สำหรับปัญหาเรื่อง แบตเตอรี่หมดเร็ว บน iOS 8 กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ผู้ใช้หลายๆ ราย กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ เนื่องจากสังเกตได้ว่า หลังจากที่อัพเดทเป็น iOS 8 แล้ว แบตเตอรี่ลดลงมากกว่าเวอร์ชันก่อน นั่นเป็นเพราะว่า บน iOS 8 นั้น ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์และลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามานั่นเอง แต่ว่า ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่อย่างใด ถ้าหากผู้ใช้รู้จัก ปิดฟังก์ชันที่ไม่ใช้งาน แต่ฟังก์ชันอะไรบ้าง ที่จะสามารถปิดใช้งานได้ วันนี้ ทีมงาน techmoblog จะบอกกล่าวให้ฟังกัน ซึ่งการปิดฟังก์ชันต่างๆ เหล่านี้ ช่วยทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ไปได้มากเลยทีเดียว
สำหรับการใช้งาน สมาร์ทโฟน ปกติแล้วจะมีการเปิดใช้งาน GPS เพื่อระบุพิกัดปัจจุบันได้ตลอดเวลา แต่ทราบกันหรือไม่ครับ แอปพลิเคชันบางตัว ไม่จำเป็นต้องใช้ GPS แต่กลับมี Location Service ที่จะทำให้ผู้ใช้เสียพลังงานแบตเตอรี่ไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยการปิด Location Service นั้น จะช่วยทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ไปได้มากทีเดียว
โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปตั้งค่าการใช้งาน Location Service ในแต่ละแอปพลิเคชันได้ ตามลักษณะการใช้งาน ซึ่ง Location Service จะแบ่งออกเป็น 3 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ
1. Always (ตลอดเวลา)
2. While Using (ขณะใช้)
3. Never (ไม่เลย)
สำหรับ Background App Refresh เป็นฟีเจอร์ใหม่บน iOS8 ที่ทำมาเพื่อให้แอปพลิเคชันสามารถรันแบบเบื้องหลังได้ แม้ว่าผู้ใช้จะปิดแอปพลิเคชันไปแล้วก็ตาม โดยแอปพลิเคชันที่ใช้ในการติดตามสถานที่ต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น Move เรียกได้ว่าเป็นประโยชน์มากครับสำหรับฟีเจอร์นี้ แต่สำหรับแอปพลิเคชันบางประเภท ที่ไม่จำเป็นต้องทำงานบนเบื้องหลัง แต่เปิด Background App Refresh ไว้ แน่นอนว่า สูญเสียพลังงานแบตเตอรี่ไปโดยเปล่าประโยชน์ครับ
โดยวิธีการปิดฟังก์ชัน Background App Refresh ให้เข้าไปที่ Settings > General > Background App Refresh
Auto-Brightness เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้อุปกรณ์ของเราปรับความสว่างของหน้าจอแบบอัตโนมัติ โดยใช้เซ็นเซอร์ในการวัดแสงในบริเวณที่เราอยู่และปรับแสงจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ณ ขณะนั้น ซึ่งฟีเจอร์นี้ถือว่าใช้พลังงานมากพอสมควร ทั้งตอนวัดปริมาณแสง และปรับแสงจอ บางครั้งอาจจะมีการวัดค่าคลาดเคลื่อนด้วยเช่นกัน อีกทั้ง ยังเป็นสาเหตุทำให้ตัวเครื่องร้อนอีกด้วย
ปกติแล้ว ผู้ใช้สามารถปรับความสว่างของหน้าจอได้ ด้วยการเข้าไปที่ Control Center หรือ ปิดใช้งาน Auto - Brightness ได้ ด้วยการเข้าไป Settings > Display & Brightness
ฟีเจอร์นี้ เป็นฟีเจอร์เกี่ยวกับ animation ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ตอนที่แตะเพื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน หรือตอนกดปุ่ม Home ซึ่ง ณ จุดนี้เอง จะมี animation การซูมเข้า-ออก ที่ใช้การประมวลผลและกราฟิคเป็นหลัก ทำให้สิ้นเปลืองแบตเตอรี่ได้เช่นกัน
โดยวิธีการเปิด Reduce Motion ก็คือ เข้าไปที่ Settings > General > Accessibility > Reduce Motion
Auto-Lock หรือการปิดหน้าจอเองอัตโนมัติ เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ช่วยทำให้ประหยัดพลังงานได้มาก เนื่องจากหน้าจอไม่มีการแสดงผลใดๆ นั่นเอง โดยผู้ใช้สามารถตั้งเวลาปิดหน้าจอเองได้ ตั้งแต่ 1 นาที, 2 นาที, 3 นาที, 4 นาที, 5 นาที หรือถ้าหากจำเป็นต้องเปิดหน้าจอไว้ตลอดเวลา ให้ตั้งค่าเป็น Never
สำหรับการตั้งค่าใช้งาน Auto-Lock ให้เข้าไปที่ Settings > General > Auto-Lock
โดยวิธีการข้างต้น ผู้ใช้สามารถนำไปปรับเปลี่ยนกับการใช้งานได้ตามใจ และสามารถใช้งานได้กับ iPhone ทุกรุ่นอีกด้วย
---------------------------------------
บทความโดย : techmoblog.com
Update : 26/03/2015
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |