สำหรับใครที่ใช้ iPhone อยู่ น่าจะเคยประสบปัญหาการเล่นเพลงเดิมให้ฟังซ้ำๆ ทุกครั้งที่ต่อ iPhone เข้ากับเครื่องเสียงภายในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการต่อผ่าน Bluetooth หรือพอร์ต USB ก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะ iPhone จะคอยเล่นเพลงแรกที่อยู่บนสุดของ Playlist เสมอ โดยอิงจากลำดับพยัญชนะของภาษาอังกฤษ ซึ่งนั่นหมายความว่า หากเพลงไหนที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร A ก็จะถูกเล่นก่อนเป็นลำดับแรกนั่นเอง เรื่องนี้แม้ว่าอาจไม่มีปัญหาสำหรับใครบางคน แต่สำหรับใครอีกหลายคนแล้ว การที่ต้องมานั่งฟังเพลงเดิมซ้ำๆ ทุกครั้งที่ต่อ iPhone เข้ากับรถยนต์ ก็อาจทำให้ผู้ใช้เกิดอาการเบื่อได้ แต่เคราะห์ดีที่เรายังพอมีทางออกอยู่บ้าง ตามคำแนะนำของสื่อต่างประเทศอย่าง The Verge ครับ
ปิดฟีเจอร์การเล่นอัตโนมัติ
ในรถยนต์บางรุ่น จะมีออฟชันให้ผู้ใช้งานสามารถปิดการเล่นเพลงอัตโนมัติได้ผ่านการตั้งค่าในเมนู Bluetooth แต่หากรถยนต์รุ่นใดไม่มีฟังก์ชันนี้ ให้ลองมองหาการตั้งค่าระดับความดังเสียงเริ่มต้น และลดระดับเสียงลงมาให้เหลือน้อยที่สุด เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เราไม่ต้องฟังเพลงเดิมแบบซ้ำๆ ขณะต่อ iPhone เข้ากับรถแล้ว
ดาวน์โหลด หรือสร้างเพลงที่ “ไม่มีเสียง”
หากวิธีด้านต้นยังไม่ได้ผล ทาง The Verge แนะนำให้ผู้ใช้งานลองสร้าง "เพลงแบบไร้เสียง" ขึ้นมา จากนั้นให้ตั้งชื่อไฟล์ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร A เป็นหลัก แล้วนำเพลงดังกล่าวไปลงผ่าน iTunes ซึ่งหากทำสำเร็จ iPhone ก็จะเล่นเพลงไร้เสียงที่ว่าเป็นลำดับแรกเมื่อเสียบเข้ากับเครื่องเสียงรถยนต์ ทำให้เราไม่ต้องทนฟังเพลงเดิมเล่นซ้ำๆ เป็นเพลงแรกอีกต่อไป
แต่หากใครที่ทำไม่เป็น ทาง The Verge แนะนำลองมองหาเพลง A a a a a Very Good Song ที่วางขายในราคา 0.99 ดอลลาร์สหรัฐ และกำลังติดชาร์ท Top 100 ของ iTunes อยู่ในขณะนี้ เพลงดังกล่าวเป็นฝีมือการแต่งของ Samir Mezrahi อดีตนักเขียนจาก BuzzFeed ที่มาพร้อมกับความยาว 10 นาที แต่ในเพลงจะไม่มีเนื้อร้อง, ไม่มีนักร้อง และไม่มีเสียงดนตรี หรือพูดง่ายๆ คือ มันเป็นเพลงไร้เสียงแท้ๆ นั่นเอง นอกจากนี้ ทาง Samir Mezrahi ยังได้เน้นย้ำว่า เพลงนี้จะถูกเล่นเป็นลำดับแรกอยู่เสมอเมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อ iPhone เข้ากับรถยนต์ด้วย ซึ่งนับว่าเป็นทางออกที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่แพ้กัน
อย่างไรก็ดี คำแนะนำด้านต้นก็มาจาก The Verge เท่านั้น ซึ่งยังมีวิธีอื่นที่ทำให้เราไม่ต้องมานั่งฟังเพลงเดิมซ้ำๆ ขณะต่อมือถือเข้ากับรถยนต์อีกมากมาย เช่น การหันไปใช้แหล่งข้อมูลภายนอกอย่าง Flash Drive สำหรับเล่นไฟล์เสียงแทน ซึ่งก็ได้แต่หวังว่า Apple จะเข้ามาแก้ไขปัญหาในจุดนี้ใน iOS เวอร์ชันถัดไปครับ
---------------------------------------
ที่มา : The Verge
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 15/08/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |