ่งจากรูป จะเห็นได้ว่า FullChargeCapacity อยู่ที่ 2900 ส่วน DesignCapacity อยู่ที่ 2855 แสดงว่า แบตเตอรี่ยังคงมีสภาพที่ดีอยู่

ส่วนผู้ใช้ มือถือแอนดรอยด์ ที่ไม่สามารถถอดแกะฝาหลังได้ จะมีวิธีตรวจสอบได้ง่ายเช่นกัน ด้วยการกด *#*#4636#*#* แล้วกดโทรออก ก็จะปรากฏข้อมูลของแบตเตอรี่ขึ้นมา ให้สังเกตตรงคำว่า Battery health ครับ

แต่ถ้าหากใช้วิธีข้างต้น แล้วไม่ได้ผล ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MicroPinch จากบน Play Store (ดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี) มาลองตรวจสอบดูก็ได้ครับ

 

 

---------------------------------------
รายละเอียดเพิ่มเติม : phonearena.com

Update : 26/03/2015

iPhone แบตเตอรี่





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy